(สปอย์) The Earth is Online ฝ่าวิกฤตพิชิตหอคอยดำ เล่ม2

[คำเตือน]

เนื้อหาโพสนี้คือการ สปอย์  ถ้าต้องการอ่านรีวิว *กด*

ต้องการอ่านสปอย์ เลื่อนลงได้เลย ♥



 

(ต่อจากเล่ม1)

 

ถังโม่ถูกกลุ่มคนแปลกหน้าขวางทางไว้ 

คนกลุ่มนี้มาจากองค์กรแอ็ทแทค  ว่าด้วยเรื่องดันเจี้ยนที่พวกถังโม่เข้าไป มันเป็นดันเจียนนี้มีอันตรายสูงมากและยังไม่เคยมีใครรอดออกมา ถังโม่จึงเป็นผู้รอดชีวิตกลุ่มแรก พวกเขาจึงอยากเชิญไปแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

ถังโม่ตามคนมาที่ห้าง ฐานทัพของแอ็ทแทค ที่นี่เขาได้เจอลั่วเฟิงนักวิจัยหอคอย พวกเขาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แม้ถังโม่จะไม่เข้าแอ็ทแทค แต่พวกเขาก็ถือเป็นพันธมิตรกัน 

หลังจากออกมาได้ไม่นานถังโม่ก็ได้รับข้อความจากหอคอยดำว่า ตนเองมีความสามารถถึงระดับโจมตีหอคอยดำชั้นที่ 1 ให้เตรียมตัวโจมตีหอคอยในอีก 10 วันข้างหน้า ถังโม่ตกตะลึงแต่เขาก็พยายามเตรียมตัวให้ได้มากที่สุด โดยการลอบโจมตีผู้เล่นลักลอบคนอื่นเพื่อให้ได้พลังพิเศษมา

นอกจากนี้ เขายังสังเกตคนของแอ็ทแทค ที่กำลังเข้าไปยังดันเจี้ยนแห่งหนึ่ง ครั้งก่อนถังโม่ได้รู้ว่าบางดันเจี้ยนไม่อันตรายนัก สามารถเข้าแล้วออกได้ ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการฟาร์มไอเทม

ถังโม่วาร์ปเข้าไปในเกม kill bill  ดันเจี้ยนนี้มีลักษณะเป็นอุโมงค์ดินทอดยาว ในตอนที่ถังโม่ยังไม่เข้าใจอะไรนัก เขาก็ได้พบกับคนแปลกๆที่คาดว่าจะเป็น npc เกม เข้ามาบอกเขาว่าบิลบ้าไปแล้ว นายดูบาดแผลบนตัวฉันสิ ฝีมือบิลทั้งนั้น

ขณะที่เขาพูด ถังโม่ก็ได้ยินเสียงแปลกประหลาดดังมาจากข้างในทางลึก  npc ก็รีบพูดด้วยน้ำเสียงหวาดผวาว่า นี่เป็นเสียงของตัวประหลาดนั่น บ้ากันไปหมดแล้ว จากนั้นเขาก็มอบหมายให้ถังโม่ เข้าไปดูสถานการณ์ข้างใน อย่าให้ตัวประหลาดนั้นหลุดออกมาเด็ดขาด ตนเองจะรีบตามคนมาช่วย จากนั้นก็วิ่งหนีไปทันที ถังโม่มองตามเขาไป ส่วนในหัวได้ยินเสียงหอคอยดำแจ้งว่า ปลดล็อคเควสหลักฆ่าบิลใน 20 นาที

ถังโม่เข้ามาถึงข้างในแล้วพบ npc ที่มีบาดแผลฉกรรจ์คนหนึ่ง ป้ายชื่อเขียนว่าเควิส อีกฝ่ายได้เล่าว่าพวกเขาคือพนักงานของคณะละครสัตว์ และสัตว์ประหลาดคือไส้เดือนยักษ์ เขากังวลมากเรื่องที่ไส้เดือนตัวนั้นอยากจะฆ่าเขาและหนีออกไป

แต่ถังโม่ก็บอกว่าถ้ามันเป็นแค่ไส้เดือน เขาจะฆ่ามันเอง เควิสเลยมอบอาวุธให้ ถังโม่หยิบอาวุธแล้วรีบวิ่งออกไปหาไส้เดือนตัวนั้นเพราะเขามีเวลาอยู่แค่ 20 นาที หอคอยดำได้ประกาศกติกาของเกมว่า ห้ามใช้พลังพิเศษ ใช้ตะเกียงน้ำมันเป็นแสงสว่างเท่านั้น และมีแค่กระบองที่สามารถสร้างบาดแผลให้แก่ไส้เดือนได้ มันยังพูดทิ้งท้ายไว้อีกว่า บิลเจอแสงไม่ได้

ด้วยเวลาที่มีจำกัดและใช้พลังพิเศษไม่ได้ ถังโม่จึงฆ่าไส้เดือนไม่สำเร็จและหลุดออกมาจากดันเจี้ยน ดีที่บาดแผลจากการต่อสู้กับไส้เดือนยักษ์ของเขาหายไปทันทีหลังออกมา ดังนั้นเขาจึงเข้าดันเจี้ยนเริ่มเกมอีกครั้ง แต่ก็ยังฆ่าไส้เดือนไม่ได้อยู่ดี

ถังโม่เริ่มเกมเป็นครั้งที่ เขาทบทวนกฎของของเกมที่หอคอยดำบอก เมื่อเจอ npc ที่บาดเจ็บเพราะบิล เขาก็ตั้งใจมองแผลของอีกฝ่ายอย่างจริงจัง มันดูแล้วเหมือนมีมือคนมากกว่าไส้เดือนที่เขาได้ตีไป เมื่อเดินเข้าไปถึงหน้าเควิส เขาก็ถามชื่อเต็มของอีกฝ่าย   จากนั้นเขาก็จบชีวิตของบิล เคาวิส ลงตามความต้องการของเควส

เมื่อจบเรื่อง เขาเข้าไปปลอบโยนเจ้าไส้เดือนที่ถูกเขาตีไปหลายครั้ง จนได้รับของรางวัลเกมมาเป็นน้ำตาไส้เดือน ที่สามารถรักษาแผลได้ 3 ครั้ง ถังโม่ดีใจไม่น้อย เพราะถึงแม้เขาจะเก็บพลังพิเศษมาได้หลายอย่าง แต่ไม่มีพลังไหนเลยที่เป็นพลังรักษา 

ในที่สุดก็มาถึงวันที่ 10  เหลือเวลาอีก 2 ชั่วโมง ก่อนที่เขาจะต้องเริ่มเกมโจมตีหอคอย ถังโม่ติดต่อฟู่เหวินตั๋วสอบถามประสบการณ์โจมตีหอคอยของอีกฝ่าย  ฟู่เหวินตั๋วตอบกลับอย่างจริงจังและรวดเร็ว ทั้งยังให้กำลังใจถังโม่ให้รอดกลับมาให้ได้ โดยให้เหตุผลว่า หากไข่ไก่งวงเหลือเพียงฟองเดียว ก็ไม่รู้ว่าฟังก์ชั่นเซฟเกมของมันจะยังใช้ได้อยู่ไหม

ถังโม่กล่าวขอบคุณ พวกเขาเคยคุยกันไม่กี่ครั้งไม่สนิทกันจนแชร์ข้อมูลสำคัญให้กันได้ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ห่างเหิน รักษาความสัมพันธ์กันและกันเอาไว้ หลังพูดคุยเสร็จถังโม่ก็ถูกเรียกตัวเข้าไปยังหอคอย

เควสโจมตีหอคอยดำชั้น 1 พิเศษมาก เพราะมันไม่มีการบอกว่าเขาต้องทำอะไร ถังโม่ต้องคลำทางหาเนื้อเรื่องเอง เขาจับใจความที่มอนสเตอร์พูดเองเออเองได้ว่า ตนเองคือหนูน้อยหมวกแดงหลานสาวของคุณยายหมาป่า และวันนี้เขามาทำงานพิเศษ โดยการเฝ้าแปลงสวนเป็นเวลา 7 วันและต้องจับหนูสีทองให้เธอ ระหว่างที่เธอออกไปดูโชว์ที่คณะละครสัตว์

หนูจะมี 2 ประเภท หนูขนดำชอบกินมนุษย์ที่สุด ส่วนหนูขนทองทำลายไร่นา ให้เขาจับหนูขนทองภายใน 7 วันนี้ให้ได้ ถ้าเขาจับไม่ได้คุณยายหมาป่าจะกินเขาแทน เธออธิบายวิธีหาวางเหยื่อหน้าโพรงหนูเสร็จก็ออกจากบ้านไป

ในที่สุดถังโม่ก็ได้ยินเสียงหอคอยดำประกาศเควสสักที มันบอกกับเขาว่า นี่คือเกมตีหนูแฮมเตอร์สุดหรรษา กติกาตามนี้ ในหุบเขามอนสเตอร์มีหนูขนทองแค่ตัวเดียวเท่านั้น โลกของมอนสเตอร์ มี 24 ชั่วโมงต่อ 1 วันเหมือนกับโลกมนุษย์ มีโพรงหนู 9 โพรง แต่วางอาหารล่อได้เพียงโพรงเดียว หากมากกว่านั้นหรือไม่ได้ยืนอยู่หน้าโพรงหนูจะไม่ปรากฏตัว 

เนื่องจากนิสัยระมัดระวังตัวของถังโม่ ทำให้วันแรกเขาเลือกที่จะสังเกตการณ์ แล้ววันต่อๆมาถังโม่ก็พบกับความผิดปกติจนได้ นั่นก็คือในเวลานี้มีเพื่อนร่วมทีมที่มองไม่เห็นอยู่ การที่พวกเขาไม่ได้วางอาหารในโพรงเดียวกัน ทำให้ไม่สามารถจับหนูขนทองได้ และจะมีเพียงหนูขนดำที่มีพลังต่อสู้มาโจมตีเขาเท่านั้น

เมื่อสังเกตเห็น เขาก็เรียบเรียงปัญหาออกมาดังนี้  1 บุคคลที่มองไม่เห็นคือใคร  2 คนคนนั้นต้องการทำอะไรกันแน่ มีเควสเหมือนเขาหรือเปล่า  3 ทำยังไงให้คนๆนั้นนำจานมาวางโพรงเดียวกันกับเขา ถังโม่รู้สึกว่าเขาลืมเรื่องสำคัญไปแต่ก็ไม่แน่ใจว่าคืออะไร และเขาก็มั่นใจว่ามันเป็นแค่เกม ซึ่งมันจะต้องมีวิธีผ่านด่านอย่างแน่นอน

จากนั้นเขาก็พยายามใช้พลังพิเศษหลายๆอย่างของตน พบว่าบางอย่างใช้ได้แต่บางอย่างที่มีข้อกำหนดเรื่องเวลาใช้งานไม่ได้ และที่สำคัญเขาติดต่อคุณฟู่ผ่านไข่ไก่งวงไม่ได้เช่นกัน เรื่องนี้ทำให้เขาตกใจมาก แต่ขณะเดียวกันมันก็ยืนยันได้ว่านี่คือเกม Single Player  บุคคลที่เขามองไม่เห็น ก็คือตัวเขาเอง 

เรื่องราวดำเนินต่อไป เราจะได้พบกับถังโม่ที่พึ่งเข้ามาในป่า เจอคุณยายหมาป่า และเข้าใจว่า ตนเองเข้าเกมมาเป็นวันแรก ถังโม่คนนี้จะได้รับคำเตือนของถังโม่คนก่อนๆที่แฝงไว้อย่างแนบเนียน แน่นอนว่าเขาไม่เข้าใจ แต่เมื่อเกิดความสะกิดใจขึ้นมาแล้ว เขาก็เลือกที่จะเซฟเกมแต่ปรากฏว่า อุปกรณ์ไม่ทำงาน เขาจึงติดต่อฟู่เหวินตั๋วแทน

ตอนที่อีกฝ่ายรับสายถังโม่รู้สึกได้ว่าปลายสายตกใจมาก แต่เมื่อได้คุยกัน กลับเป็นถังโม่ตกใจเสียเอง เพราะเขาได้รู้ว่าเมื่อ 3 วันก่อนเขาใช้ฟังก์ชันเซฟเกมไปแล้วโดยที่ตนเองในตอนนี้จำไม่ได้เลย 

ที่สำคัญ วันนี้คือวันที่ 6 ธันวาคม เท่ากับว่าเขาเหลือเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น ถังโม่นิ่งงันไป

ฟู่เหวินตั๋วเล่าเรื่องราวของเมื่อ 3 วันที่แล้วให้ถังโม่ฟัง เมื่อฟังน้ำเสียงหนักแน่นทุ้มต่ำนั้นแล้ว จิตใจของถังโม่ก็ค่อยๆสงบลง ราวกับได้รับการปลอบโยน

เมื่อใจเย็นแล้วถังโม่คิดหาวิธีอย่างรวดเร็ว แม้ตอนนี้ตัวเขาจะเริ่มเกมเป็นวันแรก แต่หากยึดตามกติกาของหอคอย เขาจะต้องโจมตีหอคอยให้สำเร็จภายในวันที่ 7 ธันวาคม ดังนั้นเขาขอความร่วมมือจากฟู่เหวินตั๋ว ถ้าหากวันพรุ่งนี้เขาติดต่ออีกฝ่ายไป ขอให้ฟู่เหวินตั๋วถามตัวเขาให้ทีว่า หากเหลือเวลาอีกแค่ 1 วัน เลขไหนคือเลขนำโชคของเขา

ฟู่เหวินตั๋วสงสัยคำตอบนิดหน่อยจึงถามออกมา ถังโม่ก็ตอบกลับอย่างไม่ปิดบังว่า เขามีคนที่แอบชอบมานานแล้ว ซึ่งวันเกิดของคนๆนั้นคือวันที่ 9 เดือน 9

ได้ยินแบบนั้น ฟู่เหวินตั๋วชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะบอกว่าเขากำลังเดินทางไปที่เซี่ยงไฮ้ หวังว่าจะได้เจอคุณที่นั่นนะครับ ถังโม่ตกลง ถ้าครั้งนี้ผมยังไม่ตาย เจอกันที่เซี่ยงไฮ้ 

หลังวางสาย ถังโม่หยิบหนังสือบันทึกพลังพิเศษของตนเองออกมา เขามองพลังพิเศษที่สามารถเปลี่ยนชื่อคนได้ โดยแลกกับการที่คนคนนั้นได้รู้ความลับของเขา 

วันต่อมากับถังโม่คนใหม่ ถังโม่ที่ตอนนี้มีชื่อว่าโม่โม่ กำลังเข้าใจว่าวันนี้เป็นวันที่ 1 ธันวาคม เขากำลังวางแผนจับหนู ก่อนที่จะชะงักไป นี่เขาชื่อว่าโม่โม่อย่างนั้นหรอ ความกระสับกระส่ายปะทุขึ้นในใจ จากนั้นก็ท่องประโยคที่ผุดขึ้นมาว่า ความลับของโม่โม่คือโม่โม่แอบชอบวิกเตอร์มานานแล้ว

ฉับพลันเขาก็นึกถึงพลังพิเศษของตนเองได้ทันที เขาใช้พลังโดยที่ตัวเองไม่รู้เรื่องสักนิดเดียว และเมื่อพยายามหาเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นชื่อโม่โม่เขาก็นึกถึงไข่ไก่งวงเซฟเกมขึ้นมาได้ จึงติดต่อฟู่เหวินตั๋ว

ด้านฟู่เหวินตั๋วเองก็รอถังโม่ติดต่อมาอยู่ตลอด ทันทีที่มีสัญญาณเรียก เขาก็รีบรับสายพร้อมกับเรียกชื่ออีกฝ่าย แต่สิ่งที่ออกจากปากกลับเป็นคำว่าโม่โม่ แม้เขาจะจำได้ว่าถังโม่ชื่อถังโม่แต่สิ่งที่พูดออกมาก็ยังเป็นโม่โม่อยู่ดี

พวกเขาชะกันงักไปเพราะคำเรียกที่ฟังดูสนิทสนมนี้ ถังโม่รู้ดีว่าสู้หวนตั๋วได้รับผลกระทบจากพลังพิเศษ แต่พอถูกเรียกว่าโม่โม่หลายครั้ง ก็ชวนให้รู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน ฟังดูเหมือนสนิทสนมเกินไปหน่อย

หลังจากผ่านความกระอักกระอ่วนในช่วงต้นไปแล้ว ฟู่เหวินตั๋วก็เริ่มอธิบาย เมื่อถังโม่รู้ว่าวันนี้คือวันที่ ตนเองสูญเสียความทรงจำก็สีหน้าแย่ลงไม่น้อย แต่ขณะเดียวกันก็เข้าใจตัวเกมทั้งหมดแล้ว ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่เวลา

มี 2 ความเป็นไปได้คือ

ทุกๆวันเขาจะถูกหอคอยดำซ่อนความทรงจำเอาไว้ จึงคิดว่าวันนี้เป็นวันแรกอยู่เสมอ เพราะเปอร์เซ็นต์ในการจับหนูขนทองได้ตั้งแต่วันแรกค่อนข้างต่ำ ทั้งยังไม่รู้ว่าศัตรูแกร่งแค่ไหน ถังโม่ย่อมเลือกสังเกตก่อนทุกวันและไม่ยอมไปจับหนูสักที เกมจึงล้มเหลวไปโดยปริยาย

หรืออีกแบบ คือมีตัวเขาหลายคนในหลายมิติเวลา จะต้องทำให้เขาทุกคนรู้ตัวและเลือกไปจับหนูขุดทองที่โพรงเดียวกันเวลาเดียวกันให้ได้

ผู้หวนตั๋วประทับใจในความมีสติของถังโม่ แม้จะรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในวิกฤตก็ตาม เขาถามอีกฝ่ายตามที่เคยได้รับการไหว้วานไว้ โม่ผมอยากถามคุณหนึ่งคำถาม เสียงของฟู่เหมือนตัวทุ้มน่ะทุ้มต่ำน่าฟังทำเอาถังโม่ต้องก้มหน้ามองไข่ไก่งวงสีขาวอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ อีกฝ่ายพูดต่อว่า ถ้าโลกของคุณเหลือเวลาอีกแค่ 1 วันคุณคิดว่าเลขไหนคือเลขนำโชคของคุณ?’

ถังโม่ได้ยินแล้วก็เบิกตากว้าง เขาเข้าใจความลับของโม่ๆที่ถูกตัวเอง ส่งต่อเอาไว้แล้ว 

ฟู่เหวินตั๋วเห็นว่าถังโม่เข้าใจแล้วจึงบอกลาด้วยคำพูดที่เหมือนกับเมื่อวาน หวังว่าจะได้พบคุณที่เซี่ยงไฮ้นะ ถังโม่เองก็รับปาก  

ครั้งนี้ถังโม่สามารถจับหนูขนทองได้แล้ว เมื่อจับมันได้เขาก็ได้ความทรงจำทั้งหมดคืนมา หนูตัวนี้สามารถควบคุมมิติและเวลาได้ ทำให้มีถังโม่อยู่ในมิติเวลาแห่งนี้เป็นจำนวนมากโดยต่างคนต่างมองไม่เห็นอีกฝ่ายและไม่สามารถสื่อสารกันได้ แต่แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องสังเกตเห็นว่ามีตัวเองอีกคน เหลือเพียงแค่การเอาอาหารเหยื่อล่อไปวางอยู่ในโพรงเดียวกันเท่านั้น

ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นโม่โม่ให้ ติดต่อผู้เหวินตั๋ว พร้อมกันนั้นถังโม่ทุกคนจะได้รับสัญญาณว่า โม่โม่แอบชอบวิคเตอร์มานานแล้ว เพื่อให้พวกเขาเลือกโพรงที่ 9 อย่างพร้อมเพียง

ถังโม่ที่จับหนูขนทองเรียบร้อยแล้วมารอคุณยายหมาป่าอยู่ที่บ้าน เธอกลับมาอย่างอารมณ์ดีสุดขีดเพราะคิดว่าจะได้กินมนุษย์ กลับต้องตกใจเมื่อพบว่าถังโม่สามารถจับหนูขนทองได้จริงๆ คุณยายเสียดายมากที่ไม่สามารถกินเขาได้ ส่วนถังโม่ก็ได้รับร่มกันแดดของคุณยายหมาป่ามาเป็นของรางวัล

จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหอคอยดำประกาศว่า เกมตีหนูมาแฮมสเตอร์สุดหรรษาสิ้นสุด ตีหนูแฮมเตอร์ขนดำได้ทั้งหมด 11 ตัวหนูแฮมเตอร์ขนทอง 1 ตัว

ดวงตาของถังโม่เบิกกว้าง

หอคอยดำยังประกาศต่อไปว่า ผู้เล่นโม่โม่ผ่านด่านโหมดทั่วไปสำเร็จ เนื่องจากจับหนูแฮมเตอร์ขนทองได้ จึงผ่านด่านโหมดยากสำเร็จ ถังโม่ที่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็ก้นด่าหอคอยดำ

ที่แท้ตั้งแต่ต้นจนจบ เกมโจมตีหอคอยครั้งนี้เป็นแค่เกมตีหนูแฮมเตอร์ มันประกาศกติกาไว้ 8 ข้อ ไม่มีข้อไหนเลยที่บอกว่าถังโม่จะต้องจับหนูแฮมเตอร์ขนทองให้ได้จึงจะนับว่าเควสสำเร็จ ต่อให้หอคอยพูดไว้ตอนท้ายว่า คุณยายหมาป่าเกลียดหนูแฮมสเตอร์ขนทองเลยอยากจะให้หลานสาวของตนมาจับมัน แต่หอคอยก็ไม่ได้บอกว่าหากจับหนูขนทองไม่ได้เควสจะไม่สำเร็จเพราะนี่เป็นแค่เกมตีหนูแฮมสเตอร์เท่านั้น

แต่ด้วยนิสัยของถังโม่ที่จะไม่ลงมือโดยประมาท เกรงว่าเขาคงเลือกเฝ้ามองเฉยๆไปทุกวันแทน

ถังโม่นึกถึงวันเวลาที่เขาคิดหัวแทบแตกเพื่อที่จะจับหนูขนทองแล้วกัดฟันกรอด จากนี้จะต้องระมัดระวังกติกาทุกข้อของหอคอยให้ดีแล้ว มีโอกาสสูงมากที่มันจะสร้างหลุมพรางไว้ในคำพูดบางคำที่เราคิดไม่ถึง จุดที่ยากที่สุดของเกมนี้คือการหลอกให้ผู้เล่นไปจับหนูขนทองและพยายามไม่ตีหนูขนดำ 

เขาสงสัยว่า กับผู้เล่นคนอื่นที่ไม่มีอุปกรณ์เซฟเกมหรือพลังพิเศษหลายอย่างอย่างเขา จะสามารถผ่านด่านได้จริงๆหรือ แน่นอนว่าผู้เล่นคนอื่นคงมีพลังพิเศษและไอเทมอย่างอื่นอยู่ แต่ข้อกำหนดเกมนี้ก็ยัง สูงไปจริงๆ

เวลาเดียวกัน เสียงของหอคอยดำก็ดังขึ้นในหัวของผู้เล่นที่ผ่านหอคอยชั้น 1 แล้ว 23 คนทั่วโลกความว่า ผู้เล่นโม่โม่ผ่านหอคอยดำชั้น 1โหมดยากสำเร็จ  ฟู่เหวินตั๋วที่ได้ยินคำว่าโหมดยากก็หัวเราะออกมาเบาๆแล้วมุ่งหน้าลงใต้ต่อไป

เมื่อคิดทบทวนเรื่องเกมโจมตีหอคอยเสร็จแล้วถังโม่ก็เริ่มตรวจรางวัลที่ตนเองได้มา มันคือร่มกันแดดที่มีพลังป้องกันและโจมตีสูงมาก แต่ขณะเดียวกันก็มีวิธีใช้น่าอายเหมือนกัน ทั้งยังมีรางวัลที่เขาผ่านโหมดยากเป็นคนแรกของโลก นั้นคือเหรียญทองของราชา ที่สามารถสละสิทธิ์เกมของหอคอยดำได้ 1 เกม ถือเป็นคุณสมบัติที่ทำให้ถังโม่ตาลุกวาว  ข้อดีเด่นชัดขณะที่ข้อเสียก็ชัดเจน นั่นคือถึงแม้จะกันตายให้เขาได้แต่ขณะเดียวกัน เมื่อมีทางรอดสุดท้าย ผู้เล่นก็อาจจะไม่ทุ่มสุดตัวเท่าที่ควรจะเป็นอีกต่อไป

เขาจะต้องคอยเตือนตัวเองเสมอว่า จะผ่อนคลายเพราะแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด

หลังจากออกมาจากเกมหอคอยเขาก็ได้พบว่าในเมืองกำลังวุ่นวาย มีผู้เล่นลักลอบโจมตีเพื่อกินหัวใจของคนเป็นๆ ถังโม่ตกใจไม่อยากเชื่อ และตัดสินใจกลับไปที่องค์กรแอ็ทแทค เพื่อสอบถามเรื่องราวกับลั่วเฟิง

จากนั้นเขาจึงรู้ต้นสายปลายเหตุ ที่มีผู้เล่นลักลอบกลุ่มหนึ่งโจมตีคนอื่นเพื่อกินหัวใจ และเมื่อกินหัวใจแล้วก็จะแข็งแกร่งขึ้น คนขององค์กรเองก็เสียชีวิตด้วยนะมือของพวกมันไปแล้วหลายคน ขณะที่ปรึกษากันอยู่แจ็คส์มือดีขององค์กร แอ็ทแทค ก็กลับเข้ามารายงานว่า ระหว่างลาดตระเวนเพื่อตามหาผู้เล่นลักลอบ เขาได้ช่วยเหลือเด็กนักเรียน 2 คนไว้ ถังโม่ได้ยินลักษณะของนักเรียนแล้วก็นึกถึงเด็กอ้วนที่เขาเคยเจอ และเมื่อได้ยินว่าเพื่อนของเด็กอ้วนบาดเจ็บสาหัสเขาก็รีบไปหาเพื่อใช้น้ำตาไส้เดือนช่วยชีวิตจนพ้นขีดอันตราย

เมื่อเด็กอ้วนสงบสติอารมณ์ตัวเองได้แล้วเขาก็เล่าให้ฟังว่า คนที่โจมตีพวกเขาคือกลุ่มผู้เล่นลักลอบที่กำลังอาละวาดอยู่ จากนั้นถังโม่ได้รู้ว่าเด็กอ้วนมีวิธีการติดต่อกับเฉินซานซานเขาจึงกลับไปที่โรงเรียน เพื่อฝากข้อความไว้ ที่นั่นเขาได้พบกับผู้เล่นลักลอบที่ตั้งใจเข้ามาโจมตี ถังโม่ฆ่าคนคนนั้นและได้รับพลังมาเป็นพลังความเร็วที่แลกกับพลังชีวิต 

เพราะข้อความ เฉินซานซานจึงตามมาที่องค์กรแอ็ทแทคได้ในที่สุด 

10 วันต่อมาพวกเขาได้ข้อมูลที่อยู่ของผู้เล่นลักลอบกลุ่มนั้น ถังโม่และมือดีของ แอ็ทแทค จึงแฝงตัวเข้าไปเพื่อลอบโจมตีกลับ ในศึกครั้งนี้เด็กอ้วนได้สังหารหัวหน้าใหญ่ ที่คาดว่ามีพลังพิเศษเกี่ยวกับการกินหัวใจแล้วเก่งขึ้น ส่วนถังโม่จัดการไป2คน ได้รับพลังพิเศษปล่อยยางยืดใส่เป้าหมาย และพ่นไฟความร้อนสูง

เมื่อจบศึกครั้งนี้กลุ่มเด็กๆ 4 คนตัดสินใจเข้าร่วมองค์กรแอ็ทแทค  ส่วนถังโม่จะกลับไปดูที่ซูโจว เพราะคนของผู้ลักลอบกลุ่มนี้ยังอยู่ที่นั่นอีก 3 คน หากจัดการเสร็จแล้วถึงจะกลับมา

ระหว่างทางเป็นวันคริสต์มาสอีฟหอคอยดำประกาศเกมพิเศษวันคริสต์มาส ถังโม่ถูกดูดเข้าไปในเกมการ์ดแห่งความซื่อสัตย์ของพินอคคิโอ มีรางวัลคือดาวสีทองของซานตาคลอสและเหรียญทองราชาที่สามารถสละสิทธิ์เกมของหอคอยดำได้ 1 เกม เมื่อได้ยินแบบนี้ผู้เล่นคนอื่นๆต่างกระตือรือร้นขึ้นทันที 

ถังโม่เองก็แสดงออกถึงความสนใจรางวัลอย่างเหมาะสม แม้ว่ามันจะหลอกสายตาของชายชุดดำที่เฝ้ามองอยู่ไม่ได้ก็ตาม 

ตั้งแต่ที่ถูกดูดเข้ามาในด่านเกม พวกเขาสองคน สังเกตุเห็นอีกฝ่ายที่สะดุดตาในทันที เทียบกับคนชุดดำที่มองมาอย่างเปิดเผยแล้ว ถังโม่พยายามแสดงอย่างเก็บซ่อนที่สุด เพราะเขามองออกทันทีว่าอีกฝ่ายเก่งกาจเหนือชั้นมาก

ตอนแรกถังโม่ระมัดระวังตัวเพราะออร่าฝีมือของอีกฝ่าย แต่เมื่อได้ปะทะกันผ่านเกม มองเห็นสถานะผู้เล่นลักลอบ เขาจึงหยั่งเชิงและมั่นใจว่าอีกฝ่ายคือฟู่เหวินตั๋ว แต่ผลลัพธ์ของการหยั่งเชิงนี้ทำให้ฟู่เหวินตั๋วมั่นใจว่าถังโม่มีเหรียญทองราชาอยู่กับตัว

ถังโม่ตกใจ คนคนนี้สามารถสันนิษฐานความจริงออกมาได้ด้วยข้อมูลเพียงแค่นี้มันจะเก่งเกินไปแล้ว 

 

(จบเล่ม 2)

 

Ad Code

Responsive Advertisement