(สปอย์) The Earth is Online ฝ่าวิกฤตพิชิตหอคอยดำ เล่ม3

[คำเตือน]

เนื้อหาโพสนี้คือการ สปอย์  ถ้าต้องการอ่านรีวิว *กด*

ต้องการอ่านสปอย์ เลื่อนลงได้เลย ♥

ถังโม่เข้าใจได้ทันทีว่าชายคนนี้รู้เรื่องที่เขามีเหรียญทองของราชาได้ยังไง มันคงจะเป็นตอนที่พินอคคิโอประกาศรางวัลแล้วเขาไม่ระมัดระวังพอนั่นแหละ แต่ถึงอีกฝ่ายจะยังเชิงมา แต่เขาก็ไม่ได้ยอมรับ เพียงแต่บอกปัดไปเท่านั้น

ตอนนี้ถังโม่และฟู่เหวินตั๋วต่างรู้ตัวจริงของอีกฝ่าย แต่พวกเขาก็ยังคงระมัดระวังตัวซึ่งกันและกัน แต่เพื่อจะเอาชนะพินอคคิโอ ถังโม่จึงเป็นฝ่ายขอความร่วมมือจากฟู่เหวินตั๋ว โดยอ้างการพนันบังหน้า พวกเขาร่วมมือกันได้ดี ถังโม่รู้สึกว่าพวกเขาเข้าขาและรู้ใจกันมากกว่าที่คิด ขนาดแค่ส่งสายตาก็เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายแล้ว

ด้วยการสื่อสารของคนฉลาด 2 คน พวกเขาหลอกล่อพินอคคิโอทำให้อีกฝ่ายเสียสิทธิ์คุมเกมและพวกเขาได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเกมนี้ควรจะต้องเรียกว่าเกมการ์ดแห่งความซื่อสัตย์ของซานตาคลอส แต่พินอคคิโอกลับขโมยสิทธิ์ควบคุมเกมมาแทน

เมื่อความจริงเปิดเผย ทำให้ผู้เล่นที่เหลือในเกมนี้สามารถรอดชีวิตกลับมาได้ 

ทั้งสองคนที่ติดต่อกันผ่านไข่ไก่งวงมาตลอด แต่พบหน้ากันเป็นครั้งแรก ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรต่อกันเป็นพิเศษทั้งคู่ร่ำลากันเล็กน้อย แต่ก่อนจากกัน ถังโม่ก็ได้บอกที่อยู่กับฟู่เหวินตั๋ว เป็นการแสดงความจริงใจ 

ถังโม่หาที่พักผ่อนจนถึงตอนกลางดึก กิ่งต้นคริสต์มาสของเขาก็มีปฏิกิริยา มันสามารถทำให้สมรรถภาพของผู้เล่นสูงขึ้นได้ น่าเสียดายที่แรงกายของถังโม่โดดเด่นอยู่แล้ว เขาจึงไม่เห็นพัฒนาการอะไรพิเศษ และในคืนคริสต์มาสนี้เอง หอคอยดำยังประกาศเริ่มออนไลน์เวอร์ชั่น 2.0 ขอให้ผู้เล่นทุกคนพยายามทำความคุ้นเคยกับกติกาใหม่ให้เร็วที่สุด 

ความแปลงแปลงนี้ ทำให้ถังโม่กลับมาที่ฐานของแอ็ทแทคก่อน ทางนี้เฉินซานซานและผู้เล่นคนอื่นที่เล่นเกมในวันคริสต์มาสยังไม่กลับออกมา พวกเขาพยายามวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น สุดท้ายเขาก็ได้แต่ภาวนาให้เด็กสาวและเพื่อนร่วมองค์กรปลอดภัย โดยพวกเขาตกลงจะรอทุกคนไปอีก 10 วันก่อนที่จะเริ่มเกมโจมตีหอคอยครั้งใหม่

ถังโม่ปรึกษากับลั่วเฟิงถึงเกมหอคอยแบบใหม่ที่ชื่อเรียลดันเจี้ยน แต่เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลพวกเขาจึงได้แต่ปรึกษาในหัวข้อต่อไปนั่นก็คือผู้เล่นลักลอบ พวกเขาต่างรู้กันอยู่แล้วว่า หอคอยตั้งตนเป็นศัตรูกับผู้เล่นลักลอบ พวกเขาจึงวิเคราะห์ถึงเรื่องนี้ ว่าทำไมกัน?

แจ็คไม่ค่อยเข้าใจนักเพราะผู้เล่นลักลอบก็คือฆาตกรที่ฆ่าคนก่อนโลกออนไลน์ เพื่อนๆในองค์กรของเขาก็ถูกผู้เล่นลักลอบฆ่าตายไปหลายคน แต่ลั่วเฟิงก็อธิบายว่า ผู้เล่นลักลอบไม่ได้ฆ่าคนเพราะหอคอยดำสั่งให้ทำ และการจะฆ่าใครสักคนไม่จำเป็นต้องเลวเสมอไปด้วย ไม่ว่าคุณจะฆ่าคนเพราะอะไรคุณก็คือผู้เล่นลักลอบทั้งสิ้น 

หลังปรึกษากันเรื่องนี้เสร็จต่างคนต่างก็แยกย้ายไปทำเรื่องของตัว ตอนนั้นถังโม่บังเอิญได้รู้ข้อมูลจากคนที่พยายามปิดบังมันไว้ พวกเขาเป็นคนธรรมดาที่มาอาศัยอยู่ในห้างแห่งนี้ เพราะที่นี้มีองค์กรแอ็ทแทคปกป้องอยู่ พวกเขาจึงปลอดภัยจากผู้เล่นลับลอบ แต่ทั้งที่เป็นอย่างนั้น คนกลุ่มนี้กลับเห็นแก่ตัวตั้งใช้ประโยชน์เต็มที่โดยไม่ช่วยเหลืออะไรองค์กรกลับมา

ถังโม่เห็นว่าการเจรจาไม่เป็นผล เขาจึงใช้วิธีการที่ง่ายแต่เข้าใจได้ดีที่สุดคือการข่มขู่ จนคนพวกนั้นยอมบอกข้อมูลของเรียลดันเจี้ยนออกมา

เขาและแอ็ทแทคจึงรู้ว่ามันเป็นดันเจี้ยนของช่างซ่อมรองเท้าเหล็ก  มาปรากฏอยู่ไม่ไกลจากแถบโรงงาน

นอกจากนี้ยังมีเรียลดันเจี้ยนแบบจำกัดเวลา ที่ชื่อว่า ‘ร้านเหล้ากล้วยของอาณาจักรมนุษย์ใต้พิภพ’ เนื่องจากมันเป็นดันเจี้ยนจำกัดเวลาองค์กรแอ็ทแทค จึงส่งคนไปทางนั้นโดยที่ถังโม่ไม่ไปด้วยแต่ใช่ไอเทมที่ชื่อว่า ‘ใบปลิวรับสมัครงานร้านเหล้า’ที่ตนมี แลกกับการเล่าข้อมูลทั้งหมดเมื่อพวกเขากลับมา

กลุ่มแนวหน้าขององค์กรแอ็ทแทคออกเดินทาง ส่วนถังโม่และลั่วเฟิงยังอยู่ที่ฐาน ตอนนั้นเองที่ถังโม่ได้พบกับฟู่เหวินตั๋วอีกครั้ง อีกฝ่ายมาหาลั่วเฟิงเพื่อขอข้อมูลของสถาบันวิจัยหอคอยดำ

และในครั้งนี้เอง ถังโม่จึงได้รู้ว่าฟู่เหวินตั๋วเป็นพันตรีที่อายุน้อยที่สุดของหน่วยพิเศษ โค้ดเนมว่าเสี่ยวหลง และสถานะผู้เล่นลักลอบของเขาก็มาจากการปฏิบัติหน้าที่พิเศษของหน่วยรบนั่นเอง 

ยังมีการคัดเลือกของหอคอยดำ ที่จะเกิดปรากฏการณ์พิเศษกับคนบางกลุ่มเท่านั้น นั่นก็คือกระวนกระวายหัวใจเต้นเร็วขึ้น  พลังพิเศษของคนที่หอคอยดำคัดเลือกด้วยตนเองจะพัฒนาเองได้ ถังโม่ฟังแล้วก็นึกถึงพลังของตัวเองและเข้าใจดีว่าฟู่เหวินตั๋วก็เป็นคนที่ถูกหอคอยคัดเลือกเช่นกัน

นอกจากเรื่องนี้ที่ลั่วเฟิงเล่าให้ฟังแล้ว ถังโม่และฟู่เหวินตั๋วก็ได้คุยกันเป็นการส่วนตัว เขาจึงรู้ว่าฟู่เหวินตั๋วได้ช่วยจัดการผู้เล่นลักลอบที่บ้านเกิดของเขาเรียบร้อยแล้ว และทราบสภาพของปักกิ่งด้วยว่า ที่นั่นค่อนข้างวุ่นวาย มีองค์กรของผู้เล่นลักลอบมากมาย เมื่อได้ฟังถังโม่ก็รู้สึกกังวล และนึกถึงเพื่อนของเขาที่อยู่ปักกิ่ง

ข่าวที่ฟู่เหวินตั๋วนำมายังไม่หมดเพียงเท่านี้ ถังโม่ตกตะลึงเมื่อรู้ว่า ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วโลกแล้ว อย่างน้อยผู้เล่นที่ผ่านหอคอยดำชั้น 1ในแต่ละเขต  จะต้องเคยได้ยินประกาศของที่โม่โม่ผ่านหอคอยดำโหมดยากสำเร็จ

ถังโม่แอบกัดฟันด้วยความรังเกียจหอคอยดำสุดใจ เมื่อเขานึกถึงแผลที่ถูกหอคอยดำเล่นตลก แถมมันยังสร้างชื่อเสียงให้เขาฟรีๆอีก โชคดีที่ตอนนั้นเขาเปลี่ยนชื่อเป็นโม่โม่ ไม่อย่างนั้นไม่อยากคิดเลยว่าจะเป็นเป้าสายตาคนอื่นขนาดไหน

ขณะที่กำลังคุยเรื่องนี้ ลิสสมาชิกองค์กรแอ็ทแทคก็เข้ามาแจ้งว่าเฉินซานซานกลับมาแล้ว กำลังพักผ่อนอยู่ในห้องพยาบาล ถังโม่คิดจะไปเยี่ยมสาวน้อยคนนั้น น่าเสียดายที่ขณะกำลังเดินกันอยู่ พวกเขาก็หลงเข้าไปในเรียลดันเจี้ยนของช่างซ่อมรองเท้าเหล็ก

ถังโม่เผ่นหนี ทิ้งฟู่เหวินตั๋วไว้ให้รับมือกับช่างซ่อมรองเท้า ตอนแรกชายหนุ่มไม่เข้าใจ แต่เมื่อเห็นมอนสเตอร์ปรากฏตัวออกมาเขาก็พูดไม่ออก

ส่วนถังโม่ เขาไม่ทันไปไหนไกลก็ถูกจับกลับมา ฟู่เหวินตั๋วเห็นก็หัวเราะ แต่ไม่ทันไรก็โดนจับเช่นกัน แถมยังดิ้นไม่หลุดเลยด้วย ถังโม่จึงขอฟู่เหวินตั๋วคืนดี เพราะอย่างน้อยพวกเขาอาจจะต้องร่วมมือกันต่อในดันเจี้ยนอีก

เมื่อเข้ามาในโรงงาน ถังโม่และฟู่เหวินตั๋วถูกจับแยกกันไปคนละทาง ในห้องที่ถังโม่ถูกนำมาขังไว้ เขาพบกับผู้เล่นอีกคนหนึ่งรออยู่ก่อนแล้ว โดยที่ผู้เล่นนั้นมีสภาพร่างกายบาดเจ็บหนัก

ผู้เล่นคนนั้นแนะนำตัวว่าสิงเฟิง พร้อมทั้งบอกถึงความน่ากลัวของดันเจี้ยนนี้ ถังโม่ยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์นัก แต่เขาก็พบว่าในห้องที่ตนถูกนำมาขังมีคอมพิวเตอร์วางไว้เครื่องนึง และปลายสายของVideo Callคือฟู่เหวินตั๋ว จากนั้นพวกเขาก็ได้รับคำสั่งของเกม ให้ตามหาน้ำยาขัดรองเท้าที่หายไปของช่างซ่อมรองเท้าเหล็กให้เจอ

หลังผ่านการปรึกษากัน พวกเขาก็เข้าใจกติกาว่า ด้านถังโม่จะต้องรับมือกับฝูงหมาป่า ส่วนฟู่เหวินตั๋วจะต้องรับมือกับเกมตอบคำถามประหลาด ซึ่งเกมนั้นจะมีบทลงโทษหากตอบผิด แต่ก็จะได้รับคำใบ้สำหรับการตามหาน้ำยาขัดรองเท้า แต่ส่วนที่ยากของดันเจี้ยนแห่งนี้ห้ามใช้พลังพิเศษ และลดสมรรถภาพร่างกายของพวกเขาจนไม่ต่างจากคนธรรมดา ทั้งคู่จึงบาดเจ็บไปไม่น้อย คนนึงถูกเกมลงโทษ อีกคนถูกหมาป่าทำร้าย แต่ก็ยังไม่สามารถจบเกมได้

หลังถังโม่ถูกฟู่เหวินตั๋วพูดสะกิด เขาก็พบว่าตัวเองเหมือนจะมองข้ามสิงเฟิงไปอย่างน่าประหลาด ทั้งๆที่อีกฝ่ายยึกยัก ไม่ยอมบอกกติกาของเกมหรือประสบการณ์จากเกมนี้ให้เขารู้ แต่เขากลับไม่ถือสา จนกระทั้งถังโม่ก็บาดเจ็บหนัก สิงเฟิงจึงฉวยโอกาสนี้คิดจะทำร้ายเขา แต่ความจริงแล้วถังโม่เตรียมรับมืออยู่ตลอด เมื่อจัดการอีกฝ่ายได้จึงรู้ว่าสิงเฟิงเป็นคนฆ่าผู้เล่นคนก่อนๆ

จากนั้น ถังโม่ก็แก้ไขปริศนาของดันเจี้ยนจนเคลียร์มันได้ในที่สุด ของรางวัลด่านนี้ คือรองเท้าที่วิ่งบนน้ำหรือเพดานได้ รวมถึงพลังพิเศษของสิงเฟิงที่ทำให้คนมองข้ามหลอกเป็นหมูกินเสือ และนิสัยของถังโม่เองก็มีความเปลี่ยนแปลง เมื่อได้ร่วมมือกับฟู่เหวินตั๋วเขาจึงเริ่มไว้ใจคนอื่นมากขึ้น เต็มใจที่จะบอกข้อมูลต่างๆ โดยไม่อิดออด หรือต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเพียงอย่างเดียวอีกแล้ว

เมื่อกลับไปที่แอ็ทแทค เขาก็ได้พบกับเด็กสาวเฉินซานซาน จึงรู้ว่าตอนนี้พวกเขาสามารถเลือกโจมตีหอคอยดำ ได้ด้วยตัวเองแล้ว ซึ่งถังโม่คิดว่ามันดีกว่าถูกลากเข้าไปมาก เพราะพวกเขาสามารถเลือกเพื่อนร่วมทีมได้เอง ทำให้ร่วมมือหรือวางแผนได้มากกว่าร่วมมือกับคนอื่น 

ตอนที่พวกเขาปรึกษากันว่าจะเริ่มโจมตีหอคอยดำเมื่อไร ถังโม่ก็ได้ยินหอคอยบอกให้เขา เตรียมตัวโจมตีหอคอยระดับ 2ในอีกไม่ช้า ถังโม่จึงผละออกมาเพื่อเตรียมพร้อม ตอนแรกอยากจะขอให้ฟู่เหวินตั๋วช่วยสอนการต่อสู้ให้แต่อีกฝ่ายถูกดึงไปเล่นเกมระดับ 2 ก่อนเขาเสียอีก เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่เซฟเกมก็ผ่านได้ ถังโม่ก็วางใจขึ้นบ้างเล็กน้อย

เมื่อวันที่ต้องเริ่มเกมระดับ 2 มาถึงเขาถูกดูดเข้าไปในด่านหอคอย และพบกับเพื่อนร่วมทีมแปลกหน้า 2 คน คนนึงเป็นหญิงสาวออฟฟิศ ส่วนอีกคนนึงเป็นเด็กหนุ่มนิสัยประหลาดไม่น่าไว้ใจ พวกเขาเดินตามเกมของหอคอยดำไปเรื่อยๆจนหญิงสาวออฟฟิศเสียชีวิตไป ถังโม่เองก็เสี่ยงตายหลายครั้ง โดยที่เด็กหนุ่มแปลกใจมากที่เขารอดไปได้ตลอด

จนมาถึงด่านนึง พวกเขาได้พบกับเด็กหนุ่มวัยประถมซึ่งแนะนำตัวว่าชื่อฟู่เหวินเซิง เป็นเด็กชายวัย10ขวบที่ฉลาดหลักแหลมมาก มีเงาของใครบางคนจนถังโม่แปลกใจ แซ่เหมือนหน้าคล้าย หรือว่าเด็กคนนี้จะเป็นลูกของฟู่เหวินตั๋วกันนะ แต่เขาก็ไม่ได้แสดงตัวว่ารู้จักกับฟู่เหวินตั๋วแต่อย่างใด

เมื่อรวมตัวกัน 3 คนแล้ว พวกเขาก็เดินตามเกมของหอคอยต่อไป ด่านต่อไปคือการเดินผ่านประตูเขาวงกต ประตูแล้วประตูเล่า โดยที่จะต้องหลบเลี่ยงอย่าให้ทหารไพ่จับตัวได้ หลังจากที่เดินผ่านประตูกว่าร้อยบาน ถังโม่ก็เสนอให้พวกเขาพังกำแพงออกมาเพราะเวลาไม่เหลือแล้ว 

เมื่อออกกันมาได้แล้วพวกเขาจึงพบว่า กำแพงและประตูนั่นคือมิติพิเศษในเกม ตอนนั้นเองที่เกิดเหตุร้ายขึ้น เด็กหนุ่มนิสัยเสียต้องการขโมยไอเทมในมือถังโม่ แต่ถังโม่เองก็ไหวตัวทันและผลักเด็กหนุ่มให้ตกลงไปยังหลุมดำแทน เด็กหนุ่มคนนั้นทิ้งท้ายไว้ด้วยความแค้นว่าอย่าให้เจอกันข้างนอกนั่นเชียวนะ ถังโม่ฟังแล้วก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร 

เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ตายเพราะทำเควสเสร็จพอดี ส่วนโลกความจริงนั้นกว้างใหญ่ เจอกันค่อยรับมืออีกที

จากนั้นเรื่องราวก็จะเฉลยว่า ถังโม่ไม่ได้โดนโจมตีเป็นครั้งแรก เพราะเขาโหลดเซฟ ย้อนเวลากลับเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้โดยเฉพาะ

ในรอบแรกนั้น แม้เขาจะรู้ว่าเด็กหนุ่มพิกลคนนั้นผิดปกติ แต่อีกฝ่ายไม่ลงมือ เขาจะตีอื่นคนก่อนก็ใช่เรื่อง ตอนหลังจึงถูกเล่นงานจนโดนแย่งคีย์ไอเทมไป ถ้าไม่มีคีย์ไอเทมชิ้นนั้นเขาก็จะส่งเควสไม่ได้

ส่วนเด็กชายฟู่เหวินเซิงนั้นเป็นเด็กดีมากจริงๆ พยายามจะช่วยเหลือเขา โดยการเอาไอเทมส่วนของตัวเองให้  สำหรับเขามันคือของรางวัล แต่สำหรับถังโม่มันหมายถึงชีวิต

ในรอบนี้ถังโม่จึงเป็นฝ่ายโต้ตอบและแย่งไอเทมมา จากนั้นก็มอบไอเทมนี้ให้กับฟู่เหวินเซิง ทำให้เด็กชายที่ได้รับของรางวัลเพิ่มขึ้นมาดีใจมาก

เมื่อในด่านเหลือเขาเพียงคนเดียว คนที่อยู่ในสายไข่ไก่งวงก็ทักขึ้นมาว่า ทางนี้เกิดอะไรขึ้นและเหมือนเขาจะได้ยินชื่อของตนเอง ถังโม่เล่าให้ฟังคร่าวๆถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นก็บอกว่ามันไม่ใช่ชื่อของคุณ แต่เป็นเด็กชายที่ชื่อว่าฟู่เหวินเซิง

ฟู่เหวินตั๋วได้ยินชื่อแล้วก็เงียบไป จากนั้นก็บอกว่านั่นคือลูกพี่ลูกน้องของผมเอง (ลูกชายของลุงรอง)

 

 

(จบเล่ม 3)