(สปอย์) นิยาย debut or die บทที่9

 (การเดินเรื่องของนิยายจะต่างจากมังฮวาเล็กน้อย) *ไม่ใช่การแปล เป็นสรุปเหตุการณ์สำคัญในแต่ล่ะตอน




บทที่9

 

บนเวที ผู้เข้าร่วมถูกจัดเป็นรูปพัดโดยมีกลุ่มแพลตตินั่มอยู่ตรงกลาง แน่นอนว่ายิ่งอันดับสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งเข้าใกล้เซ็นเตอร์มากขึ้นเท่านั้น เพราะแบบนี้ระดับจึงมีความสำคัญ

              พวกเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตและกรรมการยังพูดราวกับว่า มันมีความหมายอย่างยิ่ง ทำให้เหล่าเด็กๆรู้สึกประทับใจ ผลทางอ้อมคือมีคนพยายามเข้ามาคุยกับมุนแดมากขึ้น เมื่อรู้ว่าเขาได้แพลตตินั่ม เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทีมงานวางแผนแบบไหนต่อ อยากได้ภาพแบบไหนจากเรื่องราวนี้กัน

              หลังจากกำหนดเซ็นเตอร์ตรงกลางแล้ว ต่อมาคือคนที่เต้นเก่ง ส่วนตำแหน่งของเขาถูกขนาบด้วย อีเซจินBและซอนอาฮยอนที่เต้นเก่งและอยู่ระดับโกลด์ ห่างออกไปคืออีเซจินA(นักแสดง)ที่ไต่ขึ้นมาได้ถึงซิลเวอร์ หรือจะเป็นเขาที่ได้เดบิวต์กัน?

              ไม่น่าเสียดายเหรอ?”  อีเซจินBที่อยู่ข้างๆถามขึ้น

              "ไม่นะ" 

              มุนแดตอบอย่างใจเย็น อีกฝ่ายน่าจะหมายถึงตำแหน่งบนเวทีไม่สมกับระดับแพลทินัม 

              ถ้าเป็นฉันคงจะเสียดายมากแน่ๆเลย”

              "ถ้าเป็นนายคงใช้"

 "เอ๋ทำไมนายคิดงั้นล่ะ ฉันดูอยากได้แอร์ไทม์ขนาดนั้นเลยเหรอ?"

 “ก็..นายเต้นเก่งนี่นา”

 การเต้นของอีเซจินBคือ A- เสียงร้องเป็น C+ และถ้าเขาไม่เล่นโน้ตเสียงสูง เขาอาจจะได้เกรดแพลทินัมแทนมุนแด

 “ว้าว ขอบใจนะ!”

              อย่างไรก็ตาม อีเซจินBยิ้มกว้างราวกับว่าเขารู้สึกดีขึ้น แล้วก็มีอีกเสียงหนึ่งเข้ามา

คุณเต้นไม่เก่งเหรอครับ”

เขาเป็นผู้เข้าร่วมระดับแพลทินัมที่ยืนอยู่ตรงกลางแถวหน้า การแสดงออกที่กะทันหันนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่ามีเจตนาร้ายอะไร แต่ปัญหาคือ เขาเป็นคนที่ได้อันดับหนึ่งในการประเมินอันดับ เซ็นเตอร์ของเวทีนี้

              ชื่อของอีกฝ่ายคือ ชายูจีน ในอนาคตจะมีชื่อเสียงมากจนมุนแดเคยเห็นบนทีวีนับครั้งไม่ถ้วน อย่างไรก็ตาม เขาแปลกกว่าที่คิดไว้ เขาโพร่งความคิดตัวเองออกมา ทั้งๆที่ไมโครโฟนและกล้องเปิดอยู่

              แต่ก็คงเพราะบุคลิกแบบนี้ ทำให้เขาได้รับอันดับที่1ในซีซันนี้

              แน่นอนว่ารายละเอียดในหน้าต่างสถานะ และการประเมินทุกครั้งนั้นยอดเยี่ยมมาก

              เขามีประโยชน์ และเป็นโอกาสดีที่จะร่วมเฟรมกับกลุ่มหัวแถว หรืออย่างน้อยอย่าเป็นศัตรูกับเขาเลยจะดีที่สุด ดังนั้นมุนแดจึงยิ้มออกมา

              ไม่เห็นที่ผมเต้นเหรอครับ?” 

ชายูจีนหน้ามุ้ย  เขาแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาจากจิตสำนึก เป็นนิสัยที่หายากในรายการนี้ ทำให้มุนแดรู้สึกแปลกใจจริงๆ

              เราต้องเตรียมตัวสำหรับการแสดงของเราเอง เลยไม่ได้ดูน่ะครับ”

              งั้นครั้งหน้าค่อยดูและตัดสินเอานะครับ”

              "อืม เข้าใจแล้วครับ!" ชายูจีนพยักหน้าแล้วหันกลับไป

 

อีเซจินBหัวเราะด้วยความงุนงง คงเพราะมาจากต่างประเทศ เขามีเอกลักษณ์จังแฮะ?”

              "อืม" 

              บทสนทนาไม่ได้ดำเนินไปมากกว่านี้ เพราะอีเซจินBสังเกตุเห็นกล้องแล้วเหมือนกัน

               ดูเหมือนทีมงานจะพร้อมแล้ว เขาประกาศเริ่มซ้อมใหญ่ ตอนนี้เป็นเวลา 6 โมงเช้า และจะบันทึกการแสดงจริงเวลา 16.00

              การเดินทางที่ยากลำบากเริ่มขึ้นแล้ว

 

******

 

ขณะนี้เป็นเวลา 20.00 น การถ่ายทำทั้งหมดจบลง

              อย่างที่คิด เหนื่อยล่าสุดจะทน ซ้อมทั้งเช้าแต่ข้าวกลางวันได้กินแค่คิมบับ จากนั้นตอนบ่ายก็โดนสไตลิสต์จับแต่งตัว พูดตามตรง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งสำหรับทุกคน แต่มันก็เพียงพอสำหรับการออกอากาศ 

              หลังแต่งตัวเสร็จ มีกล้องมากมายเข้ามาสัมภาษณ์ มุนแดอยากพูดว่ามันเห่ยมาก เมื่อคน 77 คนสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกัน แน่นอนว่าพูดทำไม่ได้ ส่วนการถ่ายทำจริง... เต้นใหม่อีกรอบ ร้องใหม่อีกรอบ ในสถานที่ที่ร้อนจนเขาคิดว่าตัวเองจะเป็นลมแดดซะให้ได้

              กว่าทุกอย่างจะจบลง มุนแดก็รู้สึกว่าสติตัวเองเลือนรางมากแล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า PDจะใช้เทคไหนออกอากาศ 

              รู้แค่ว่าจากนี้ตัวเองได้วันหยุดกลับบ้าน ก่อนที่จะเริ่มถ่ายep.ใหม่ศุกร์ต่อไป เฮ้อ...พยายามกลับไปออกกำลังกายดีกว่า

 

******

 

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป

แผนการณ์ที่จะสร้างกล้ามเนื้อของมุนแดสำเร็จเพียงครึ่งเดียว เพราะหลังจากถ่ายทำครั้งแรก จู่ๆ เขาก็เป็นไข้ ใช้ชีวิตอยู่ใต้ผ้าห่มและกินยา ดูเหมือนว่าร่างกายของ พัคมุนแดไม่สามารถทนต่อการทำงานหนักของสัปดาห์ก่อนได้

              อย่างไรก็ตาม สามวันที่เหลือ เขาทานอาหารมากขึ้น เริ่มซ้อมเต้นและฝึกความแข็งแรงในเวลาเดียวกัน 

              ตอนนี้เขากำลังรอดูเวทีเปิดตัวของรายการอยู่ ต้องติดตามความคิดเห็นออนไลน์เพื่อเตรียมตัวรับมือเมื่อกลับไปถ่ายรายการ แน่นอนว่าepแรกคงไม่มีอะไรมาก อย่างน้อยขอแอร์ไทม์ให้เขาสักหน่อยเถอะ

บนหน้าจอ ไอดอลสองคนกำลังคุยกันอย่างมีความสุข

              [ซีวอน! ตอนนี้ แทนที่จะพูดติดตลก มาพูดถึงขั้นตอนต่อไปกันดีกว่า]

[ใช่. ได้ยินข่าวมั้ย ยุนจี?]

[ข่าวอะไรเหรอ] 

              [ข่าวที่ผู้ถือหุ้นรอคอย! ตอนนี้~ <บริษัทไอดอลจำกัดมหาชน> ได้รับการจดทะเบียนใหม่แล้ว สู่ตลาดอีกครั้ง!]

[ว้าว!]

 

กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว มุนแดหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ปัดจอไปหน้ากระทู้พูดคุยของรายการ

['MusicBOMB' talk talk!!]

              นั้นเขาบอกว่าสู่ตลาดอีกครั้งล่ะ ㅋㅋㅋ

- นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ

              - หยุดพูดถึงมันนะ

              ว้าว นึกว่าเป็นซีซั่น 3!

มันไม่ใช่รายการใหม่ด้วยซ้ำ ครั้งที่แล้วถูกถอดออกต่างหาก

 

 [ IJC กำลังเปิดตัวซีซั่นใหม่

- อา… 

เฮ้อ ฉันเป็นคนเดียวหรือเปล่า ที่เข้ามาดูความคิดเห็นแทนที่จะเป็นการแสดงสุดน่าเบื่อ?

 

มุนแดรู้อยู่แล้วว่าผู้คนจะมีปฏิกิริยาแบบนี้แหละ ทุกครั้งที่คลิกรีเฟรช การเยาะเย้ยแบบต่างๆ ก็หลั่งไหลออกมา ดูเหมือนว่าจะมีคนรอดูรายการ มากกว่าเดิมเสียอีก

พวกเขาบอกว่าซีซั่น 3 จะล้มเหลว เนื่องจากซีซัน 2 นั้นยิ่งใหญ่และฉูดฉาดเกินไป ตามที่คาดไว้ มีการเยาะเย้ยถึงข่าวฉาวของซีซันที่แล้วด้วย อย่าว่าแต่คอมเม้นพวกนี้เลย มุนแดเองก็สงสัยเหมือนกันว่ารายการคิดยังไงถึงให้ ชายหญิงร่วมรายการด้วยกัน ดูเหมือนจะตั้งใจชูรายการด้วยความโรแมนติก

              หลังจากนั้นมันแย่มาก เพราะกลายเป็นเรื่องท้องก่อนแต่ง ในวงการไอดอลที่การมีข่าวเดตคือเรื่องร้ายแรง

รายการจึงยุ่งเหยิงไปหมด

              มุนแดเลิกคิดถึงอดีตแล้วหันกลับมามองหน้าจอ ตรงกันข้ามกับความคิดเห็นบ้าๆ พิธีกร Music Night ยังคงยิ้มแย้ม

              [หุ้นไอดอลรอผู้ถือหุ้นลงทุน!]

              [ส่องดาวของคุณ!]

              [ตอนนี้ ลงทุนในไอดอลที่กำลังจะพุ่งแรง!]

              จำนวนความคิดเห็นในโพสต์นั้นเพิ่มขึ้นสามเท่า ณ จุดนั้น เป็นคอมเม้นเชิงลบล้วนๆ มุนแดอ่านแล้วอยากหัวเราะ

              ถึงจะด่า แต่ก็ยังดูกันอยู่สินะ”

              แฟนคลับดูเพื่อสาปแช่งรายการ แต่มันดีกว่าถูกเมินเฉยหลายร้อยเท่า เพราะไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ชมกลุ่มแรกเหล่านี้จะช่วยกระจายข่าว ทำให้ซีซัน 3 โด่งดังขึ้นมา

              มุนแดตื่นเต้นมากว่าจะมีปฏิกิริยาอะไรออกมาอีก หลังจากพิธีกรพูดจบ หน้าจอทีวีก็แสดงเวทีในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา

              ยองริน กำลังยืนอยู่บนเวที การจัดแสงที่แม่นยำทำให้เกิดเงาที่น่าทึ่งพร้อมโครงร่างที่ชัดเจนบนใบหน้า ในซีซันแรก<บริษัทไอดอลจำกัดมหาชน > ใช้คอนเซ็ปต์แนวตัวตลกกับอบอุ่นหัวใจ

แต่ยองรินบนทีวีนั้นใส่สูทที่ดูจริงจัง ดูเหมือนว่าครั้งนี้พวกเขาจะเปลี่ยนภาพลักษณ์

 

              [ผู้ถือหุ้นทุกท่าน! คุณยังจำการถูกถอดออกจากตลาดเมื่อครั้งก่อนได้ไหมคะ?]

“….?”

              พวกเขาทำลายคำทำนายของมุนแดทันทีที่ยองรินเปิดปากของเธอ

 

              [ที่ทำให้หุ้นของทุกท่านกลายเศษกระดาษ..พวกเรา ขอโทษจริงๆค่ะ!!]

              พวกเขาใส่คำบรรยายขนาดใหญ่ต่อหน้า ยองริน ที่ตะโกนเสียงดัง

 

[※นี่คือคำขอโทษจากทีมงานผู้ผลิต ยองรินไม่มีความผิด]

[※เรายังคงได้รับการเรียกร้องค่าเสียหายบนเว็บไซต์ของเราเช่นกัน]

 

“….”

รายการ..เป็นบ้าไปแล้วเหรอ?

 

Ad Code

Responsive Advertisement