(สปอย์) บทเฮงซวยนี้ ไม่ขอรับไว้ เล่ม2





    (สปอย์) บทเฮงซวยนี้ ไม่ขอรับไว้ เล่ม2

    (ต่อจากท้ายเล่ม1)

    กลายเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนนำมาถกเถียงกันซะแล้ว เพราะเมื่อตำรวจและรถพยาบาลมาถึง และคนในสติดิโอออกไปเห็นข้างนอกก็ต้องอึ้ง ถนนกลายเป็นหลุมบ่อ บ้านเรือนเสียหายพังทลายในชั่วข้ามคืน เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่พวกเขาถ่ายหนังกันแน่?

    คลิปศพในกองถ่ายที่ถูกโพสกลับไม่ได้รับความนิยมขนาดนั้น ชาวเน็ตมองว่าของปลอมหรือสร้างกระแส พวกเขาโฟกัสเรื่องหน้าตาของนักแสดงมากกว่า ในคลิปสั่นๆนั้นก็ถ่ายติดเจี่ยนหวา(นายเอก/สตั้นแมน)ที่กำลังยืนในฉากด้วย แฟนคลับไม่สนใจ แต่คนในวงการสตั้นแมนจำเขาได้ทันที มีคือคนที่ถูกแบนไปครึ่งปีนี่นา

    หลังจากมีคนไม่น้อยมาสืบข่าวกับผู้ช่วยหลิน เขาจึงถามสาเหตุที่ทำให้เจี่ยนหวาถูกแบนไปครึ่งปีเพื่อเตรียมรับมือ สาเหตุก็คือขัดใจคุณชายคนหนึ่งเข้า ระหว่างมือเช้านี้ หลี่เฟย(พระเอก)เอาใจเจี่ยนหวาจนผู้ช่วยหลินรู้สึกได้ เขาพยายามไม่คิดไปแง่เด็กเลี้ยง เพราะทั้งคู่ก็ดูไม่เหมือน แต่บรรยากาศทะแม่งๆตลอดเวลานี้คืออะไร

    การถ่ายทำดำเนินต่อไป แต่เพราะเกิดเหตุสยองขึ้นผู้คนไม่มีสมาธิ ผู้กำกับอารมณ์ไม่ดีสุดขีด แต่นักแสดงชายลำดับ3อารมณ์ไม่ดียิ่งกว่า เขาคือคนที่ถูกถ่ายคลิปไปลง โดนชาวเน็ตยำจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว เขามองเจี่ยนหวา(นายเอก)ที่ถูกผู้กำกับชม และมองหลี่เฟย(พระเอก)ที่กำลังยิ้ม เฮอะ นี่ต้องเสแสร้งแน่ เขากำลังหาทางวางแผนร้าย ยกความสนใจของชาวเน็ตไปที่อื่น

    ตอนนี้ผู้บริหารประหารรับรู้เรื่องราวของ ผู้ทะลุมิติ ผู้มีพลังพิเศษ สัตว์ประหลาดและเนื้อเรื่องของนิยายแล้ว ตั้งแต่พฤศจิกายน(เดือนที่นายเอกอเวค)ทั่วโลกต่างก็เกิดอุบัติเหตุที่อธิบายสาเหตุไม่ได้มากมาย และคนที่มีพฤติกรรมนิสัยในชีวิตเปลี่ยนไปกะทันหันก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในนั้นคือหลานสาวผู้นำประเทศ รายงานของจางเย่าจิน(หัวหน้าหน่วยมังกรแดง)ที่เคยถูกตีกลับ ก็ถูกหยิบขึ้นมาศึกษาอีกครั้งและรอบนี้ประเทศเริ่มหาแนวทางรับมือ

    นักแสดงชายลำดับ3 จนแล้วจนรอดก็หาข่าวฉาวของเจี่ยนหวา(นายเอก)มาปล่อยไม่ได้ สุดท้ายเลยหันไปเล่นงานนักแสดงในกองเดียวกันแทน ฉะกันในเน็ตไม่เว้นวันเลยทีเดียว วันหนึ่งผู้กำกับให้เลิกกองเร็วกว่าปกติ พวกเขาเข้าใจทันทีว่ามีนัดกินเลี้ยงกับนายทุนแน่นอน หากมากเรื่องขึ้นอีกนิดอาจจะมีนักแสดงหน้าใหม่ถูกยัดตัวเข้ามาทั้งอย่างนี้เลยก็ได้

    เดิมทีเจี่ยนหวา(นายเอก)ผู้เป็นสตั้นแมนยังคิดว่าไม่เกี่ยวกับตัวเองแล้ว แต่หลี่เฟย(พระเอก)ก็เข้ามาหา เขายังอ้างไปถึงโลกที่ถูกทิ้งที่อาจปรากฏขึ้นได้เสมอ พอออกจากอณาเขต(เห็ด)ของอีกฝ่ายแล้วเขารู้สึกไม่ปลอดภัย

    หลังชักแม่น้ำทั้ง5หว่านล้อมเจี่ยนหวา(นายเอก)ก็ตกลง

    แต่เมื่อกลับมาหาผู้ช่วยหลินกลับโดนอีกฝ่ายบอกว่า “เก็บอาการหน่อยเถอะครับนี่มันข้างนอกนะ ต่อให้ชอบก็รอให้ถ่ายทำเสร็จก่อนได้ไหม”

    ได้ยินคนพูดชี้ทางขนาดนี้ ความรู้สึกช้าแค่ไหนก็ควรแอะในได้แล้วจี่ยนหวา(นายเอก)เริ่มครุ่นคิด ขณะที่หลี่เฟยอารมณ์ไม่ดีนักเขากลับมาสู่ความสับสน ความรู้สึกที่เขามีให้เจี่ยนหวาคือสนใจ อยู่ด้วยแล้วรู้สึกดีแต่ยังไม่ถึงขั้นรัก เขายังไม่รู้เลยว่าอยากเดินกับเจี่ยนหวาจนสุดทางไหม แต่วันนี้ก็ต้องมองหาคำตอบมาอธิบายแล้ว?

    นั่งรถบนถนนมา2ชั่วโมง จนถึงโรงแรม ข้างในงานคือกินเลี้ยงกับลูกหลานผู้ใหญ่ที่ตั้งใจมาดูดารา ในนั้นมีคนวงในที่มีพลังพิเศษอยู่ด้วย คนที่พาเธอมาคนภายนอกรู้จักกันในนามหลูกวน รองผู้อำนวยการสื่อแต่ความจริงแล้วเขาเป็นหัวหน้าหน่วยมังกรแดง

    เขาต้องการให้ หลี่เฟย(พระเอก)ช่วยตรวจสอบคนวงในที่มีฐานะพิเศษ เพราะครั้งนี้ผู้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างหลานสาวผู้นำ จึงกลายเป็นเรื่องที่ถูกจับตามองขึ้นมา การทะลุมิติมีเงื่อนไขอะไร เลือกร่างที่สิงได้ไหม ถ้าพวกเขาอยากสิงร่างประธานาธิบดีหรือผู้นำสหประชาชาติแบบนี้ได้รึเปล่า

    คนวงในที่หน่วยมังกรแดงตรวจสอบ ไม่ว่าจะใช่วิธีไหนก็ไม่มีใครปริปากเรื่องวิธีข้ามโลกมา ดังนั้นพวกเขาจึงคิดจะใช้ไม่อ่อน เพราะฐานะของร่างที่ถูกไม่สามารถพาไปสอบสวนได้อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเธอต้องการติดต่อหลี่เฟยอยากเข้าเป็นพวกของบอสในนิยาย พวกเขาก็จะใช่แผนซ้อนแผน มอบให้หลีเฟยจัดการตรวจสอบก่อนแล้วค่อยส่งกลับมา

    หลังคุยงานกันเสร็จ หลี่เฟย(พระเอก)ก็วางแผนล่อซื้อจนหลิวซาน(ผู้ทะลุมิติ)งับเหยื่อ จากนั้นพวกเขาไม่ได้เข้าไปในงานเลี้ยงทันที หลี่เฟยเตรียมจะคุยเปิดอกกับเจี่ยนหวา

    เขาสังเกตได้ว่าไฮฟาพวกนี้ขยับตามอำเภอใจ แต่ขณะเดียวกันก็มาจากจิตสำนึกที่คิดจะปกป้องเขาของเจี่ยนหวา เขารู้สึกว่ายิ่งรู้คนคนๆนี้เขายิ่งชอบอีกฝ่าย ตอนนั้นเองที่เขาสารภาพรักออกมากลายๆ ถึงมันจะอ้อมค้อมและเฉไฉไปไหนก็เถอะ

    เจี่ยนหวาถามตัวเองอีกครั้งเมื่อได้ยินแบบนี้ คนๆนี้ชอบเขาเพราะอะไร เขาเป็นคนฐานะธรรมดาเพราะฉะนั้นก็ตัดดเรื่องผลประโยชน์ไปได้เลย เวลาที่พวกเขาใช่ด้วยกันส่วนใหญ่ก็คือโลกที่ถูกทอดทิ้ง อันตรายจากสัตว์ประหลาดและความอุ่นใจเมื่อมีเพื่อนอยู่ข้างกัน ความเฉียบขาดเมื่ออยู่ต่อหน้าหน่วยมังกรแดง และคำปลอบโยนที่มีให้เขา

    หลี่เฟยเองก็รู้ตัวดีว่าเรื่องนี้จะรีบไม่ได้ เขาสารภาพความรู้สึกเสร็จ ก็พูดถึงทฤษฎีสะพานแคว้น ที่เป็นการใจเต้นจากการเจออันตรายด้วยกันบ่อยๆ จนเข้าใจผิดว่าเป็นใจเต้นจากความรัก พวกเขาต้องการเวลาเพื่อคิดอย่างรอบคอบและเจือจางภาพลวงตา

    เมื่อฟังหลี่เฟยอธิบาย เจี่ยนหวาก็สบายใจขึ้นอีกครั้งคนๆนี้มักจะทำให้วางใจได้เสมอ

    พวกเขากลับไปห้องงานเลี้ยง หลี่เฟยเข้าไปนั่งที่แล้วชนแก้วกินต่อ ส่วนเจี่ยนหวาก็ทำหน้าที่ผู้ช่วยได้เป็นอย่างดีก่อนออกจากห้องไป พวกรอดูเรื่องสนุกเสียใจกันเป็นแถบ ส่วนหลิวซาน(ผู้ทะลุมิติ)นั้นคิดถึงเนื้อเรื่อง ผู้ช่วยนั้นนอกจากสนิทกับบอสใหญ่แล้วยังไม่มีพลังพิเศษอีกแบบนี้เหมาะให้เธอหลอกใช่เลยไม่ใช่รึไง ที่สำคัญผู้ช่วยก็หน้าตาดีมาก เธอตัดสินใจแล้วว่าจะเข้าทางผู้ช่วย ต่อให้เล่นแล้วทิ้งเขาก็สู้ผู้มีพลังพิเศษไม่ได้หรอก

    สุดท้ายเธอก็หลงกลหลี่เฟย จนพวกเขาได้ข้อมูลหลายอย่างออกมา การทะลุเข้ามาในโลกของพวกเขา มากันเองโดยไม่มีองค์กรหนุนหลัง ผู้ทะลุมิติมีความทรงจำขจองร่างเดิมแต่ยังไงก็ไม่อาจเป็นคนเดียวกันเพราะผู้มาสิ่งไม่อาจเข้าใจถึงความรู้สึกของร่างเดิมได้ วิญญาณเจ้าของร่างอาจจะยังหลับอยู่ในร่างหรือโดนพลักออกไปยังมิติอื่น

    ผู้ทะลุมิติมีกฎของมิติเวลาคุ้มครอง หากไม่เต็มใจพูดก็ไม่มีใครบังคับได้ โลกมิตินี้เป็นมิติระดับต่ำถูกคนอื่นรุกรานอย่างไม่อาจป้องกันตัว คนจากโลกอื่นเข้ามาได้แต่คนจากโลกนี้ทะลุออกไปไม่ได้ ในนิยาย มิติต่างๆเข้ามาชนกันจนทำให้พบเจอสัตว์ประหลาดที่มาจากโลกอื่น หลังได้ข้อมูลแล้วหลี่เฟยก็ส่งคนให้หน่วยมังกรแดง

    หลี่เฟยขับรถมารับเจี่ยนหวา เขารู้สึกว่าอารมณ์อีกฝ่ายกำลังทิ้งดิ่งซึ่งก็ไม่แปลกเมื่อได้ยินข้อมูลต่างๆ ความจริงเขาควรถามเรื่องมิติทับซ้อนต่อ แต่มันอาจเปิดเผยพลังของเจี่ยนหวา เขาไม่เสี่ยงเด็ดขาด

    ตอนนี้เขารู้แล้วว่าผู้ทะลุมิติก็ไม่ได้รู้ทุกอย่างในนิยาย อาจเพราะเป็นตัวร้ายนิยายจึงไม่ได้มีรายล่ะเอียดขนาดนั้น ไม่มีการใช้ชีวิตและไม่ได้ระบุความสัมพันธ์ของพวกเขา แม้เจี่ยนหวาจะพูดเล่นว่าเจ้านายกับลูกน้อง แต่เขาก็มีคำตอบใจทันทีเมื่อโดนถามว่า ทำไมเขาถึงออกไปเผชิญหน้ากับพระเอก ปรากฏตัวออกมาตอนท้ายสุด ทั้งๆที่สามารถอยู่อย่างสงบต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหา ทำไมถึงเปิดเผยตัวตนว่าเป็นเจ้าของเห็ดกินสัตว์ประหลาดทั่วโลก

    สาเหตุก็เพราะ หลีเฟยเพื่อนเพียงคนเดียวของเขาจะตาย และตัวเขาต้องการแก้แค้นโลกใบนี้

    ตอนนี้งานถ่ายหนังเสร็จแล้วลังเคลียร์งานอื่นให้เสร็จก่อนสิ้นปี ระหว่างนั้นหลีเฟยเองก็จีบเจี่ยนหวาอย่างเปิดเผย ถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จด้านความหวั่นไหวแต่ก็ถือว่าได้เพิ่มค่าความชอบไม่น้อยเลยทีเดียว

    วันคริสต์มาสหลังเสร็จงานสุดท้ายของปี พวกเขาก็เตรียมกลับบ้านไปพักผ่อน แต่แล้วโลกที่ถูกทอดทิ้งก็ปรากฏขึ้น ไม่รู้ว่ารอบนี้จะติดอยู่ที่นี่นานเท่าไร แต่ในรถของพวกเขามีอาหารเตรียมไว้พอสมควร ผ่านไปครู่หนึ่งผู้คนที่หลุดเข้ามาก็เริ่มรวมตัวกัน ส่วนพวกเขายังดูสถานการณ์อยู่บนรถ

    เจี่ยนหวา(นายเอก/เห็ด-พลังดูดกลืน)รู้สึกว่าวันนี้เห็ดของเขาไม่กระตือรือร้นสักเท่าไร ขณะที่กำลังสงสัยว่าไม่มีอาหารเลยเหรอ หลี่เฟย(พระเอก/ปีศาจไฟ-เนตรมาร)ก็ตะโกนเตือนให้ผู้คนรีบหลบเข้ารถ แน่นอนว่าคำเตือนนี้โดนคนเยอะเย้ยว่าขี้ขลาด แต่แล้วพวกเขาเซซ้ายเซขวาไม่ทันไรก็ล้มไปกับพื้นกันหมด จากนั้นแมงมุมยักษ์ตัวหนึ่งก็ปรากฏตัว

    ผู้มีพลังพิเศษถูกจับไปเป็นเสบียงของแมลงมุมท้อง ก่อนจากไปมันยังเกี่ยวไฮฟาขึ้นมาดูแต่มองไม่เห็นคนที่อยู่ในรถ แต่พวกเขาน่ะเป็นไข่ใต้ท้องมันชัดแจ๋วเลยเดิมทีพวกเขายังต้องการเลี่ยงการปะทะ แต่น่าเศร้าที่สัตว์ประหลาดตัวนี้เลือกห้างใหญ่ในกลางเมือง ถ้าปล่อยไปโลกความจริงได้พินาศหมดแน่

สุดท้ายพวกเขาก็ต้องลงรถไปจัดการ ตั้งแต่เจี่ยนหวา(นายเอก)รู้สึกว่าต้องแต่ตัวเองรู้จักหลี่เฟย(พระเอก) ชีวิตจริงก็ยิ่งกว่าในหนังซะอีก คราวที่แล้วเป็นแนวซิ่งรถไล่ล่า ครั้งนี้เป็นซิตี้ฟรีรันนิ่ง ระหว่างนี้เห็ดของเขายังหยุดงานประท้วงจนเขาไม่อยากไปจัดการแมงมุมเลยจริงๆ แต่แล้วพวกเขาก็เจอกับเด็กน้อยวัย10ขวบ เธอเข้ามาในโลกนี้พร้อมกับหมาของตัวเอง

เจี่ยนหวา(นายเอก)พึงรู้สึกถึงความโหดร้ายของโลกนี้เป็นครั้งแรก ผู้มีไม่พลังพิเศษไม่แบ่งเพศและอายุ สัตว์เลี้ยงก็เช่นกัน

สุดท้ายพวกเขาตกลงช่วยเด็กหญิงหาหมาที่หายไป หลี่เฟย(พระเอก)จับตาดูแมงมุม แล้วเขาก็มองเห็นผู้มีพลังพิเศษคนหนึ่งเก่งกาจจนหลุดการควบคุมของใยแมงมุม ทั้งยังพุงตัวหนีลงมาชั้นล่างอย่างรวดเร็ว เร็วมากจนหลี่เฟย(พระเอก)ยังตกใจ แต่แล้วคนที่ปรากฏตัวตรงหน้าเขาก็คือหมาตัวหนึ่ง...เขารู้สึกพูดไม่ออก

ถ้าวัดจากสายตาเนตรมารของเขาแล้วหมาตัวนี้เป็นถึงผู้มีพลังพิเศษระดับAเลยทีเดียว ที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นคือหมาตัวนี้รู้จักเขา หวาดกลัวเขาราวกับเป็นคนวงใน เขาต้องการจับมันไว้แต่แล้วก็ต้องอึ้งสุดขีดอีกรอบ พวกเขาสู้หมาตัวหนึ่งไม่ได้ การเคลื่อนไหวแบบนี้ มองยังไงก็เป็นหมามาตั้งแต่เกิดแน่ๆ

ถ้าเป็นแค่หมา ทำไมถึงกลัวเขาล่ะ? หลังจากที่พาหมาคืนสาวน้อย พวกเขาก็ได้รู้ว่าเจ้าตัวอ้วนเคยป่วยหนักเจียนตายมาก่อน ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำ แถมยังไม่ยอมเดินอีก แต่ระหว่าที่มันป่วยมันชอบดูนิตยสารที่มีรูปของหลี่เฟยมาก อยู่ดีๆวันหนึ่งลิงปรากฏตัวออกมาเยอะมาก น้องหมาก็เรืองแสงแล้วกลับมาเป็นปกติ

ได้ยินแบบนี้พวกเขาก็มั่นใจแล้วว่า หมาตัวนี้เคยโดนผู้ทะลุมิติสิงจริงๆ แต่ไม่รู้เพราะความผิดพลาดแบบไหน สุดท้ายวิญญาณจึงออกจากร่างไป เหลือไว้แค่ความทรงจำที่ต้องกลัวหลี่เฟยและเห็ดไว้ให้หมาตัวนี้เท่านั้น

หลี่เฟยพิจรณาถึงสาเหตุที่หมาหายป่วย เป็นเพราะวิญญาณมนุษย์ไม่เข้ากับร่างหมาจนหลุดไปเอง หรือเป็นเพราะตอนเด็กสาวเจออันตราย หมาตัวนี้อยากปกป้องเจ้านายอย่างแรงกล้าจนขับไล่วิญญาณของผู้บุกรุกออกไปกันแน่ แล้ววิญญาณของหมาไปอยู่ที่ไหนในตอนแรก เรื่องนี้คงต้องส่งให้หน่วยมังกรแดงตรวจสอบต่อไป

พวกเขาปล่อยให้1เด็ก1น้องหมาเดินจากไป มุ่งสู่อนาคตที่ไม่มีใครรู้

หลี่เฟยสังเกตเจี่ยงหวาแล้วถอนหายใจ เจี่ยนหวาไม่ใช่คนโลก ขอเพียงได้ใช้ชีวิตอย่างสบายใจ แม้สังคมจะเข้มงวดงานจะลำบากขอแค่ไม่ล้ำเส้น เจี่ยนหวาก็ไม่ถือสา แต่คนๆนี้กลับกลายเป็นบอสในนิยาย และสาเหตุก็อาจจะป็นเขาเอง ยิ่งคิดความโกรธตรงก้นบึ้งของหัวใจก็ฝังแน่นขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าคนๆหนึ่งรู้ว่าหลังตัวเองตายไป มีเพื่อนแก้แค้นให้ จนตัวเองก็อาจจะตายไปด้วย เขาจะรู้สึกดีกับเพื่อนคนนี้ก็ไม่แปลก

แน่นอนว่าหลังพูดเรื่องนี้กับเจี่ยงหวาแล้วก็โดนอีกฝ่ายลากไปเรื่องอื่นตามสไตล์จนกลายเป็นเรื่องตลกแทน

พวกเขาขึ้นไปช่วยกันจัดการแมงมุมยักษ์ ระหว่างทางหลี่เฟยก็มีเรื่องให้หึงแม่ทัพอูอีกแล้ว เจี่ยนหวาก็สมกับเป็นเจี่ยนหวา ทำให้เขากลับมาประทับใจในไม่กี่นาทีต่อมา พวกเขาตัดสินใจจะแบ่งเป็นสองทาง ถ้าแมงมุมตามใครก็ให้คนนั้นล่อมันไว้ ส่วนอีกคนไปวางกับดับที่รังของมัน หลี่เฟยยังรู้สึกว่าเจี่ยนหวาดูท่าทางแปลกๆ ต่อมาเขาจึงเห็นว่าเจี่ยนหวาตั้งใจจะจะวิ่งล้อแมงมุมด้วยตัวเองอยู่แล้ว อีกฝ่ายตั้งใจจะปกป้องเขา

หลังจัดการแมงมุมยักษ์ได้ พวกเขาได้รู้ความจริงที่ไฮฟ่าของเจี่ยนหวาอู้งานแล้ว หลังแม่แม่งมุมตายพวกเขาคิดจะจักการลูกแมงมุมที่พึงคลอด ปรากฏว่าบนหัวของลูกแมงมุมมีเห็ดขึ้นเหมือนสวมหมวกอยู่ พวกมันแฝงตัวเข้ามาตามใยแมงมุม กลายเป็นปรสิตในไข่ สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าไม่ใช่ลูกแมงมุมแล้ว แต่เป็นเห็ดมีขา และมันก็จะอาศัยขาพวกนี้ไปหาอาหารที่อื่น และตั้งรกรากที่อื่นได้

พวกเขาไปช่วยคนที่โดนจับ ในนั้นมีเพียงคนเดียวที่มีน้ำใจเตือนคนอื่นให้ระวังแมงมุม เขาพาคนพวกนี้ให้ไปเคลียร์ฮอลล์จัดคอนเสิร์ตที่เละเทะจากการต่อสู้ คนอื่นๆด่ากันระงมทั้งๆที่ถูกช่วยให้รอดชีวิตแท้ๆ หลังจบเรื่องนี้หลี่เฟยได้รู้ว่ากลุ่มผู้ทะลุมิติคงจะนัดเจอกันที่ไหนสักที่ในโลกจริง เลยหลุดเข้ามาในนี้เป็นกลุ่ม ส่วนคนที่ส่งเสียงเตือนพวกเขาคนนั้นหลี่เฟยก็เข้าไปลองทดสอบอีกฝ่าย ถ้าเป็นไปด้วยดีก็จะได้รับเข้ามาเป็นพวก คนๆนี้ชื่อหยางเชา

หยางเชาเป็นคนดีที่มีไหวพริบทีเดียว เขามองว่าคนว่า2คนนี้ไม่ใช่คนเลวร้ายแถมมีฝีมือดี คงอยากจะหาลูกน้องเท่านั้นมาทำงานเท่านั้น ด้านการทดสอบนั้นผ่านไปด้วยดี แต่จากเรื่องนี้ทำให้หลี่เฟยรู้ว่าตัวเองทำอาหารไม่ได้เรื่องมากแค่ไหน ส่วนหยางเชาน่ะหรอ ท่าเทพหน้าดำกำลังฝึกทำอาหารอยู่ข้าง เขาจะกล้าปฏิเสธไม่กินได้ยังไงล่ะ!

ส่วนเจี่ยนหวา เขาไปเยี่ยมเด็กหญิงและหมาที่อยู่แถวแม่น้ำ ตรงนั้นมีของกินรูปร่างคล้ายปูและกินได้ อร่อยกว่าเนื้อไม้ฝีมือหลี่เฟยเยอะเลย ลำบากหยางเชาจริงๆ

หลังออกมาได้ พวกเขาก็โทรไปบอกจางเย่าจิน(หน่วยมังกรแดง)ถึงแมงมุม ฮอลล์จัดคอนเสิร์ต และเริ่มที่เวลาผ่านไป5วัน จางเย่าจินตกใจเพราะข้อมูลจากคนวงใจไม่มีสัตว์ประหลาดเป็นแมงมุม และเวลาที่ผ่านไป5วันอาจจะทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นไม่น้อย

หลี่เฟยเองก็ตกใจที่พวกเขาเจอกับสัตว์ประหลาดพันธ์ใหม่ แต่เจี่ยนหวาไม่ได้คิดมากขนาดนั้น เขาขับรถกลับบ้านอย่างยากลำบาก และเข้าห้องนอนแขกอย่างกระตือรือร้น เขานอนยาวถึงเที่ยงวันต่อมากก่อนจะลุกไปทำอาหารปลุกเจ้าของบ้าน แม้จะงัวเงียบแค่ไหนหลี่เฟยที่อยู่บนเตียงก็อ่อยขึ้นเต็มที่ น่าเสียได้ที่อีกฝ่ายไม่สนใจ

10นาทีต่อมา หลี่เฟยลงมากินข้าวที่โต๊ะอาหาร วิลล่าของหลี่เฟยมีพื้นที่พอดีๆไม่ได้เป็นคฤหาสเหลือใช่แบบซุปเปอร์สตาร์คนอื่น แต่นอนว่าอะไรที่ควรมีย่อมมี และก็มีพื่นที่พักผ่อนไม่น้อยเลยเช่นกัน ย่าหน้าบ้านเป็นสนามหญ้า ในบ้านมีสวนหย่อมเล็กๆ หลังคาโปร่งแสงซึ่งเปิดบางส่วน แสเงความโปร่ดโปร่งออกมาอย่างดี

ผนังกระจกห้องอาหารก็หันเข้าหาสวนย่อม แต่ในสายตาหลี่เฟยมันไม่มีทิวทัศอะไรให้ดู เนื่องจากบ้านของเขาถูกเห็ดยึดครองแล้ว เจี่ยนหวาอาจจะไม่รู้สึกอะไรหากเงยหน้าขึ้นไปก็จะเห็นท้องฟ้าสีครามเมฆสดใส แต่ในสายตาด้านข้างคือหมาวเห็ดด้านบนคือรอยจีบใต้หมวกเห็ด

เป็นบททดสอบจิตใจจริงๆ

งานเลี้ยงข้ามปีของซิงเทียมีเดีย หลีเฟยราชาจอเงินเข้างานไปพร้อมแสงแฟลชที่ทำเอาตาแทบบอด เจี่ยนหวาที่นำรถมาจอดเจอจางเย่าจิน(หน่วยมังกรแดง)แฝงตัวเข้ามาในงานเช่นกัน วันนี้มีทั้งคนน่าสงสัยและผู้ก่อการร้ายที่ยืนยันแล้ว เจี่ยนหวาต้องไปช่วยพวกเขา

ในงานหลี่เฟยรอเจี่ยนหวาอยู่นานแล้ว เมื่อไม่เห็นตัวจึงคิดจะออกมาตาม แต่ก็โดนอีกฝ่ายส่งข้อความมาห้ามไว้ เพียงข้อความเดียวเขาก็เดาได้แล้วว่าตอนนี้ในงานน่าจะมีคนร้ายแฝงตัวอยู่และดูท่าจะรับมือยากไม่น้อยทีเดียว เขาลองสักเกตุดูแต่ก็จับอะไรไม่ได้เลย คนมากเกินไปและเนตรมารเองก็ตรวจผู้มีพลังพิเศษไม่พบ

เวลานี้เองเหลียงจวิน (CEO/เจ้านายหลีเฟย/พ่อบุญธรรมพันตรีจางเย่าจิน)ก็ขึ้นไปบนเวที ไฟมืดสนิทมีเพียงคนบนโพเดียมเท่านั้นที่มีแสงส่อง เวลานี้เองล่างเวทีก็มีความวุ่นวายเล็กน้อย แต่เขาไม่ใสใจ เดิมทีคนที่ควรขึ้นเวทีต่อจากเขาคือหลี่เฟย แต่หันซ้ายขวาก็ไม่พบ ราชินีจอเงินจึงขึ้นเวทีแทนหลีเฟยไปก่อน จนกระทั้งถึงคิวสุดท้ายหลี่เฟยจึงเดินมาด้วยท่าทางสบายๆ

แต่ใจจริงของเขาไม่ได้สบายด้วยเลยสักนิด ราชินีจอเงินย่อมสังเกตเห็น เธอรู้สึกว่าเขาอยากจะหันหลังหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด ตอนแรกเธอฉงนใจเล็กน้อยก่อนสังเกตเห็น จุดเลเซอร์สีแดงที่เคลื่อนที่ตามร่างหลี่เฟย เธออยากจะตะโกน เวลานี่เองหลี่เฟยก็พบความผิดปกติ เขาก็กระโดดหลบทันที

นักข่าวไม่ได้สังเกตกระสุน แต่มองเป็นอุบัติเหตุไม่คาดฝันแทน พวกเขาแย่งกันถ่ายภาพจนแสงแฟลชรบกวนมือปืน คนร้ายเห็นว่าไม่สามารถทำงานต่อก็รีบเคลียร์อุปกรณ์แล้วหลบหนีทันที

กระสุนลูกนี้ไม่ได้ตั้งใจยิงแค่หลี่เฟยเท่านั้น ยังมีโคมระย้าที่อยู่ด้านบนที่ร่วงลงมาในเวลาใกล้ๆกันด้วย ผู้คนหนีกันจ้าละหวั่น นักข่าวเองก็รีบส่งข้อความต่อไปข้างนอก นี่มันข่าวใหญ่แล้วไหมถ้าอยากจะปิดข่าวต้องจ่ายหนักหน่อยนะ!

การลอบฆ่ายังไม่หยุดลงแค่นี้ ในที่สุดผู้คนก็รู้ตัวว่านี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ ต่างก็เริ่มวิ่งหนีไปทางประตู คนร้ายกลุ่มหนึ่งฉวยโอกาสนี้ไปทางประตูเช่นกัน และมีคนซ้อนตัวปลดเซพตี้ปืนแล้วยิงอีกครั้ง กระสุนนัดนี้เฉี่ยวหัวเหลียงจวินหลี่เฟยเจ็บใจไม่น้อย ถ้าใช่พลังพิเศษต้องเห็นตัวคนไม่อย่างนั้นจะโดนผู้ไม่เกี่ยวข้อง และคนร้ายพวกนี้ยังโจมตีเข้ามาจากต่างทิศทางกันอีก

กลุ่มคนร้ายยังไม่หยุดเพียงแค่นี้และยังลอบโจมตีต่อไปโพเดียมพังแล้ว แต่มีโต๊ะที่ถูกพลังจิตดึงเข้ามาบังแทน คนร้ายรู้แล้วเขาพลาดจังหวะที่ดีที่สุดแล้วก็คิดจะอาศัยความวุ่นวายหนีออกจากห้อง ซึ่งก่อนไปยังไม่ลืมยิงตัวตัดไฟทิ้งด้วย ไฟดับลงอีกครั้งพร้อมกับทิ้งปืนและถุงมือเปื้อนเขม่าที่กระถางต้นไม้ เขาไม่ใช่ผู้มีพลังพิเศษจึงไม่กลัวถูกหลี่เฟยพบ

และก็ใช่หลี่เฟยที่ดึงโต๊ะเข้ามาบังแล้วเดินออกมานั้นหาตัวคนร้ายไม่พบจริงๆ เขาพยายามระยับโทสะ ทันใดนั้นไฮฟาที่เกาะอยู่บนตัวเขาก็เริ่มขยับ มันจัดการปิดพื้นที่แม้แต่กระจกใหญ่ก็ถูกบัง ห้องโถงมืดสนิทลงของจริง... ยังมีแสงแฟลชอยู่ เวลาแบบนี้จะข่าวผี ข่าวบันเทิง หรือข่าวก่อการร้ายก็ขายได้ทั้งนั้น

จางเย่าจิน(หน่วยมังกรแดง)และลูกน้องเข้ามาเคลียร์พื้นที่ เขาจักการยึดกล้องทั้งหมดทันทีกลางเสียงไม่พอใจของผู้คน

แม้เขาจะเตรียมตัวมา แต่เมื่อลงมือปฏิบัติจริง เจี่ยนหวากลับเป็นคนจัดการทั้งหมด ไฮฟาของเขาออกค้นหาและจับกุมทันทีเมื่อมีการลงมือกันเกิดขึ้น ที่จริงก่อนเกิดการลอบสังหารพวกเขาก็จับคนร้ายได้กลุ่มใหญ่แล้ว ไม่คิดว่าเมื่อถึงเวลาจริงยังวมีคนหลุดมาได้ขนาดนี้

จางเย่าจิน(หน่วยมังกรแดง)ปวดหัวมากนี่คือความเลินเล่อของหน่วยและเป็นความผิดพลาดของเขา คนร้ายเกือบจะลอบสังหารหลี่เฟยสำเร็จไปแล้ว! ยังไม่ทันไรเขาก็ได้ข่าวร้ายอีก สไนเปอร์ซ่อนยาพิษเอาไว้ในฟัน ตอนนี้ฆ่าตัวตายแล้ว นี่ประเทศอื่นให้ความสำคัญกับการฆ่า ‘ตัวร้าย’ ตาม ‘เนื้อเรื่อง’ ขนาดนี้เลย?

ขณะที่จางเย่าจินกำลังจะเข้าไปในงานเจี่ยนหวาก็เดินออกมาจากลิฟต์ สีหน้าของเขาอึมครึมสุดขีด

ในฐานคนธรรมดา เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องโดนสไนเปอร์จ่อหัวแบบนี้เลย แต่วันนี้มันกลับเดินขึ้นกับหลี่เฟย

ลูกน้องที่ทนสายตากดดันนี้ไม่ไหวก็พยายามแก้ตัวแทน แต่ก็โดนห้ามไว้ ประมาทก็คือประมาท พวกเขาตรวจสอบทั้งงานเหลือก็แค่ปีนดูโคมระย้า แต่ก็เป็นโคมนี้แหละที่ซ้อนหน้าไม้แถมยังร่วงลงมาด้วย เขาไม่คิดว่าต่อหน้าที่สาธารณะผู้คนมากมายคนร้ายก็กล้าลงมือ

จางเย่าจิน(หน่วยมังกรแดง)บอกกับเจี่ยนหรงว่าหลี่เฟยปลอดภัยดี หวังว่าเขาจะใจเย็นลงบ้าง เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องความสัมพันธ์คู่จิ้นที่คนวงในเคยพูด แต่เข้าใจว่าเป็นสมดุลแนวเกมการเมือง หรือเป็นห่วงพวกพ้องธรรมดา เจี่ยนหวากลับมามีสีหน้าเรียบเฉย เดินเข้างานไปจับคนร้ายด้วยตัวเอง

ในงานผู้คนถูกไฮฟาหยุดความเคลื่อนไหว แต่พวกเขายังคงโวยวายอยู่ ตอนนั้นเองที่ประตูถูกเปิดออก คนผู้นึงเดินเข้ามา เพราะย้อนแสงไฟจากทางเดินผู้คนในห้องโถงจึงไม่เห็นใบหน้าเขา ชั่วขณะนั้นบรรยากาศน่าพิศวงอย่างประหลาด ผู้คนเริ่มเงียบลงอย่างหวาดกลัว

ไม่มีการแนะนำตัวว่าเป็นตำรวจหรือคนร้าย เขาเดินเขช้ามาและกลืนหายไปในห้องที่มืดมิดนี้ ทุกคนรู้ว่าเขาอยู่นี้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร

เหลียงจวิน(CEO)มองห้องที่อยู่ในความเงียบ เขาปวดหัวเหลือเกิน เขาเคยเจอกับดักธุรกิจมากมายแต่ไม่เคยมีครั้งไหนเฉียดตายแบบนี้เลย นี่ไม่น่าใช่เรื่องของวงการบันเทิงแล้ว เขาคิดย้อนไปถึงหลี่เฟยที่เคยโดน จางเย่าจิน(หน่วยมังกรแดง)เชิญไปดื่มชาแล้วปวดหัว ผ่านเหตุการณ์นี้ไปจะอธิบายกับประชาชนและนักข่าวยังไงล่ะเนี่ย!

เห็ดจัดการล็อคตัวผู้คนตามคำสั่งเจ้านาย คนอื่นๆที่ไม่มีพลังนั้นช่างเถอะ แต่เกิ่งเถียน(บอดี้การ์ด)ที่มีพลังระดับAถูกมัดเป็นบ๊ะจ่าง เมื่อเจี่ยนหวามาถึงเห็ดก็ระริกระรี้นำอาหารสำรองฉุกเฉินส่งให้ถึงหน้าเขาทีเดียว แน่นอนว่าเขาไม่เอาแล้วเดินต่อไป

หลี่เฟยเดินเข้ามาหาเจี่ยนหวา เขาเห็นทุกอย่างก้าวของอีกฝ่าย เห็นไปถึงความโกรธเกรี้ยวที่สัตว์ร้ายตัวนั้น และเห็ดที่แสดงแนวโน้มที่จะโจมตีคนที่กล้าต่อต้าน เจี่ยนหวากำลังโกรธเพื่อเขา

เจี่ยนหวารู้สถานการณ์จากหูฟัง แต่เขาต้องมายืนยันด้วยตาตนเองถึงจะเชื่อ ความโกรธลดลงแล้ว จากนั้นเขาก็อธิบายเรื่องข้างนอก ครั้งนี้เป็นหลี่เฟยอึ้งบ้าง เขาเตรียมใจไว้บ้างแต่ไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นเป้าหมายของทั่วโลกขนาดนี้ พูดไปพูดมาเจี่ยนหวาก็โมโหขึ้นมาอีกแล้ว หลี่เฟยเห็นเขาโกรธเพื่อตัวเองก็ยิ้มแล้วกอดอีกฝ่าย ยืนยันว่ามีเจี่ยนอยู่ใครก็ฆ่าเขาไม่ได้ ต่อจากนี้จนก่อนตาย เขาจะเชื่อฟังอีกฝ่ายทุกอย่างเลย

ได้ยินแบบนี้เจี่ยนหวาก็ตะลึงจนพูดไม่ออก เขาอยู่ในอ่อมกอดนี้พร้อมคิดย้อนไปหลายอย่าง มองข้ามเรื่องใจเต้นอะไรนั้นเขาก็พบว่าสายตาของจนมักตกลงบนร่างนี้เสมอ เขาถูกผู้ชายตรงหน้าดึงดูดแล้ว ไม่ใช่เพราะบทบาทแบบการแสดง แต่เป็นตัวตนของเขาจริงๆ

ตอนนั้นเองความคิดก็โดนขัดจังหวะ ไฮฟาที่เขาส่งไปตรวจสอบทั่วห้องและตัวคนก็เจอปืนที่กระถ่างต้นไม้ น่าเสียดายที่คนร้ายกินยาพิษฆ่าตัวตายแล้ว

เขาแจ้งเรื่องนี้ให้จางเย่าจิน(หน่วยมังกรแดง)มารับช่วงต่อ

เพื่อซ้อนตัว หลี่เฟยจึงกลับไปพักที่บ้านของเจี่ยนหวา ไม่ได้อยู่มา2เดือนฝุ่นหนาเตอะ ระหว่างทำความสะอาดเจี่ยนหวาถือโอกาสรีบดึงโปสเตอร์แม่ทัพอูไปซ่อนใต้ฟูกบนเตียง ซ่อนเสร็จเขาก็รับรู้ความเปลี่ยนแปลงของตัวเองเป็นอย่างดี เขาเริ่มเป็นห่วงความรู้สึกหลี่เฟยแล้ว

ตอนนี้รอบหมู่บ้านนี้ถูกไฮฟายึดครองแล้ว ความปลอดภัยสูงมาก ตั้งแต่ปืนฉีดน้พ ไฟแช็ก วาล์วแก๊ส ถูกตรวจสอบตามความต้องการของเจี่ยนหวา แม้แต่หนูและแมลงสาบที่เจี่ยนหวาไม่ชอบ พวกมันก็จัดการจนหายไปหมด แน่นอนว่าเจี่ยนหวาไม่รู้ถึงรายล่ะเอียดพวกนั้น

แต่เขาก็รู้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด และเป็นครั้งแรกที่เขาพอใจพลังพิเศษของตัวเอง

หลี่เฟยเข้ามาเคาะประตูเมื่อเห็นเจี่ยนหวาเงียบไป เมื่อความรู้สึกเปลี่ยนความคิดของเขาย่อมเปลี่ยนตาม อยู่ๆบ้านขนาดพอดีอยู่ของตนก็ดูเล็กขึ้นมา หลี่เฟยจะทำอะไรก็ดึงดูดสายตาของเขาไว้หมด เจี่ยนหวาคิดว่าตัวเองแสดงออกดีแล้ว แต่มันย่อมหลอกราชาจอเงินไม่ได้

ขณะที่เจี่ยนหวานอนพัก หลี่เฟยรู้สึกเสียดายเหลือเกิน ได้อยู่กับคนที่ชอบแต่ทำได้แค่มอง มากกว่านั้นคงโดนเห็ดคุมประพฤติเป็นแน่

เขาสอดสายตาไปทั่วห้อง สำรวจตู้เสื้อผ้าสักหน่อย มีเสื้อผ้าที่เขาให้ไว้ เขาเริ่มคิดว่าต่อไปจะให้ชุดแบบไหนดีสายตาก็ไปเจอจุดที่เห็ดกระจายตัวแปลกๆ ขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า..ในห้องดูแล้วไม่มีที่เก็บนอกจากเตียง เมื่อลองหยิบมาดูเขาก็เจอเขากับใบหน้าตัวเอง..หรือใบหน้าแม่ทัพอู โปสเตอร์ใบเดียวกับที่เขาให้ไว้ตอนเจอกันครั้งแรก

ระหว่ากินข้าวและคุยถึงข่าวก่อการร้ายในงานเลี้ยงและเรื่องของฝีมือผู้ทะลุมิติจากนอกประเทศที่ร้ายกาจมาก หลี่เฟยก็ยกเรื่องที่เขาชอบอีกฝ่ายขึ้นมาพูดอีกครั้ง เขายังจีบคนอย่างหนักแน่นสม่ำเสมอ แม้จะดูหน้าด้านและเข้าข้างตัวเองแต่ก็ถือว่ามีความพยายามจริงๆ

ทั้งคู่หยั่งเชิงและโต้เถียงกันไปมาจนมือของเจี่ยนหวาถูกจับกุม เขาคิดจะดึงมือออกแต่ก็ต้องใช้แรงใจเป็นอย่างมาก แต่แล้วเห็ดก็เข้ามาขัดจังหวะพวกเขา พอได้ทีเจี่ยนหวาก็หนีเข้าห้องไป เมื่อทบทวนตัวเองอยู่ๆเขาก็พบความในความทรงจำมีแต่หลี่เฟย เงาของแม่ทัพอูจางลงไปทุกทีแล้ว เขาออกจากห้องมาหาหลีเฟยอีกรอบ เรื่องบางอย่างต้องออกมาเผชิญหน้าแล้วล่ะ

ด้านจางเย่าจิน(หน่วยมังกรแดง)เขากำลังสอบสวนผู้ทะลุมิติอยู่อีกฝ่ายไม่ให้ความร่วมมือจนเขาต้องเอาหลีเฟยมาขู่ถึงจะยอมเปิดปากได้ ชื่อของหลี่เฟยยังคงใช้ได้กับผู้ทะลุมิติเสมอ

และข้อมูลนั้นก็ถูกส่งต่อให้หลี่เฟยเช่นกัน องค์กรโฮลีเกต(Holy Gate)องค์กรของผู้ทะลุมิติที่มีสาขาทั่วโลก หลี่เฟยค่อนแคะสถานการณ์ฝั่งอเมริกาที่ผู้ทะลุมิติแทรกซึมอยู่ทั่วแล้วยังไม่รู้ตัว คนจากองค์กรนี้มีอำนาจขนาดใช้งานอาชญากรตัวฉกาจที่โดนออกหมายจับได้ และยังมีกลุ่มอิทธิพลมืดจากหลายประเทศอีก

จากการสอบปากคำคนที่จับได้ องค์กรนี้ส่งคนไปอยู่กับตัวเอกแล้ว เพราะนิยายเรื่องนี้ถ่ายทอดผ่านมุมมองของพระเอก ดังนั้นอีกฝ่ายจึงไม่มีความเป็นส่วนตัวใดๆเหลือเลย เด็กน้อยที่เติบโตจากโคลนตมและกลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ หากในต้นฉบับเป็นเพราะเขาได้เจอคนดีๆในอนาคตจนผ่านความลำบากมาได้ แล้วตอนนี้ล่ะ? คนรอบตัวที่กลายเป็นเรื่องราวบทใหม่ที่ถูกเขียนขึ้นมาโดนผู้ทะลุมิติ?

ถ้าวันหนึ่งเขาได้รู้ว่าจริงๆแล้วทุกคนเข้าหาเขาด้วยพลังและฐานะตัวเอก ไม่มีอะไรเป็นความจริงใจของจริง เขาจะเติบโตไปทางไหนต่อ จะยังเป็นเด็กดีได้ต่อไปอีกไหม? คนที่แฝงตัวไปอยู่ข้างกายตัวเองต่างคิดว่าตัวเองเก็บสมบัติได้ แต่จริงๆแล้วคือระเบิดเวลาต่างหาก

จุดนี้ก็เป็นสิ่งที่ผู้นำประเทศเป็นห่วงเช่นกัน เจี่ยนหวาและหลี่เฟยที่เป็นบอสนั้นเหมือนจะอันตรายที่สุด แต่พวกเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่จอนสันบราว์ล่ะตัวเอกคนนี้พึงอายุ14เท่านั้น ไม่มีประสบการณ์ชีวิต และเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะฝังใจกับอะไรได้ง่ายเป็นพิเศษ

เทียบกับบอสที่พูดคุยและจับตาได้แล้ว ตัวเอกกลับเป็นคนที่พวกเขาไม่รู้อะไรเลย

ฝั่งหลี่เฟยที่กำลังพูดอยู่ว่าตอนนี้พวกเขาต้องเริ่มก่อตั้งองค์กรขึ้นมาได้แล้ว เสียงระเบิดก็ดังขึ้น เขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเพราะไฮฟาปกป้องเขาไว้ เจี่ยนหวาจัดการแยกคนร้ายกับระเบิดลงท่อระบายน้ำ ยังมีโน๊ตบุ๊คที่ยึดมาได้น่าเสียดายที่ค้นแล้วไม่เจออะไร หน่วยมังกรแดงเข้ามาจัดการต่อ รอบนี้เห็ดจัดการอุดปาก สามารถจับคนร้ายแบบเป็นๆได้สักที ถือว่ามีไพ่ไปต่อรองกับนานาประเทศมากขึ้นแล้ว

จากเรื่องนี้เจี่ยนหวาจึงได้รู้ว่า ผู้แต่งเรื่องนี้ใช่นามปากกว่า นาเนียน เคอา ซึ่งเอามาจาก ลาเนีย เคอา (Laniakea) ภาษาฮาวายแปลว่าสรวงสวรรค์ที่ไร้ขอบเขต (*กาแล็กซีทางช้างเผือก เป็นส่วนหนึ่งของดาราจักรลาเนีย เคอา)

พอถูกชวนคุย เจี่ยนหวาก็เผลอลืมโกรธ ใช่แล้วเขาโกรธที่หลี่เฟยเอาตัวเองมาเป็นเหยื่อล่อ ตอนนี้เขาจึงตั้งใจจะไม่สนใจใยดีอีกฝ่ายแล้ว ทั้งยังตั้งใจกลั่นแกล้งให้อีกฝ่ายเดินกลับบ้านกลางฤดูหนาวอีกด้วย แต่แล้วหลี่เฟยก็จามขึ้นมา... เขารีบหันกลับไปทัน เป็นหวัดเหรอ ไปซื้อเสื้อกันเถอะ เขาหมายจะเดินไปร้านเสื้อข้างทาง แต่ถูกห้ามไว้ก่อน

หลี่เฟยใช้พลังพิเศษเพิ่มความอบอุ่นแล้วไปกุมมืออีกฝ่ายไว้ กุมแน่นจนหลุดไปไหนไม่ได้ สุดท้ายก็ยอมจับมือด้วยในที่สุดแล้วเดินไปข้างหน้าด้วยกัน

ว่ากันตามจริง ไม่ใช่แค่เจี่ยนหวาหรอกที่รู้สึกว่าอยู่ๆบ้านของตนก็เล็กเกินไป หลี่เฟยเองก็รู้สึกแบบนั้น หลังจากที่มาอยู่ด้วย ผ่านไป3วันเขาก็รู้เหมือนถูกทดสอบจิตใจซะแล้ว ดีที่ตอนนี้เป็นหน้าหนาวไม่ค่อยได้เห็นวิวสวยๆและพอจะปิดความกระดากอายได้บ้าง

แต่การที่เห็นอีกฝ่ายโอนอ่อนให้ มันก็เหมือนน้ำมันราดฟืน ขาดแค่จุดไฟเท่านั้น ว่าแล้วหลี่เฟยก็พาคนไปหลบที่ตรอกลัด พูดราวกับจะเอาคืน ตั้งแต่ที่คุณมาแสดงแทนผมในบทแม่ทัพอู ผมก็ถูกคุณดึงดูดแล้ว...

เจี่ยนหวาผงะ จากนั้น เขาก็ถูกจูบทั้งยังเป็นจูบที่ลึกซึ้งพาให้ร้อนผ่าวไปทั้งตัว

น่าเสียดาย ขณะที่ทั้งคู่กำลังลุ่มหลงในสัมผัสและตัวตน สนามพลังของพวกเขาก็ต่อต้านขึ้นมา ตรอกถูกทำลายเป็นหลุม เรื่องนี้ทำให้หลี่เฟยโมโหมาก มีความรักทั้งทีทำไมมันยากแบบนี้? แน่นอนว่าเขาไม่ยอมแพ้เข้าไปจูบแผ่วเบาแล้วพละออก สนามพลังก็เป็นส่วนหนึ่งของพวกเขามันจะมาไม่เชื่อฟังได้ยังไง

หนึ่งเดือนต่อมา เกิดอุบัติเหตุพิศวงขึ้นทั่วโลกจากการซ้อนทับของโลกที่ถูกทอดทิ้ง ระดับของอุบัติเหตุมีทั้งเล็กทั้งใหญ่จนในที่สุดก็กระทบทบถึงระดับเศรษฐกิจจนมีบางประเทศล่มสลายลง ประเทศที่กุมความลับของโลกนี้คือนิยายก็มีมากขึ้น หลายประเทศมองข้ามตัวเอกอายุ14ไปก่อน แล้วพุ่งเป้าไปทางตะวันออกที่มีผู้มีพลังระดับ S ถึง2คน ทั้งยังเป็นบุคคลอันตรายอย่างยิ่งอีก

น่าเสียดาย ถึงแม้หลี่เฟยจะมีชื่อเสียงจนดูลงมือง่าย แต่ลงเกิดแหตุที่งานเลี้ยงครั้งนั้นเขาก็ไม่ปรากฏตัวขึ้นอีกเลย

ส่วนผู้กลืนกินยิ่งแล้วใหญ่ นอกจากข้อมูลว่าเป็นลาสบอสแล้ว้อมูลอื่นๆนั้นชื่อถือไม่ได้สักอย่าง ประเทศจีนใหญ่ขนาดนั้น ถ้าทั้งคู่ถ้าไม่ถูกรัฐบาลประเทศตัวเองขาย ประเทศอื่นก็ไม่มีทางตามหาตัวได้ง่าย แต่ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนเองก็กังวลกับระเบิด2ลูกนี้ของตนเองเช่นกัน อเมริกามีโฮลีเกจให้ตกตะลึกเพราะไม่เคยรู้ตัวมาก่อน ส่วนพวกเขาต้องมองแบล็กอบิสเติบโตขึ้นมากลางสายตาตนเอง จะห้ามก็ไม่ได้อีก เพราะเรื่องให้งานเลี้ยงครั้งนั้นไปกระตุ้นบอสทั้งคู่เข้าเต็มๆ

เพียงเดือนเดียวแบล็กอบิสก็แข็งแกร่ง มีลูกน้อง ทัพยากรและเส้นสายไว้ในมือมากมาย หลายครั้งหน่วยมังกรแดงยังต้องพึงพาข้อมูลจากพวกเขาด้วยซ้ำ! และนอกจากข้อมูล บางครั้งพวกเขาก็ต้องพึงพาเห็ดเหมือนกัน ทั้งที่ระแวงเห็ดสุดๆแต่ไม่มีก็ไม่ได้ 8เมืองที่มีเห็ดยึดครอง เสียหายเพราะมอนสเตอร์น้อยมาก แต่ทางเหนือกลับเกิดเหตุตึกถล่มไปแล้ว

เจี่ยนหวาแบ่งเห็ดให้พวกเขาไปเพาะพันธ์ เขาเองก็เข้าใจ แม้จะเป็นมิตรในวันนี้ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเสร็จศึกฆ่าขุนพลรึเปล่า ยังไงซะตอนนี้ประเทศก็ยังวุ่นวายไม่สามารถแตกหักกับพวกเขาได้

ในช่วงเวลานี้เจี่ยนหวาไม่ยอมออกไปพบกับคนอื่นตรงๆที่โลกภายนอกแล้ว สำหรับเขาโลกที่ถูกทอดทิ้งที่มีเห็ดปลอดภัยกว่าโลกภายนอกมาก ทั้งตอนนี้จุดทับซ้อนระบุเวลาและสถานที่เกิดได้แล้วได้ ไม่มีเหตุผลอะไรต้องออกจากบ้านอีก

ขณะเดินทางอยู่ในโลกที่ถูกทอดทิ้ง เจี่ยนหวาก็เจอโจรที่ตั้งในร้านเครื่องประดับ แน่นอนว่าถูกเขาจัดการด้วยเห็ดไป แต่เพียงไม่นานคนกลุ่มหนึ่งก็เดินมา ดูจากตราสัญลักษณ์แล้วเป็นคนจากแบล็กอบิส และเขาก็พบฮั่วเหวย คนๆนี้เป็นผู้ทะลุมิติเจี่ยนหวารู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่พบ รู้สึกว่าเขาหลอกลวงเก่งและช่างเอาหน้า แต่ทั้งหมดนี้แสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและดูจริงใจ ซะจนคนอื่นๆดูไม่ออกเลย

อย่างครั้งนี้ก็เช่นกัน ฮั่วเหวย(ผู้ทะลุมิติ)เห็นเห็ดก็รู้แล้วว่าลาสบอสอยู่แถวนี้ไปจนถึงอาจจะจับตามองพวกเขาอยู่ ดังนั้นจึงพูดบอกคนอื่นให้เตรียมจับคนไปส่งตำรวจ ขณะที่คนๆอื่นในกลุ่มก็เป็นผู้ทะลุมิติเช่นกัน คนกลุ่มนี้แสดงทัศนคติชัดเจนว่านี้ไม่ใช่บ้านของพวกเขา อาชญากรรมไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ตรงไหน ไม่เห็นต้องไปสนใจ ความแตกต่างนี้ทำให้ ‘ความเป็นคนดี’ ของฮั่วเหวยดูชัดเจนขึ้นมาอีก

แถมเพื่อนๆผู้ทะลุมิติของเขาก็ยังข้องใจด้วยว่าทำไมต้องมาแบล็คอบิสที่สุดท้ายต้องล้มในมือพระเอก แต่ฮั่วเหวยก็ดูถูกอีกฝ่าย ล้มในเพราะพระเอกแล้วยังไง นั้นเป็นเรื่องอีก10ปีข้างหน้า เวลานี้แบล็กอบิสมีพลังถึงขนาดคานกับรัฐได้ด้วยซ้ำ แน่นอนว่าคนที่ไม่เห็นด้วยก็ยังมี แต่สุดท้ายพวกเขาก็ตามฮั่วเหวยไป

เจี่ยนหวากลับมาถึงบ้านก็คิดจะอาบน้าเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาเห็นแท็บแลตวางอยู่บนโต๊ะจึงคิดว่าหลี่เฟยนั่งทำงานอยู่ แต่เมื่อเข้าห้องน้ำไปแล้ว โลกที่ถูกทอดทิ่งก็จบลงพอดี ภาพของโลกความจริงปรากฏขึ้น หลี่เฟยอยู่ตรงหน้าเขากำลังเปลือยเปล่าอยู่ สุดท้ายแล้วด้วยบรรยากาศพาไปและความเต็มใจส่วนหนึ่ง NCฉากแรกก็มาถึง

เดิมทีเจี่ยนหวาคิดจะปฏิเสธ เพราะกลัวสนามพลังที่ต่อต้านจะทำให้ข้าวของพัง แต่แล้วเรื่องประหลาดก็เกิดขึ้น สนามพลังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เขารับความดุดันของหลี่เฟยเอาได้จนจบ ทั้งยังดูดกลืนแก่นพลังอีกฝ่ายผ่านสิ่งที่ปลดปล่อยออกมา

เรื่องนี้ทำให้เขาอายมาก แล้วก็ปฏิเสธเผื่ออนาคตไว้ก่อน ถ้าวันไหนหลี่เฟยใช้พลังขึ้นมาไม่ได้จริงๆก็แย่สิ แบล็คอบิสยังรอให้เขาจัดการอยู่นะ ไหนจะอันตรายรอบด้านในอนาคตอีก เรื่องนี้ทำให้หลี่เฟยกลุ่มใจเหลือเกิน อยากจะจูบดูดดื่มก็ข้าวของพัง อยากจี๋จ๋า18+ก็พลังลด ทำไมความรักของเขาถึงยากแบบนี้นะ! เขาจะต้องหาวิธีฟื้นฟูพลังโดยเร็วให้ได้ ใครจะยอมให้เป็นแบบนี้ต่อไปล่ะ

**ด้านตัวเอก จอห์นสัน บราน์ **

ชีวิตของจอห์นสัน บราน์นอกจากจะต้องเจอพายุเฮริเคนแล้ว ยังต้องเจอพายุหิมะอีก เขาถูกอดีตคุณครูผู้ใจดีและคนรักของเธอทนายความผู้สุภาพรับเลี้ยง จอห์นสันคิดว่าชีวิตของตัวเองจะดีขึ้น แต่ความจริงก็บอกเขาว่าไม่เลย แถมเขายังเป็นคนทำให้คู่รักคู่นั้นลำบากใจอีก พวกเขาทะเลาะกันลับหลังเขาทุกวัน

นอกจากปัญหาเรื่องเงินแล้ว ยังมีสัตว์ประหลาดน่ากลัวอีก เขาได้แต่หลบอยู่ใต้เตียง รอให้ค่ำคืนที่น่ากลัวผ่านพ้นไป และวันนี้เองคู่รักก็ออกไปเทาะกันข้างนอก เขาคิดดว่าจะเป็นภาระของทั้งคู่ไม่ได้แล้ว ดังนั้นจึงเดินลุยพายุหิมะออกมา

ด้านคู่รักที่คุยกันอยู่ข้างนอก ยังทุ่มเถียงกันดุเดือด พวกเขาเป็นผู้ทะลุมิติจากองค์กรโฮลีเกต เดิมทีตอนรับภารกิจนี้ก็ดีอกดีใจคิดว่าเมื่อได้มาอยู่กับตัวเอกแล้วชีวิตจะปลอดภัยอยู่สบายซะอีก แต่ความจริงแล้วไม่เลย เด็กคนนั้นทำอะไรไม่เป็นทั้งสิ้น ตั้งแต่งานบ้านไปถึงการต่อสู้ ข้าวของในบ้านถูกสัตว์ประหลาดทำพังไปไม่รู้เท่าไรแล้ว แต่สุดท้ายพวกเขาก็อดทน ถ้าเลี้ยงตัวเอกจนโตได้ อนาคตยังต้องกลัวอะไรอีก แต่เมื่อเขากลับบ้านมา จอห์นสัน บราน์ก็หายตัวไปแล้ว

เด็กชายเดินโซเซไปตามถนน เขาอยากกลับไปหาอาของเขา แต่บ้านเดิมไกลเกินไป ทันใดนั้นก็มีชายสูงใหญ่จอดบิ๊กไบค์ตัดหน้าเขา แว่นกันลมอันใหญ่บดบังจนมองสีหน้าไม่เห็น จากนั้นจอห์นสันก็โดนดุ ออกมาเดินกลางถนนวันพายุแบบนี้ อยากแข็งไตรึไง จากนั้นก็คว้าตัวเขาและพามาหลบในเสื้อคลุมกันลม และขับออกไปทันที

เมื่อมาถึงบ้านที่กว้างขวางใหญ่โต ชายคนนั้นก็พาเขาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หาชุดใหม่ให้เขาใส่ ถึงแม้สุ่งเสียงจะไม่อ่อนโยนเลยสักนิด แต่คำพูดก็แสดงความใส่ใจเป็นอย่างมาก เป็นเป็นห่วงจึงดูดุดัน เมื่ออีกฝ่ายเปลี่ยนชุดเขาก็จำใบหน้านั้นได้ทันที นักร้องชื่อดังที่อดีตคุณครูของเขาชอบ อาจะเพราะความอบอุ่นที่ได้รับ หรือเพราะเห็นว่าเป็นคนรู้จัก(จากเพลง และชื้อเสียงโด่งดัง) จอห์นสัน บราน์จึงเล่าเรื่องของตัวเองออกมา

ที่จริง เฟเดริโก โมเลนซา เองก็คิดว่าพฤติกรรมเก็บคนมาแบบนี้มันสุ่มเสี่ยงมาก เด็กนี้เป็นใครก็ไม่รู้ อันตรายรึเปล่าก็ไม่รู้ แถมเขายังเป็นคนดังที่ปาปารัสซีวิ่งตามอีก ในวงการมีเรื่องทุเรศๆเบื่องหลังเยอะแยะ เขาไม่อยากเป็นแบบนั้นไปด้วยสักนิด แต่จะปล่อยให้เด็กนี่นอนตายข้างถนนได้ยังไง?

แต่เมื่อฟังเรื่องราวของเด็กคนนี้เขาก็เริ่มคิ้วขมวด คู่รักอายุไม่มากและยังไม่แต่งงาน แต่อยากรับเลี้ยงเด็กเนี่ยนะ? ถ้าการเงินมีปัญหาขนาดให้เด็กกินสตูมันฝรั่งทุกวัน ทำไมยังมีเงินมาซื้อบัตรคอนเสิร์ตของเขาอีก แถม..มีอาคนหนึ่ง แล้วก็โดนพายุเฮอริเคนพัดถล่มงันเหรอ...

เขาสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นทันที ใช่แล้วพอถามชื่อออกไปก็เป๊ะเลย

ใช่ชีวิตสงบสุขมายี่สิบกว่าปี ไม่เคยคิดจะไปเกี่ยวข้องกับ ‘ตัวเอก’ ‘นิยาย’ เลยสักนิด แต่วันนี้แค่ออกไปขับรถเล่นก็เก็บตัวเอกได้ซะงั้น แล้วถ้าไม่เจอเขาเด็กนี้จะแข็งตายรึเปล่า นี่อนคตของอเมริกาและโลกใบนี้เชียวนะ แล้ว..อดีตคุณกับทนายความใจดีงั้นเหรอ ผู้ทะลุมิติน่ะสิไม่ว่า ถ้าอยากจะเลี้ยงตัวเอกก็ทำให้มันดีๆหน่อยสิ สตูมันฝรั่งทุกวันเนี่ยนะ?

เขาให้จอห์นสัน บราน์ ขึ้นไปพักผ่อนอย่างอ่อนใจ ก่อนที่โลกที่ถูกทอดทิ้งจะมาเยือนกะทันหัน ตัวเอกน้อยที่พยายามซ่อนใต้เตียง ยังมีพวกสัตว์ประหลาดตัวเล็กอยู่ด้วย เมื่อเขาเข้ามาช่วยจอนสันก็ดีใจและแปลกใจมาก ็

จากนั้นมาเฟเดริโก โมเลนซาก็คอยสอนอีกฝ่ายใช้พลัง และสู้กับสัตว์ประหลาด



วันหนี่งมีแขกไม่ได้รับเชิญบุกมาที่บ้านของเฟเดริโก ตอนนั้นเขากำลังโกนหวานไปครึ่งผู้บุกรุกจึงไม่สังเกตุเห็นว่าเขาเป็นใคร แต่ก็ชื่นชมกล้ามหน้าท้องเขาแบบโรคจิต คนๆนี้คือแมงป่องแดงคนโรคจิตที่สุดจากปลายปากกานักเขียน ถึงพลังจะเป็นระดับA แต่ด้านการต่อสู้ไม่มีใครเทียบเขาได้แม้แต่อัคคีมาร

อีกฝ่ายต้องการมาฆ่าจอห์นสัน บราน์ แมงป่องแดงได้เจอกับผู้ทะลุมิติที่เข้ามายุ่มย่ามกับตัวเขาจนได้รู้ว่าโลกนี้คือนิยายเรื่องหนึ่ง และมีเด็กผอมแห้งคนนี้เป็นตัวเอก เด็กนี้น่ะเหรอฮีโร่กู้โลก ถ้าฆ่าตัวเอกทิ้งจะเกิดอะไรขึ้นกันนะ ที่จริงเขายังไม่ได้คิดจะฆ่าอีกฝ่ายเร็วแบบนี้ เพราะเขาเองนี้แหละที่จัดการระดับสูงของโฮลีเกตแล้วฮุบมาเป็นของตัวเองสำเร็จไม่นานมานี้

ถ้าอีกฝ่ายยอมอยู่เงียบๆในมือ ไม่หนีออกจากบ้านมา เขาก็คงจะเก็บไว้เล่นนานอีกหน่อย

เฟเดริโกรู้ดีถึงความโรคจิตของคนตรงหน้า รีบตายยังสบายกว่าถูกจับตัวไป ดังนั้นเขาจึงคิดจะฆ่าตัวตายอย่างเด็ดขาด น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จ และยังทำให้จอห์นสันเรียกชื่อของเขาออกมา 

แมงป่องแดงจึงเลือกที่จะปล่อยทั้งคู่ไปก่อน ตระกูลโมเลนซาเป็นตระกูลใหญ่ หากคิดจะฆ่าเขาก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนหนักไม่น้อย 

แต่ก่อนไปเขายังไม่ลืมแซะว่าหากผู้นำตระกูลรู้ว่าหลานคนเดียวถูกเปลี่ยนไส้ในแล้วจะเป็นยังไงนะ ทิ้งไว้เพียงความเละเทะเบื่องหลัง


Ad Code

Responsive Advertisement