(สปอย์) นิยาย debut or die บทที่6

 (การเดินเรื่องของนิยายจะต่างจากมังฮวาเล็กน้อย) *ไม่ใช่การแปล เป็นสรุปเหตุการณ์สำคัญในแต่ล่ะตอน เพื่อกลับไปอ่านฉากที่ชอบใหม่ได้ง่ายๆ




บทที่6

เหนื่อยชะมัด การนั่งดูการแสดงที่คล้ายๆกัน 70 กว่าครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

              เมื่อก่อเวลาตามไอดอลไปถ่ายแฟนแคมมันไม่ได้น่าเบื่อแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าการแสดงของเด็กฝึกไม่ได้ดีพอที่จะทำให้คนไม่เบื่อ

แน่นอนว่ามีบางคนที่น่าประทับใจ นั้นก็คืออันดับ1-2 ที่นั่งอยู่บนโซฟาสุดอลังการ พวกเขาทั้งคู่มาจากค่ายชื่อดังแห่งเดียวกัน และพวกเขาก็ทำได้ดีมาก หน้าต่างสถานะก็น่าประทับใจเช่นกัน

              พวกเขาทั้งคู่ได้เดบิวต์ โดยหนึ่งในนั้นได้ที่หนึ่งมาครอง

ถ้าติดตามพวกเขาไว้ ก็จะเพิ่มโอกาสเดบิวต์ขึ้น ....แต่ แค่คิดว่าต้องเนี่ยนไปสนิทกับเด็กๆทั้งที่อายุตัวเองไม่ให้ ก็ปวดหัวแล้ว คอยอีกทีตอนประกาศทีมเถอะ

              การประเมินมาถึงคนสุดท้าย

              ผู้เข้าร่วม รยูชองอู… อันดับที่ 9!” 

              "ขอบคุณ!" อดีตตัวแทนนักกีฬายิงธนูทีมชาติทิ้งความประทับใจไว้ พร้อมยิ้มขณะที่เขาเดินลงจากเวที

              มุนแดได้ยินมาว่าเขาได้รับรางวัลเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก แน่นอนว่าเขาได้เดบิวต์จากรายการนี้

 

              เมื่อการคัดเลือกจบลง ก็ถึงเวลาเดินทางไปหอพัก สถานที่กินนอนฝึกซ้อมและถ่ายทำตลอด24ชั่วโมง

หอพักอยู่ห่างจากกองถ่ายโดยใช้เวลาเดิน 10 นาที แต่ก็ต้องใช้วิธีเดินทางแตกต่างกันเพื่อสร้างสีสัน กลุ่มTop10ได้ใช้รถลีมูซีนด้วยท่าทางร่าเริง ส่วนอันดับที่ 51 ถึง 77 ต้องวิ่งไป พวกเขาพยายามกระตือรื่อร้น แต่เห็นได้ว่าพวกเขากำลังกลั้นน้ำตาไว้ โดยมีกล้องติดตามผู้เข้าร่วมเสมอ

              ช่วงเวลาลำบากของพวกเขาคงถูกใช้กระตุ้นความสนใจของรายการแน่

ส่วนอันดับ 11 ถึง 25 มีรถบัสพรีเมี่ยมกำลังรออยู่ อีเซจินBยิ้มกว้างในขณะที่เขาขึ้นรถบัสเป็นคนแรก

              มุนแดรอสักพักเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่นั่งติดกันโดยบังเอิญ จากนั้นจึงเข้าไปในรถบัสอย่างช้าๆ มีบางคนตามมา เขาลังเลและนั่งเงียบ ๆ ถัดจากมุนแด

              คนนั้นคือ ซอนอาฮยอน

              “… .?”

              ทำไมถึง… ?

              แต่ก็ไม่เป็นไร ยังดี เพราะอีกฝ่ายเป็นคนเงียบๆ

 

* * *

 

พวกเขามาถึงหอพักอย่างรวดเร็ว 

              แต่ล่ะห้องถูกจัดให้อยู่ตามอันดับ ห้องล่ะ5คน ดังนั้นโชคดีแล้วล่ะที่อยู่คนล่ะห้องกับ อีเซจินBที่ได้อันดับ20

ทันทีที่มุนแดเข้าไปในห้องนอน ที่มีเตียงสองชั้น 2เตียงและเตียงเดี่ยว 1เตียง มีชายคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนเตียงเดี่ยวด้วยท่าทางร่าเริง ไม่ต้องคิดก็รู้ว่ากำลังขายภาพลักษณ์สดใส เพราะที่นี่เองก็มีกล้องถ่ายทำซ่อนไว้เหมือนกัน

              มุนแดเลือกเตียงโดยไม่เกี่ยง  จากนั้นซอนอาฮยอนก็วางกระเป๋าเดินทางของเขา ไว้บนเตียงเดียวกันที่ชั้นบนอีกที 

“…” 

หลังจากนั้นพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นชุดฝึกที่ได้รับมาและไปรวมตัวกัน โดยมีซอนอาฮยอนตามอยู่ตลอด

              เพราะเขาดูเป็นคนธรรมดาเขาเลยสบายใจที่จะอยู่ด้วยอย่างนั้นเหรอ อีกฝ่ายก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร แต่ว่า ...ตอนเลือกทีมเพื่อประเมินครั้งต่อไป อาจจะถูกเปรียบเทียบเรื่องหน้าตาได้ คงต้องรักษาระยะห่างสักหน่อย

              เมื่อทุกคนมารวมตัว พิธีกรก็เริ่มเรียกความสนใจ เขาแนะนำระบบที่ทุกคนรู้อยู่แล้วด้วยน้ำเสียงที่เกินจริง นั้นคือคลาสเรียนทักษะที่แบ่งตามระดับ ซึ่งจะถูกประเมินเปลี่ยนระดับได้ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น หากทำในคลาส “การร้องระดับกลาง” ได้ดี ก็จะถูกเลื่อนขึ้นไปอยู่คลาส “การร้องระดับสูง”  หรือถ้าทำได้ไม่ดี คลาสเรียนก็อาจจะถูกยกเลิก

              หลังจากผ่านไป 10 วัน คะแนนสุดท้าย จะตัดสินจากการประเมินเพลงธีมเป็นรายบุคคล

หมายความว่าพวกเขาจะเผาจิตใจผู้เข้าร่วมอย่างไร้ความปราณี เพื่อรวบรวมฟุตเทจให้ได้มากที่สุด 

              ตามที่คาดไว้ มุนแดได้รับ การร้องระดับสูง และ การเต้นเริ่มต้น ดูน่าอายนิดหน่อยที่จะมีป้ายสีทองและสีบรอนซ์ทื่อๆ บนไหล่ 

              มีบางคนที่พวกเขาไม่ได้ป้ายเลย ในอินเทอร์เน็ต จะเรียกคนกลุ่มนี้ว่า'ระดับกาก'

              ถ้าคุณไม่มีป้าย… หมายความว่าคุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคลาสใดๆ คุณจะเรียนในชั้นเรียนเริ่มต้นด้วยกัน แต่คุณต้องฝึกพิเศษเพิ่มเติมในตอนกลางคืนด้วย”  พิธีกรอธิบายเมื่อแจกป้ายทั้งหมดแล้ว

พูดตามตรง การได้แอร์ไทมตรงนั้นเป็นโอกาสที่ดีสำหรับมือใหม่

              แต่ถ้าเขาไปยืนอยู่จุดนั้นเอง อาจจะคิดต่างออกไปก็ได้ ดูอดีตดาราเด็กที่ตัวสั่นคนนั่น เป็นตัวอย่างก็ได้

              เมื่อ10ปีที่แล้ว เขามีชื่อเสียงจากการร่วมแสดงในภาพยนตร์ชื่อดัง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาจึงหยุดทำงานไป เขาคงมาหาโอกาสกลับสู่วงการอีกครั้งมากกว่าการเดบิวต์เป็นไอดอล

              สิ่งที่กวนใจคือ คนๆนี้เองก็ชื่อ อีเซจิน

ถึงจะไม่ชัวร์ว่าสุดท้ายแล้วใครได้เดบิวต์ แต่อีเซจินตัวสูงมีโอกาสมากกว่า นักแสดงเซจินคนนี้ดูเหมือนตัวสร้างกระแสให้รายการ แถมเขายังไม่มีความสามารถในการร้องหรือเต้นเลยสักนิดด้วย

              หลังจากนั้นก็ถึงเวลาของเพลงธีมรายการ  มันเป็นเพลงฮิตที่จะได้ยินยาวไปถึงปีหน้า แม้แต่คนเตรียมสอบราชการแถมเลิกเล่นโซเชียลไปแล้วอย่างเขา ก็ยังจำท่อนคอรัสได้ 

เพลงประจำซีซั่นนี้คือ... “ฉันนี่แหละ(Shining Star)”!”

              จังหวะที่ติดหู เนื้อเพลงที่ร้องตามง่าย

              ท่าเต้นที่แสดงโดยนักเต้นปรากฏบนหน้าจอ

              จากนั้นเสียงอุทานและเสียงคร่ำครวญก็ดังขึ้น มุนแดเองก็เข้าใจแล้วเหมือนกัน ร้องง่ายแล้วยังไง  เพราะท่าเต้นมันยากมาก เสียสมาธิไปครู่หนึ่งก็ตามไม่ทันแล้ว ยังไม่นับสเต็ปขาที่ดูยังไงก็ชวนล้มหัวแตก แข่งขาพันกันยุ่งไปหมด

              “...” มุนแดตัดสินใจทันที

              หน้าต่างสถานะ”

              “… เปิดใช้งาน 'ไว้ค่อยนอนตอนตาย! (D)'”

โต้รุ่งดีกว่า

 

* * *

 

ควรคำนวณแคลอรี่ให้ดีนะ

              นั้นเป็นเรื่องหลังจากฝึกซ่อมอย่างลืมตาย เขาไม่ง่วงตายหรอก แต่จะหิ้วตายแล้ว!

              คืนแรกมุนแดหิวมากจนเกือบจะเป็นลม และซอนอาฮยอนให้ช็อกโกแลตบาร์มา มุนแดเริ่มพูดอย่างเป็นกันเองกับเขาขึ้น กวางน้อยอายุเท่ากันกับ'พัคมุนแด' และเขาเองรู้สึกสดชื่นหลังจากได้คุยกับเด็กน้อยแบบนี้

              ในวันที่เก้า มุนแดจำท่าเต้นทั้งหมดได้ ตั้งแต่ต้นจนจบ การที่สามารถใช้เวลาตลอดทั้งคืนโดยไม่เมื่อยล้าได้ผลอย่างแน่นอน นอกจากนี้ฉันยังสามารถเพิ่มระดับได้หลายครั้ง

 

[ชื่อ: พัคมุนแด (รยูกอนอู)]

ระดับ: 7

ชื่อเรื่อง: ไม่มี

ร้อง : A-

เต้นรำ: D

รูปลักษณ์: C+

เสน่ห์: C

คุณสมบัติพิเศษ: ศักยภาพไร้ขีดจำกัด ไว้ค่อยนอนตอนตาย! (D)

!สถานะผิดปกติ: เดบิวต์หรือตาย

คะแนนที่เหลือ: 3

 

ตอนนี้คลาสเต้นมีคนได้เลื่อนระดับจากเริ่มต้นไประดับกลาง5คนแล้ว มันคงกลายเป็นซีนหนึ่งของเหล่าเด็กฝึกที่พยายามกันเต็มที่

มุนแดเองก็ต้องการซีนที่แสดงให้เห็นว่า เขาพัฒนาไปอย่างมากเหมือนกัน เรื่องราวการเติบโตที่รายการวางเอาไว้ อย่างเช่นที่เทรนเนอร์ตำหนิเขาอย่างรุนแรงตั้งแต่วันแรกของคลาสเต้น คนธรรมดาที่ร้องเก่งเต้นไม่ได้เรื่อง

เขาไม่ได้แย่เป็นพิเศษในชั้นเรียนนี้ แต่เพราะได้อันดับสูงในการประเมินครั้งแรก จึงต้องมีฉากดราม่าเพื่อความสนุกในรายการ เพราะการที่คนธรรมดาไม่มีพื้นฐาน จะทำได้ดีหลังจากฝึกฝนเพียงไม่กี่วันเป็นได้ยาก เว้นแต่จะโชคดีและมีพรสวรรค์จริงๆ 

ดังนั้นในการประเมินครั้งต่อไปที่จะมาถึง ถ้าไม่ดังก็ดับ

              เมื่อมีฉากตึงเครียดเข้ามาในคลาส สิ่งที่เขาต้องทำคือพายเรือตามน้ำ และทำให้ได้ในวันแสดงจริง

Ad Code

Responsive Advertisement