(สปอย์) Debut or Die บทที่4

 

บทที่ 4

 

เมื่อเสียงเพลงดังขึ้น คณะกรรมการหลายคนก็กระซิบกัน นี่เป็นเพลงของวงT-Holic บอยแบนด์ชื่อดังที่ได้รับรางวัลแดซัง 3 ปีซ้อน แต่ต้องหยุดกิจกรรมเพราะสมาชิกส่วนใหญ่รับใช้ชาติ

ดังนั้น ต้นสังกัดจึงผลักดันสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดออกเพลงเดี่ยว

นั้นคือ 〈PARTY IN ME〉เพลงฟังง่าย ที่ซาวด์วงเป็นเบสที่ผสานซินธ์ที่ซับซ้อน ได้รับความนิยมติดอยู่ใน 100 อันดับแรก สิ่งที่เกิดขึ้นในสตูดิโอตอนนี้ก็คืออินโทรเพลงนั้นอย่างแน่นอน มันเป็นเพลงที่มีเอกลักษณ์ พร้อมท่วงทำนองคอรัสสไตล์แอคคอร์เดียน ที่ไม่เหมือนใคร แน่นอนว่ามันเป็นผลงานชิ้นเอก ถ้าร้องได้ดี มันจะสร้างความประทับใจมาก

แต่ไม่มีใครหยิบมาใช่ในการออดิชั่นแบบนี้มาก่อน เพราะเพลงนี้โด่งดังขึ้นมาไม่ถูกเวลา (*หมายถึงวงพักอยู่ แต่นักร้องที่ไม่ได้มีชื่อเสียงในวง กลับทำให้เพลงโงดังขึ้นมา) PD กดปากกาของเธออย่างไม่พอใจ แม้กรรมการที่รู้สึกประหลาดใจกับการเลือกเพลง แต่ต่างก็กำลังรอให้อินโทรจบลงด้วยท่าทางสบายๆ

หลายคนไม่รู้ว่าเพลงนี้ แม้จะฟังเพราะติดหู แต่ร้องยากมากด้วยจังหวะที่ละเอียดอ่อน หากติดขัดขึ้นแล้วครั้งเดียวก็จะขาดความรื่นหูไปทันที อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าร่วมรายนี้ กลับเริ่มท่วงทำนองและออกเสียง ในแต่ละจังหวะที่ซับซ้อนได้อย่างพิถีพิถัน การเปล่งเสียงทำได้ดีอย่างน่าทึ่ง ไม่ใช่แค่ฟังชัดเท่านั้น แต่ยังมีน้ำเสียงที่ดีและหนักแน่นอีกด้วย

เหล่ากรรมการแปลกใจมมาก PDที่อยู่ด้านข้างก็เช่นกัน

ตอนคาราโอเกะเขาร้องได้ดีขนาดนี้เชียวเหรอ ไม่ว่าเธอจะงุนงงแค่ไหน เพลงก็ผ่านท่อนนี้และเข้าสู่ช่วงพรีคอรัส(ท่อนก่อนจะเข้าฮุค เมโลดี้ก็จะเร้าขึ้นมา) โน้ตสูงขึ้นแต่เขาร้องออกมาได้ดี มันฟังง่ายและสะอาด

เป็นเทคนิคที่สมบูรณ์แบบสำหรับเพลงนี้ ผู้เข้าร่วมร้องเพลงออกมา ได้อย่างสวยงามจนถึงโน้ตตัวสุดท้าย

พัคมุนแดก้มศีรษะทันทีที่ดนตรีจบลงแล้วกล่าวขอบคุณ

กรรมการหยิบไมโครโฟนอย่างตื่นเต้นแล้วพูดชมเขา เพราะเป็นรายการโชว์ จึงฟังแล้วเกินจริงไปบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องไม่ดี

ตอนนี้ PDอยากหัวเราะแล้ว เยี่ยมเลย เขาเป็นเมนโวคอล(นักร้องเสียงหลัก) เธอตาดีจริงๆถึงไปเก็บเขามาร่วมรายการได้ แต่แน่นอนว่าเขาเองก็มีจุดที่ใช่ไม่ได้เหมือนกัน แม้จะเป็นเพลงที่ท่าเต้นง่าย แต่เมื่อกี้เขาเคลื่อนไหวมือเท้าไม่ดีเลย

ราวกับว่าสามารถอ่านใจของPDได้ กรรมการคนหนึ่งที่เฝ้าดู คนอื่นคอมเม้นเชิงบวกของอย่างเงียบๆ ก็ยกไมโครโฟนขึ้นเธอคือ ยองริน จากวง ‘เซนต์ยู’ กลุ่มไอดอลหญิงที่ประสบความสำเร็จด้วยแฟนแคมที่มุนแดเคย(รยูกอนอู)ถ่าย รอยยิ้มกลางสายฝนขณะแสดงโชว์

“ตอนนี้ ท่าเต้นที่คุณแสดงไม่ได้ยากเลย เราขอดูการเต้นของคุณมากกว่านี้ได้ไหมคะ”

PDอยากจะตบมือ นั้นแหละ ขอดราม่าให้เธอไปตัดต่อหน่อยเถอะ

             

ย้อนกลับไปช่วงก่อน ขณะที่มุนแดเลือกเพลงขึ้นแสดง

หลังจากจดจ่อกับการเพิ่มเลเวลการร้องเพลงเพียงอย่างเดียว จนถึงA- ก็ได้เวลาทำอย่างอื่น

มุนแดตัดสินใจเป็นเมนโวคอลตั้งแต่แรก และใช้แต้มอัพเวลไปทางนี้ เพราะในบรรดาคนที่อยากเป็นไอดอลนั้น มีเมนโวคอลอยู่ค่อนข้างน้อย ถ้าจับตำแหน่งนี้ไว้ได้ โอกาสที่จะได้เดบิวต์ก็เพิ่มขึ้นเหมือนกัน

ต่อไปเป็นวิธีการเลือกเพลงประเมิน ก่อนอื่นก็ตัดเพลงที่จะกระตุ้นคอมเม้นลบออกไปก่อน

'คุณเต้นเป็นบ้าอะไร' – ลบเพลงที่มีท่าเต้นทั้งหมดออก

'คุณไม่เต้นสักท่าเดียว?' – ลบเพลงบัลลาด(เพลงช้าเน้นอารมณ์)

'คุณร้องเพลงได้ดี แต่ไม่มีออร่าแบบไอดอลออกมาเลย ' – ลบทุกอย่างออกจากรายการ ยกเว้นเพลงของไอดอล

'มันเกินไปหรือเปล่าที่คุณจะร้องเพลงนี้ด้วยตัวเอง' – ลบเพลงที่มีคนร้องตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปออกทั้งหมด

'อดเปรียบแทบกับต้นฉบับไม่ได้!' – ลบเพลงทั้งหมดที่เปิดตัวในช่วงสามปีที่ผ่านมา

และจากเพลงที่เหลือ มุนแดเลือกเพลงที่แรงค์ดีที่สุด

 

แม้จะร้องออกมาได้ดี แต่ก็มีหนึ่งคนที่ไม่หลงไปกับบรรยากาศ มุนแดสบตากับผู้ตัดสินที่ถือไมโครโฟน นั่นเป็นใบหน้าที่เขารู้จัก เธอเป็นไอดอลคนแรกที่ทำให้รู้ว่าแฟนแคมทำเงินได้ ต้องขอบคุณเธอ ที่ทำให้เขามีเงินจ่ายค่าเทอมได้

'ตอนนั้นเธอเองก็ได้รับชื่อเสียงเพราะแฟนแคมของฉัน ดังนั้นถือwin-winทั้งคู่'

“ฉันเข้าใจว่าคุณไม่ได้ฝึกเต้นมาก่อน แต่นี่เป็นการประเมินครั้งแรก อย่างน้อยก็ต้องขอดูพื้นฐาน ถ้าคุณเข้าร่วมรายการออดิชั่น ฉันคิดว่าคุณคงเตรียมไว้แล้วอย่างน้อยเพลงหนึ่ง”

มันคงบ้ามากถ้าตอบว่า 'ผมไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย'

เขาตอบรับพร้อมมีทีมงานคนหนึ่งเข้ามาใกล้เวทีอย่างรวดเร็ว มุนแดเข้าไปหาและพูดชื่อเพลงที่คิดไว้  หลังจากนั้น กล้องก็จับภาพที่พนักงานชะงักไป

เอาล่ะ มาพยายามกันหน่อย เพลงสุดคุ้นหูและท่าเริ่มสุดเด่นปรากฏขึ้น ทำให้ทุกคนชะงักพร้อมกัน

“….!?”