(สปอย์) มังกรตัวสุดท้ายแห่งแดนบำเพ็ญเพียร 2 เล่มจบ

 [คำเตือน]


เนื้อหาโพสนี้คือการ สปอย์  ถ้าต้องการอ่านรีวิว *กด*

ต้องการอ่านสปอย์ เลื่อนลงได้เลย ♥


    (สปอย์) มังกรตัวสุดท้ายแห่งแดนบำเพ็ญเพียร 2 เล่มจบ

    เสี่ยวเซิน/หลันอวี้เซิน(นายเอก) มังกรตัวสุดท้ายแห่งแดนบำเพ็ญตนตื่นขึ้นมาจากการจำศิล เขากำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่ออย่างงุงงงช่วงตื่นนอน ก่อนที่จะมีคนผู้หนึ่งสวมชุดแดงลงมาใต้น้ำเข้ามาถึงถ้ำที่เขาพักอยู่ เสี่ยวเซินไร้เดียงสามาก เขานึกไปถึงตำนานพื้นบ้านของมังกรว่าจะมีเจ้าสาวเผ่ามนุษย์ตงลงมาในน้ำ

    เมื่อเห็นชุดแดงปรากฏขึ้นในถ่ำเขาก็เข้าใจว่า เจ้าสาวมาต้อนรับการตื่นขึ้นของเขาสินะ เขาจึงทักทายไปอย่างดีใจ แต่แล้วเขาก็พบความผิดปกติอย่างรวดเร็ว ข้อเท้าของเขามีกำไลเงินเพิ่มขึ้นมา แล้วเขาเองก็โคจรพลังวิญญาณไม่ได้... ส่วนอีกฝ่ายหนีไปแล้ว ลองกลับมาคิดดีๆก็เห็นพิรุธมากมาย ที่แท้คนที่มาไม่ใช่เจ้าสาวแต่เป็นคนร้ายต่างหากล่ะ!

    แต่ถึงจะรู้ตัวแต่เสี่ยวเซินก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เขาเจ็บใจมาก เห็นแบบนี้เมื่อก่อนตอนตัวเท่าฝ่ามือเขาเคยเป็นถึงอันธพาลน้อยเชี่ยวนะ ถ้าไม่มีฝีมือคงไม่ได้รับคำสั่งคุ้มครองแหล่งน้ำนี้หรอก เขาใช้สัมผัสเลือนลางผ่านกำไลเวท เจ้าสาวกำลังสู้กับใครสักคนอยู่...และเจ้าสาวก็แพ้แล้ว

    ในเมื่อเป็นแบบนี้เขาควรขึ้นไปดูข้างบนเสียหน่อย แม้จะว่ายขึ้นมาไม่ถึงผิวน้ำ แต่เสี่ยวเซิน(นายเอก)ก็เริ่มบ่นพวกมนุษย์แล้ว ทำไมแหล่งน้ำของเขาถึงสกปกเช่นนี้ล่ะ ขยะเต็มไปหมด ครู่หนึ่งเขาก็เจอกับชายหนุ่มชุดดำ

    ชายชุดดำเองก็สำรวจเด็กหนุ่มตรงหน้าเหมือนกัน งดงามแต่ไร้กลิ่นอายมนุษย์ และกำไลข้อเท้าที่เหมือนของคนชุดแดง นี่คงจะเป็นคนที่เขากำลังตามหาเพื่อช่วยเหลืออยู่แน่ ชายชุดดำแนะนำตนเองว่าเขาคือเซี่ยคูหรง(เจ้าสำนัก)เจ้าสำนักสำนักอวี่หลิง ห้าพันปีก่อนปรมาจารย์ฟางชุ่นเจินเหรินมอบคำทำนาย ให้คนรุ่นหลังมาช่วยคนที่โดนวางข่ายเวทย์ทำร้ายอยู่ที่นี่มีบอกกระทั้งวันเวลา ซึ่งตอนนี้ก็เป็นไปตามคำทำนายทุกอย่าง

    น่าเสียดายที่เสี่ยวเซิน(นายเอก)พึงโดนคนหลอกมา เขาเลยระแวงอยู่บ้าง นอกจากขอบคุณง่ายๆก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรอีก และว่ายขึ้นไปข้างบนต่อ แล้วเขาก็ต้องพบกับความจริงอันน่าตะลึง แหล่งน้ำกว้างใหญ่ไพศาลของเขาหายไปแล้ว เหลือแค่บึงเล็กๆ...บึงเล็กๆเท่านั้น!

    เสี่ยวเซิน(นายเอก)ตึกตะลึก และสับสนอย่างมาก พื้นที่การปกครองของเขาเหลือเพียงเท่านี้ ทำไมเขาถึงไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย และเข้าใจได้เลยว่าทำไมตนถึงโดนเจ้าสาวจัดการได้ง่ายเพียงนี้ เมื่อไม่มีแหล่งน้ำย่อมส่งผลต่อพลังของเขาเช่นกัน

    เสี่ยวเซิน(นายเอก)ร้องไห้แล้ว เขาถามถึงแหล่งน้ำหลันอวี้เซินของตน เซี่ยคูหรง(เจ้าสำนัก)ก็อธิบายอย่างภูมิใจ น้ำโบราณนั้นรึ โดนท่านปรมาจารย์ฟางชุ่นเจินเหริน(เจ้าสำนักอวี่หลิงรุ่นก่อน)สูบน้ำจนแห้งเพื่อนำที่ดินใหม่มาเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของผู้คนแล้ว ถือเป็นการสร้างคุณงามความดี ส่งต่อความเจริญมาถึงคนรุ่นหลัง ว่าแล้วเขาก็ชมท่านปรมาจารณ์ยกใหญ่

    เสี่ยวเซินเองก็เข้าใจว่าส่วนหนึ่งคือความไม่ได้เรื่องได้ราวของตน แต่มนุษย์ก็ไม่ได้ดีอะไรเช่นกัน คนหนึ่งจะมาเอาตัวเขา คนหนึ่งมาเอาน้ำของเขาไป เมื่อได้รู้แล้วว่าน้ำที่ดูดไปถูกเก็บไว้ในอาคมของสำนักอวี่หลิง เสี่ยวเซิน(นายเอก)จึงตามอีกฝ่ายกลับสำนัก

    เสี่ยวเซิน(นายเอก)คิดว่าเมื่อตัวเองหายดีแล้ว จะยึดอำนาจสำนักอวี่หลิงซะ ส่วนเซี่ยคูหรง(เจ้าสำนัก)มองว่าเด็กหนุ่มมาขอพึ่งพาอาศัยเขาเท่านั้นเอง ทั้งยังคิดไปเองแล้วว่าอีกฝ่ายคือเต่า ก็ความรู้สึกช้าแถมตกข่าว เขาไม่รู้จักปรมาจารย์ฟางชุ่นเจินเหรินที่ยิ่งใหญ่ได้ยังไงกันนี่ คงมีแต่เผ่านี้แหละที่จะไม่รู้เรื่องรอบตัวได้ขนาดนี้น่ะ

    ระหว่างทางเสี่ยวเซิน(นายเอก)สุดจะทนเหลือเกิน คนพวกนี้ชื่นชมหัวขโมยอย่างฟางชุ่นก็เข้าใจได้ แต่หัวขโมยอย่างฟางชุ่นก็เกินไปแล้วเอาเผ่ามังกรอย่างพวกเขามาโม้ เยินย่อให้ตนสูงส่งขึ้นน่าเกลียดจริงๆ

    เมื่อมาถึงก็ต้องโมโหกว่าเดิม น้ำของเขาล่ะ เจ้าหัวขโมยฟางชุ่นซ่อนเอาไปที่ไหนกัน เขาก้าวย่างอย่างอารมณ์เสีย ตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่าตนเองในสายตาผู้อื่นอ่อนแอบอบบาง จนกลายเป็นน่ารักน่าเอ็นดูไปแทนแล้ว

    เสี่ยวเซิน(นายเอก)สาปแช่งคนที่อยู่แดนเซียนจนล้มคะมำเสียเองแล้ว แต่แขนแกร่งของคนผู้หนึ่งรับตัวเขาไว้ได้ เป็นมนุษย์ชุดขาวที่หล่อเหล่าเย็นชา รับตัวเขาไว้ได้อย่างนุ่มนวลกว่าที่แสดงออกมาก เสี่ยวเซินใจเย็นขึ้น คนๆนี้ช่างให้ความสงบ ต่างกับเจ้าสาวร้ายกาจและเจ้าสำนักขี้โม้มากนัก

    คนๆนี้คือซางจีอวี่(พระเอก) เขาเป็นอาจารย์อาเล็กของเจ้าสำนัก เก่งเรื่องการต่อสู้และอาคมที่สุด เป็นหนึ่งในบุคคลเดาใจยากของสำนักเลย เห็นเขายืนนิ่งเป็นเสา เซี่ยคูหรง(เจ้าสำนัก)จะไล่ก็ไม่สดวก สุดท้ายพวกเขาเริ่มปรึกษากันเรื่องคลายผนึก เซี่ยคูหรง(เจ้าสำนัก)แปลกใจมากที่อาจารย์อาเล็ก อาสาเป็นผู้ช่วยคลายผนึกให้เอง

    ดังนั้นเสี่ยวเซิน(นายเอก)จึงไปพักอยู่กับซางจีอวี่(พระเอก) แต่เพียงไม่นานเขาก็ได้รู้ว่าชายหนุ่มอ่อนโยนที่ตัวเองชื่นชมมี2บุคคล นี่เป็นผลจากการบำเพ็ญเพียร เสี่ยวเซินชอบเวอร์ชั้นอ่อนโยนมากกว่า เพราะวีรกรรมของเวอร์ชั้นปากจัดเคยบอกว่าอยากขี่มังกร เขาเป็นใครกันถึงกล้าพูดจาอาจหาญแบบนี้ แถมยังชอบเอามังกรไปตั้งชื่อแปลกๆตามสถานที่ต่างๆอีก

    แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมช่วยซางจีอวี่บุคลิกปากจัด(พระเอก) บรรเทาความเจ็บปวดยามกลางคืน เพราะไม่มีใครในสำนักเชี่ยวชาญอาคมไปมากกว่าคนๆนี้อีกแล้ว ซางจีอวี่ประทับใจความกล้าหาญนี้มากทีเดียว ไม่ว่าใครในสำนักต่างก็กลัวเขากันทั้งนั้น วิชาบำเพ็ญตนของเขามีปัญหา ดังนั้นเดียวนี้อาการ2บุคลิกจึงแย่ลงทุกที บ้างครั้งแม้แต่ช่วงกลางวันยังฉุนเฉียวขึ้นเรื่อยๆ

    ดังนั้นเขาจึงถูกเสี่ยวเซิน(นายเอก)ดึงดูดในทันที ราวกับสิ่งเกรี้ยวกราดที่อยู่ข้างในถูกทำให้สงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ

    เมื่อตกลงกันได้แล้ว ฝั่งหนึ่งก็เริ่มศึกษาอาคมผนึก และอีกฝั่งทำตัวก็ยาบรรเทาอาการป่วย รวมมือกันได้ดีทีเดียว

    วันต่อมาเสี่ยวเซิน(นายเอก)ต้องไปเรียนอ่านเขียน แม้เขาจะไม่สนใจและไปให้มันทำให้มันผ่านๆไป แต่ที่หอหนังสือนั้นเขาก็ได้พบคนที่เข้ามาหาเรื่อง เสวียนอู๋จื่อ(ศิษย์ในสำนัก)ชักอาวุธออกมาขู่ให้กลัวแต่เมื่อเห็นเสี่ยวเซินไม่ถอยก็ตั้งใจหยุดมือ น่าเสียดายที่เขาตัดสินใจช้าเกินไป เสี่ยวเซินพลักอาวุธของเขาเบาๆมันก็ร้าวแล้ว ต่อให้ไม่มีพลังตบะแต่ร่ายกายเขาคือมังกรของแท้เชียวนะ

    สุดท้ายเรื่องก็ไปถึงหูซางจีอวี่(พระเอก)และเซี่ยคูหรง(เจ้าสำนัก) ซางจีอวี่ลงมือข่มขู่ ส่วนเซี่ยคูหรงได้แต่ถอนหายใจ เขาคิดว่าเสี่ยวเซินเป็นเต่าน้อย ยังไงอาวุธทั่วไปก็ไม่มีผลกับเขาหรอก แต่ที่ทำให้ถอนหายใจก็คืออาจารย์อาของตนเองนี้แหละ เมื่อก่อนท่านไม่ใช่คนที่วิ่งมาออกหน้าให้คนอื่นแบบนี้นี่!

    เสี่ยวเซิน(นายเอก)กลับไปเรียนหนังสือต่อ เพราะเต้าหมี(ศิษย์ในสำนัก)มาขอร้อง และถ้าอยากตามหาแหล่งน้ำของตัวเองคืน อย่างน้อยต้องอ่านป้ายและแผนที่ออกสักหน่อย ระหว่างเรียน เขาก็เจอกับหมึกน้อย(ดูเหมือนคนผิวหมึกใส่ชุดนักพรต) เด็กพวกนี้ชอบเขามาก และต้องการเลือกเขาเป็นผู้ดูแลหอสมุดแห่งนี้

    เซี่ยคูหรง(เจ้าสำนัก)และผู้อาวุโสคนอื่นตกใจมาก จะให้เด็กที่ไม่รู้หนังสือมาเป็นจู่ฮั่นผู้ดูแลห้องสมุดเนี่ยนะ!

    แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่อาจขัดภูตหมึกได้ ต้องให้เสี่ยวเซิน(นายเอก)เป็นจู่ฮั่น ซึ่งก็มีศิษย์ในสำนักคนอื่นไม่พอใจถึงขนาดมาขอท่าประลอง และครั้งนี้เองทุกคนก็ได้เห็นว่าฝีมือมนต์ลวงหาของเสี่ยวเซินน่าทึ่งมาก ผู้คนเริ่มยอมรับและยอมแพ้ไปเพราะด้านความแข็งแกร่งก็สู้ไม่ได้ ด้านอาคมเวทย์มนตร์ก็สู้ไม่ได้อีก ไม่ต้องพูดถึงว่าภูตหมึกต่างชื่นชอบเด็กหนุ่มขนาดไหน

    หลังจากนั้นทุกคนต่างก็วุ่นวายต้องปรับตัวไม่ต้องเลย สำนักอวี่หลิงชื่นชอบการท่องกลอนพูดคำเปรียบเปรย แต่จู่ฮั่นคนใหม่ไม่ชอบ และถ้าไปยั่วโมโหเขา เหล่าศิษย์ก็ถูกไล่ออกมาจากห้องสมุดที่แสนสำคัญ จากนั้นทุกคนก็ได้รู้ว่าเสี่ยวเซินชอบนักกวีชื่ออวิ๋นจื้อหรัน พวกเขาก็ต้องท่องกวีของคนๆนี้เอาใจเด็กหนุ่ม

    ต่อมาถึงเวลารับศิษย์ใหม่ของสำนักอวี่หลิง เกิดอุบัติเหตุทำให้แม่น้ำซึ่งเป็นเหมือนถนนของสำนักร่วงจากฟ้า ซึ่งตอนนั้นมีเรือของศิษย์ใหม่อยู่ เสี่ยวเซิน(นายเอก)ควบคุมน้ำและรับทุกคนไว้อย่างง่ายได้ ทำให้ได้รับความนับถือจากทุกคน ตัวเขาเองคิดว่าเมื่อครู่เปรียบได้กับรับตัวเจ้าสาวที่ตกลงมาในน้ำได้เหมือนกัน ถึงเจ้าสาวร้อยคนจะดูเยอะไปหน่อยก็เถอะ แต่เขาก็ปฏิบัติเป็นศิษย์ใหม่อ่อนโยนว่าคนอื่นๆ ทำให้เด็กพวกนี้ภักดีกับเขาสุดๆ

    หลังจากนั้นสำนักก็พบว่า แม้ภายนอกเสี่ยวเซิน(นายเอก)จะเป็นคนไม่รู้หนังสือ แต่เขาสามารถให้คำแนะนำให้การฝึกฝนกับศิษย์ใหม่เป็นอย่างดี อธิบายชัดเจน แค่ไม่เข้าใจคำพังเผยสุภาษิตของมนุษย์เท่านั้น แถมเขายังรู้อักษรโบราณที่ปัจจุบันไม่มีใครอ่านออกพวกนั้นอีก แน่ล่ะว่ามังกรน้อยอย่างเสี่ยวเซินต้องอ่านได้ชิลๆอยู่แล้ว ในบรรดาแท่งหินโบราณที่สำนักเคารพนักถือ ยังมีคำหยาบคายด่าศัตรูที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการฝึกฝนอยู่ด้วยซ้ำ

    ซางจีอวี่(พระเอก)ที่ฟังเขาพูดอยู่ข้างๆมาตลอดยิ้มบาง เรื่องพวกนี้อย่าแพร่งพรายออกไปทำลายฝันของคนอื่นจะดีกว่า

    ตอนนี้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะบอกว่าดีนั้นก็ดีมาก แต่บุคคิลทั้ง2มักจะหึงกันเองอยู่บ่อยๆ

    เสี่ยวเซิน(นายเอก)เองก็พยายามขบคิดว่าจะทำยังไงให้ซางจีอวี่(พระเอก)มาเป็นเจ้าสาวของเขาได้ ถ้าหาโอกาสพลักลงน้ำแล้วเขาเป็นคนไปรับตัวไว้เองคงจะดีไม่น้อย วันนี้เขามีโอกาสไปเยือนเขาชั้นนอกลูกหนึ่ง ที่นี้ก็เป็นเขตของสำนักอวี่หลิง แต่ไม่ใช่ศูนย์กลางฝึกฝนวิชาอย่างด้านใน แต่เป็นเหมือนตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายมีคนเดินคึกคักตลอดเวลา

    เสี่ยวเซิน(นายเอก)เดินเล่นกับซางจีอวี่(พระเอก) ก่อนจะได้ข่าวมีคนผู้หนึ่งเก็บของเก่าแก่ของฟางชุ่นเจินเหริน(หัวขโมยน้ำ /เจ้าสำนักรุ่นแรก)เอาไว้ เสี่ยวเซินจึงตามไปพบด้วยความสนใจ ทั้งยังตามสืบว่าแหล่งน้ำของตนหายไปไหนอย่างไม่ลดละ เขาตามไปจนพบกับจินเฉียนจื่อ(บรรพบุรุษเป็นเต่าที่เคยรับใช้วังมังกร) และได้รู้ว่าฟางชุ่นเอาน้ำของเขาเก็บในถุงวิเศษ และต่อมาได้มอบให้อาจารย์ของซางจีอวี่ ผู้คนคิดว่าเธอทำถุงวิเศษหายแล้ว แต่เธอยืนยันว่ามันยังอยู่ในสำนัก

    เมื่อออกมาจากบ้านเต่า เสี่ยวเซิน(นายเอก)มองทั่วบริเวณแล้วคิดว่านี้เป็นจุดที่ดีที่พลักซางจีอวี่(พระเอก)ลงน้ำ แต่เพราะมันมีความความอันตราย เวอร์ชั่นปากร้ายจึงสลับตัวออกมาแทน มังกรน้อยจึงได้เจ้าสาวผิดตัว เขาเศร้าเสียใจไม่ยอมรับเจ้าสาวคนนี้และต่อว่าเมื่อซางจีอวี่อ่อนโยนสลับตัวกลับมาแล้ว ชายหนุ่มถึงรู้ว่าพลาดแล้ว ดูเหมือนการตกน้ำจะหมายถึงเรื่องดี กลายเป็นมอบโอกาสให้ตัวเขาอีกคนไปเสียนี้

    ที่จริงแล้ว อาการแปรปรวนของซางจีอวี่ ด้านปราณเหมือนจะดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันบุคลิคก็ขัดกันเอง คนหนึ่งร้ายในอีกคนร้ายนอกเพราะกล้าแสดงออก และทั้งคู่ชอบมังกรน้อยเหมือนกัน จึงขัดแย้งแย่งร่างกันเป็นบางครั้ง

    ในคืนนั้นหลังกลับเรือนและอยู่กันสองคน ในอ้อมกอดสงบพลังเช่นทุกคืน อาจเพราะรู้ว่าครั้งนี้ตนเองพลาดไปก้าวใหญ่ หรืออาจจะเพราะทนมานานจนความรู้สึกปะทุขึ้นมา ซางจีอวี่เวอร์ชั่นอ่อนโยนที่มักเก็บง่ำทุกอย่าง ก็กล่อมเด็กหนุ่มบนตักแล้วจูบลงไป เสี่ยวเซินก็คล้อยตามพัวพันกันอยู่นาน

    หลายวันหลังจากนั้นเซี่ยคูหรง(เจ้าสำนัก)ก็เรียกตัวศิษย์ให้ไปตรวจสอบความผิดปกติ เขาตรวจสอบมาแล้วว่าอุบัติเหตุในวันที่ศิษย์ใหม่เข้าสำนัก อาจจะผัวพันไปไกลถึงเขาไคหมิง แดนสุดบูรพาทิศ แหล่งกำเนิดน้ำทั้งป่วง เสี่ยวเซิน(นายเอก)ได้ยินแล้วจริงจังขึ้น เขาอาสาไปด้วย และเมื่อเขาไปซางจีอวี่(พระเอก)ที่เก่งที่สุดในสำนักย่อมตามไป

    เมื่อตกลงว่าจะพาใครไปบ้างแล้วพวกเขาก็ออกเดินทาง เมื่อลงสนามจริง เสี่ยวเซิน(นายเอก) พึงพาได้มากกว่าที่ทุกคนคิดเสียอีก เด็กหนุ่มขึ้นไปตรวจตราบนเขาแล้วพบว่าแก่นของต้นน้ำยังอยู่ดี ซางจีอวี่(พระเอก)แยกตัวไปเบนทางน้ำที่เข้าท่วมเมืองมนุษย์อย่างผิดปกติ

    ตอนนั้นเองมีเจียว(ปีศาจน้ำชนิดหนึ่งมีสายเลือดใกล้มังกร)เข้ามาหาเรื่องและบอกว่าพวกเขาขโมยของไป ปีศาจตัวนี้ยกตนขึ้นเป็นราชาของน่านน้ำเพราะไม่มีมังกรเหลืออยู่บนโลกแล้ว มันอาละวาดไม่สนใจเมืองมนุษย์แม้แต่น้อย เสี่ยวเซิน(นายเอก)ที่ถูกหาเรื่องโมโหตั้งแต่ที่อีกฝ่ายกล้าเหยียบหน้าเผ่ามังกรอย่างเขาแล้ว

    และแล้วเขาก็กระโดดลงน้ำแปรงกายเป็นมังกร ปลดผนึกกำไลได้สำเร็จ หลายวันมานี้เจ้าสาวของเขาลงแรงไปมากจนในที่สุดก็ถอดได้สำเร็จตอนนี้เอง แม้จะตัวเล็กกว่าคู่ต่อสู้มาก แต่มังกรของจริงอย่างไรก็ร้ายกาจกว่าปีศาจที่ซี้ซั่วแต่งตั้งตนเอง เขาจัดการจนเจียวเสียตะบะที่บำเพ็ญมาหลายปี ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับงูตัวเล็กมีขา

    เขาสาปให้อีกฝ่ายเป็นข้ารับใช้ของเมืองที่เกือบโดนมันทำลายนี้ จากนั้นก็กลับมาหาศิษย์ของสำนักอวี่หลิงที่อึ้งคางแทบร่วง ประกาศตนว่าเขาคือ หลันอวี้เซิน เจ้าหนี้ของพวกเจ้าทุกคนอย่างไรล่ะ!

    เมื่อได้ยินชื่อแหล่งน้ำหลันอวี้เซินที่โดนปรมาจารย์ของพวกเขาสูบน้ำไป ลูกศิษย์ก็เข้าใจโลกขึ้นมาทันทีขณะที่พวกเขาตัวสั่นกลัวจะโดนล้างแค้น ซางจีอวี่(พระเอก)อาจารย์อาของพวกเขาก็กลับมาจากการจัดการอีกด้าน ปรากฏว่าเขารู้อยู่แล้วจากการสังเกตุ แม้มีข้อมูลไม่มากแต่เขาก็ได้อยู่กับเสี่ยวเซิน(นายเอก)มากว่าทุกคน แถมพูดไม่กี่โยคประก็ทำให้ทุกคนวางใจได้

    แม้เสี่ยวเซิน(นายเอก)จะเป็นมังกร แต่นิสัยไม่ได้เปลี่ยนไปสักหน่อย เด็กหนุ่มยังวางอำนาจบาตใหญ่เหมือนเดิม พวกเขาก็เลยเริ่มคุยเล่นกันถึงตำนานของมังกรว่าสิ่งใดจริงเท็จ กลายเป็นเสี่ยวเซินได้รู้เรื่องใหม่ว่าเจ้าสาวไม่ได้โดดน้ำลงมาเองแต่ถูกจับโยนลงมา แล้วก็มีที่โดนมังกรปฏิเสธได้ด้วย เมื่อเรื่องนี้หลุดออกมาเขาก็โดนซางจีอวี่สอบสวน

    แปลว่าที่อีกฝ่ายพยายามจะพลักเขาตกน้ำ เพื่อให้เป็นเจ้าสาว แต่กลายเป็นตัวเขาอีกคนได้รับสถานนั้นไป? นอกจากนี้ครั้งที่แม่น้ำลอยฟ้าในสำนักร่วงหล่นแล้วมังกรน้อยช้อนไว้ก็นับว่ารับเจ้าสาวเหมือนกันรึเปล่า

    ทั้งที่เสี่ยวเซินเป็นมังกร แต่กลับกลัวอีกฝ่ายไม่น้อย เขารีบบอกชายหนุ่มว่าครั้งนั้นช่วยชีวิตคนย่อมไม่นับ ซางจีอวี่กลับเปลี่ยนคนปากจัดออกมาแทนและเร่งเร้าเขาว่าเจ้าของกำไลสะกดพลังอันนั้นก็ลงไปใต้น้ำเหมือนกัน เขามาที่หลังแบบนี้ถือเป็นอนุภรรยารึเปล่า โดนโจมตีขนาดนี้เสี่ยวเซินรับมือไม่ถูกเหลือเกิน

    เมื่อกลับมาสำนัก เรื่องที่เสี่ยวเซินเป็นมังกรก็แพร่กระจายออกไป เขาได้วังของตัวเองและมีเผ่าสัตว์น้ำทั้งหลายส่งของกำนันมากมายให้ นอกจากนั้นก็ยังมีสาวงามจากเผ่าสัตว์น้ำต่างๆ แม้เสี่ยวเซินจะไร้เดียงสา แต่เขาก็รักเจ้าสาวของตัวเอง เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินหนีไปอย่างโกรธเคืองก็รีบตาม และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันในที่สุด(NCน้อยแต่ไม่ตัด) แถมมังกรน้อยช่างดุเดือดมากราคะอย่างในตำนาน เสร็จกิจครั้งแรกพักครู่เดียวก็ร้องขอครั้งต่อไปแล้ว เป็นเจ้าสาวของมังกรก็ต้องเหนื่อยหน่อยนะ

    หลังร่วมหอแล้ว เสี่ยวเซินก็กลับมาสนใจเรื่องแหล่งน้ำของตัวเองอีก เหล่าลูกศิษย์ยังหาไม่พบส่วนซางจีอวี่ร่างปากร้ายก็หาโอกาสออกมาได้สักที หลังโดนกดไว้ในร่างอยู่นาน เขาพุ่งเป้าเหมือนจะสร้างความร้าวฉานให้ตัวเองอีกคน บอกให้เสี่ยวเซินเห็นว่าทำไมตัวเขาถึงไม่กระตือรือร้นไปช่วยตามหาของ แม้แต่งานแต่งก็ไม่ยอมจัด นั้นก็เพราะกลัวว่าถ้าหาเจอแล้ว เสี่ยวเซินจะจากที่นี่บรรลุขึ้นไปเป็นเซียนอย่างไรล่ะ

    ซางจีอวี่กลัวจริงๆว่าตัวเองจะเป็นเพียงความสนุกชั่วครู่ของมังกรน้อย

    เสี่ยวเซินอึ้ง ตัวเขาสามารถบรรลุได้แล้วจริงๆนั้นแหละ แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าสาวจะกังวลเรื่องนี้ แถมเวลานี้เองเขาก็ดูไม่ออกเลยว่า คนที่พูดอยู่คือร่างไหน ราวกับทั้งคู่กำลังพูดเรื่องนี้ออกมาพร้อมกัน เสี่ยวเซินรีบอธิบายว่าตนไม่มีทางทิ้งเจ้าสาวไปแน่ จะอย่างไรก็ต้องพาขึ้นสวรรค์ไปด้วยกัน

    ซางจีอวี่เห็นมังกรร้อนใจก็เลิกกดดัน เปลี่ยนมาเป็นหยอกล้อเขาแทน

    ไม่นานก็มีตะพาบเผือกยักษ์มาพบเสี่ยวเซิน มันเป็นอาลักษณ์บันทึกประวัติศาตร์ แต่เมื่อมันมาเจอมังกรตนสุดท้ายแห่งแดนบำเพ็ญกลับโดนภูติหมึกโจมตีใส่ คนอื่นๆในสำนักอวี่หลิงต่างไม่เข้าใจ แต่เสี่ยวเซินเริ่มจับตาดูตะพาบยักษ์ตนนี้ตั้งแต่วันนั้นมา

    ต่อมาจักพรรดิแดนมนุษย์ส่งเทียบเชิญพร้อมสมบัติเกือบหมดตัว ขอให้มังกรผู้ยิ่งใหญ่ไปปรากฏตัวอวยพรให้พิธีสืบถอดตำแหน่งของพระองค์

    เสี่ยวเซินไปตามตามคำเชิญ และที่นี่เขาได้ต่อสู้กับศัตรูเก่าที่รอมานาน ตะพาบเผือกยักษ์ลอกคราบออกมาเป็นคนผู้หนึ่งซึ่งเขาเคยเจอมาก่อน เป็นเจ้าคนร้ายที่เคยลงมาในถ่ำแล้วผนึกเขาไว้นั้นเอง อีกฝ่ายเป็นมนุษย์ที่ฝึกวิชาหงษ์ชื่อหลัวผิน(ตัวร้าย) เมื่อ500ปีก่อนตอนที่สู้กับอวี๋จ้าว(ผู้บำเพ็ญกระบี่ของสำนักอวี่หลิง)ผู้คนคิดว่าดับสูญไปแล้ว เขากลับฆ่าตะพาบโบราณต่อชีวิตของตัวเองมาถึงตอนนี้

    และก็เป็นคนๆนี้นี่เองที่ก่อเรื่องไปทั่วแดนบำเพ็ญเพียร อีกฝ่ายฝึกมักคาสังหารจึงต้องการล้างดินแดนเพื่อบรรลุตน การต่อสู้ระหว่างหงส์ปลอมและมังกรแท้รุนแรงและยากลำบากขึ้น เพราะที่นี่อยู่ไกลน้ำและใกล้เมืองมนุษย์ เสี่ยวเซินไม่คิดจะให้มนุษย์เข้ามาพัวพัน แต่หลัวผิน(ตัวร้าย)ต้องการทำลาย

    ตอนนั้นเองที่กำหลังเสริมของสำนักอวี่หลิงมาถึง พวกเขาคาดไม่ถึงเลยว่าการต่อสู้จะรุนแรงแบบนี้ แต่ภูตหมึกที่ติดตามมาด้วยกลับกลายร่างสูงใหญ่ออกมาช่วยปกป้องเมืองมนุษย์ ภูติหมึกตัวนี้มีเสี่ยววิญญาณของอวี๋จ้าวอยู่ ดังนั้นมันจึงโจมตีเมื่อเจอหลัวผิน(ตัวร้าย)ปลอมตัวเข้ามา

    เมื่อมีคนปกป้องเมืองแล้ว ทางมังกรที่โดนไฟเผาเองก็ได้รับความช่วยเหลือของเจ้าสาว ซางจีอวี่(พระเอก)บรรลุปราณกระบี่ 2บุคลิครวมเป็น1 ก่อนที่จะบอกสิ่งที่ตนค้นพบออกไปว่า เขาคือร่างแปรงของแหล่งน้ำหลันอวี้เซินที่มีชีวิต เขาปลดปล่อยน้ำออกมาจากร่าง สร้างพลังและความได้เปรียบให้กับเสี่ยวเซิน(นายเอก)จนพวกเขาชนะในที่สุด

    (จบเรื่องหลัก-เข้าตอนพิเศษ)

    เวลาผ่านไปร้อยปี สำนักอวี่หลิงถูกปกครองโดยเสี่ยวเซิน(นายเอก)แท้จริง นั้นเป็นสิ่งที่มังกรคิด ส่วนความจริงนั้นก็ไม่ต่างกันมาก เปลี่ยนเป็นทุกคนเลี้ยงดูมังกรน้อยอย่างดีที่สุดแทน

    ต่อมาทั้งคู่บรรลุขึ้นสวรรค์ไปด้วยกัน ซางจีอวี่(พระเอก)พบว่ามักกรน้อยของเขาเป็นเจ้าอันธพาลของวงค์มังกรของแท้ ส่วนพ่อตาของเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ขึ้นสวรรค์หมื่นปี ตกลงรับปากเป็นคู่หมั่นคู่แต่งงานของแต่ละเผ่าไว้มากมาย ทั้งชาราสวรรค์ราชาปีศาจ ผู้นำแต่ละเผ่าต่างตามหาตัวเขาให้ควัก อยากแต่งราชามังกรเข้าบ้าน

เสี่ยวเซิน(นายเอก)มาตามหาฟางชุ่น(เจ้าสำนักรุ่นแรก)ที่กล้าขโมยน้ำของเขาไป ยังดีที่อีกฝ่ายไม่ปัดความรับผิดชอบ ตอนนั้นเองที่เขาเจอพ่อจอมก่อเรื่องของตน สร้างเรื่องสร้างราวให้เขาจัดการนั้นก็แล้วไปเถอะ นี้ยังกล้ามาขอความช่วยเหลือจากคนที่ทำให้เขาเดือดร้อนอีก! เสี่ยวเซิน(นายเอก)หน้าบูด หมายจะเลิกช่วยพ่อของตนจัดการความวุ่นวาย ชะตาดอกท้อนี้แล้ว

    และแล้วเรื่องราวก็จบลงไปด้วยความวุ่นวายของท่านพ่อราชามังกรเช่นนี้เอง

    (จบเล่ม)




Ad Code

Responsive Advertisement