(สปอย์) นิยายวาย 美滋滋 Very Happy 3 เล่มจบ

 [คำเตือน]


เนื้อหาโพสนี้คือการ สปอย์  ถ้าต้องการอ่านรีวิว *กด*

ต้องการอ่านสปอย์ เลื่อนลงได้เลย ♥





    (สปอย์) 美滋滋 Very Happy 3 เล่มจบ

    หลีเจา(นายเอก)ได้รับบทเป็นพระเอกของซีรีย์เรื่องหนึ่ง ซ่งอวี้พระรองของซีรีย์นี้เป็นเด็กฝากของนายทุน คอยหาเรื่องหลีเจาอยู่ตลอดการถ่ายทำ จนใครๆก็เห็นใจเขา แต่หลีเจา(นายเอก)ไม่ได้รู้ตัวเลย เขายังคิดว่าอีกฝ่ายดีมากด้วยซ้ำไป

    หลังถ่ายทำเสร็จ เขากลับห้องพักไป ผู้จัดการก็โทรมาบอกว่าบริษัทที่เขาสังกัดอยู่เจ๊งแล้ว หลีเจา(นายเอก)ไม่ได้คิดมาก ปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ ที่กองถ่ายซ่งอวี้พยายามขุนหลีเจา(นายเอก)ให้อ้วนด้วยขนม หลีเจาดีใจมากและมองอีกฝ่ายเป็นคนดีขึ้นไปสุดๆเพราะเขาไม่มีเงินซื้อกินเอง ทุกวันนี้อาศัยข้าวกองถ่ายให้อิ่มไปวันๆเท่านั้น

    และเพราะได้รับมื้อดึก(เพื่อขุนให้อ้วนจนน่าเกลียด)จากซ่งอวี้มาตลอด คืนหนึ่งที่ไม่ได้ของกิน หลีเจา(นายเอก)ก็หิวจัดจนนอนไม่ได้ เขาออกไปหาอะไรกินข้างนอก แต่ตอนนี้กำลังจะกินก็เห็นคนจรจัดอยู่ข้างทาง เขาจึงแบ่งมื้ออาหารให้คุณตาคนนั้นไป ฉากนี้ถูกบันทึกอยู่ในกล้องวงจรปิด และถูกคนนำไปเผยแพร่ จนถูกพูดถึงอย่างมาก

    เมื่อซ่งอวี้เห็นคลิปนี้เขาก็จัดการชักนำข่าวไปในทางลบ และกลบกระแสไป

    ซีรีย์ปิดกองแล้ว ซ่งอวี้อยากซื้อใจทีมงานจึงพาทุกคนไปกินเลี้ยงที่โรงแรมหรู ที่นั้นหลีเจา(นายเอก)พบผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาดี ท่าทางสง่าเกินธรรมดา แต่เขาเข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นบริกรที่โดนตาลุงขี้เมาตอแย เมื่อเห็นคนกำลังลำบากจึงยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ

    เยี่ยนถิง(พระเอก)ไม่เคยเจอใครที่ใสซื่อจริงใจแบบนี้มาก่อนเลย เขาจึงรู้สึกสนใจคนตรงหน้าขึ้นมา ทั้งที่เอ่ยปากว่าจะเลี้ยงขอบคุณที่ช่วยเหลือ แต่กลับโดนดาราตัวเล็กที่ไม่มีเงินเท่าไร ไปเลี้ยงบะหมี่ข้างทางแทน เขารู้สึกได้ถึงหัวใจที่ไร้พิษสงจากอาหารมื้อนี้ จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกัน

    ซี่รีย์นี้ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรนัก ตั้งแต่ทีมงานยันนักแสดง จบงานแล้วก็ไม่สนใจอีก แต่กลับพบว่า ชาวเน็ตสนใจซีรีย์นี้มากโดยเฉพาะพระเอกของเรื่อง ที่หน้าตาดี น่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ ซ่งอวี้รู้สึกโกรธอกแทบแตก ผู้สนับสนุนของเขาคือผู้ลงทุนของซีรีย์เรื่องนี้ ถ้าเขาอยากจะเล่นบทพระเอกย่อมได้อยู่แล้ว แต่ทำไมเขาถึงเล่นบทพระรองน่ะเหรอ ก็เพราะว่าเขาฝันบอกเหตุยังไงล่ะ!

    เขาฝันว่าบทพระรองที่หลีเจา(นายเอก)เล่นในความฝันจะดังระเบิดแตก แต่บทพระเอกที่เขาเล่นจะโดนด่ายับ ในโลกความจริงเขาเลยเปลี่ยนอนาคต เวลานี้ก็ควรเป็นเขาที่ได้รับคำชมล้นหลามไม่ใช่รึไง ทำไมถึงบทจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ยังมีคนชื่นชมหลีเจา(นายเอก)อยู่อีกล่ะ!

    รายการทีวีเกาะกระแส เชิญดารานำ3คนมาสัมภาษณ์ คนที่ติดตามดูต่างก็ชอบหลีเจา(นายเอก)มาก และรู้สึกว่าซ่งอวี้ขี้เก๊ก มักพูดจากเกทับเสียดสีคนอื่นอยู่บ่อยๆน่าเสียนดายที่หลีเจาไม่รู้ตัวเลย

    ขากลับหลีเจา(นายเอก)ได้พบเยี่ยนถิง(พระเอก) เขาเข้าใจว่าเป็นความบังเอิญและรับปากไปกินข้าวด้วยกัน เมื่อโดนพามาร้านหรูหรา จึงสอนเรื่องการใช้เงินให้อีกฝ่ายอย่างจริงจัง กลัวว่าเขาจะถูกคนหลอกลวงจนหมดตัวได้ ตอนนี้เขาเข้าใจว่าเยี่ยนถิง(พระเอก)มีเงินจากการเวนคืนที่ดิน นับว่าเป็นเศรษฐีโดยไม่รู้ตัว อาจจะไม่มีความรู้เรื่องการใช่ชีวิตได้

    เยี่ยนถิง(พระเอก)ตอบรับความหวังดีของอีกฝ่าย แม้ความจริงแล้วมันจะไม่จำเป็นเลย แต่เขาก็รู้สึกดีที่ได้รับความห่วงใยอย่างจริงใจแบบนี้

    ต่อมามีข่าวว่าหลีเจา(นายเอก)ถูกกองถ่าย นางเอก พระรอง ปฏิบัติตัวด้วยอย่างเย็นชา แต่หลีเจา(นายเอก)ก็ออกมาปฏิเสธข่าวนี้ เพราะเขาเข้าใจว่าซ่งอวี้เป็นคนดีจริงๆ โดยเฉพาะอาหารมื้อดึกที่อีกฝ่ายเลี้ยงได้ซื้อใจเขาไว้แล้ว ในรายการของวันนี้ก็เป็นซ่งอวี้ที่ตอบเมนูที่หลีเจาชอบได้ถูกต้อง ส่วนคนอื่นผิดหมด เขาหมายจะขุนคนอื่นให้อ้วนย่อมรู้อาหารที่อีกฝ่ายชอบกินอยู่แล้ว รายการวันนี้ถือว่าได้กระแสทีเดียว

    หลังถ่ายรายการเสร็จ หลีเจา(นายเอก)ก็ไปกินข้าวกับเยี่ยนถิง(พระเอก)อีกครั้ง เขาพูดถึงร้านอาหาร คูปองส่วนลด ไปตลอดจนเรื่องถ่ายรายการ เยี่ยนถิง(พระเอก)ที่นั่งข้างๆก็ฟังเขาอย่างตั้งใจ ได้เจอความมีชีวิตชีวาแบบนี้เขาก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมากเหมือนกัน

    เมื่อไปถึงร้านอาหาร ทั้งที่ควรเป็นร้านขายดีลูกค้าต่อคิวยาวเหยียด แต่วันนี้กลับไม่มีคนเลย พวกเขาเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวเท่านั้น หลีเจา(นายเอก)ก็ไม่ได้คิดมาก และกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย เขารู้สึกว่าตั้งแต่เจอกับเยี่ยนถิง(พระเอก)ที่โรงแรมครั้งนั้นเขาก็โชคดีขึ้นเรื่อยๆ ซีรีย์ดัง มีงานทำ ได้กินของอร่อย อีกฝ่ายต้องเป็นดาวนำโชคของเขาแน่นอน!

    แต่นอนว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของคุณชายที่นั่งกินอยู่ตรงข้ามเขานั้นแหละ คนอย่างเยี่ยนถิง(พระเอก)จะยอมกินร้านอาหารที่ไม่เป็นส่วนตัว คนเยอะแยะเสียงดังโวยวายได้ยังไง วันนี้เขาก็เลยเหมาร้าน แม้แต่วัตถุดิบก็ใช้ของดีที่สุด ไม่ใช่แบบปกติที่ร้านขายลูกค้า เพื่อจะได้กินข้าวกับเด็กหนุ่มอย่างสบายใจ

    ตอนนั้นเองเด็กหนุ่มที่เขารู้สึกว่าน่าสนใจก็พูดบางสิ่งที่กระแทกหัวใจเขาเต็มๆ

    อีกฝ่ายบอกว่าเขาเป็นดาวนำโชค ตั้งแต่เจอเขาแล้วก็โชคดีขึ้นเรื่อย ใจของเยี่ยนถิง(พระเอก)กระเพื่อมขึ้นมา เขาที่ไร้หัวใจมีดวงกินพ่อแม่ ญาติพี่น้องต่างนินทาว่าเป็นตัวโชคร้ายคนนี้น่ะเหรอ นำโชค..?

    ขณะที่ซีรีย์กำลังฉาย กระแสก็ดีมาก นักแสดงหญิงที่เป็นนางเอกต้องการสร้างข่าวคู่รักกับหลีเจา(นายเอก)แต่ถูกปฏิเสธทำให้ไม่พอใจมาก เธอจึงต้องการขัดแข่งขาอีกฝ่ายแทน แต่แล้วกลับชนต่อเข้าจังๆ ถ้ากล้ารังแกคนอื่น เพราะเขาไม่มีใครหนุนหลัง แต่ตอนนี้เธอกลับโดนแฉซะเองแถมบริษัทยังต้องการลอยแพเธออีก ชีวิตงานการของเธอจบเห่แล้ว

    บริษัทเฉ่าเหมยเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่เป็นแนวหน้าของวงการบันเทิง ได้รับคำสั่งจากเยี่ยนถิง(พระเอก)ที่เป็นนายทุนใหญ่ ให้รับหลีเจา(นายเอก)เข้าบริษัท หลังพยายามติดต่ออยู่พักหนึ่งผ่านความเข้าใจผิดว่าเป็นมิจฉาชีพจนต้องโปรโมตตนเองเต็มที่ เขาก็สามารถเซ็นต์สัญญากับหลีเจาได้

    จากนั้นหลีเจา(นายเอก)ก็ได้รับบทเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรีย์หนึ่ง ในกองถ่ายทุกคนต่างดูแลเขาเป็นพิเศษเพราะถูกนายทุนสั่งมา หลีเจาได้รู้แล้วว่ามีเงินก็จ้างผีโม้แป้งได้ ทุกคนชื่นชมฝีมือการแสดงและคอยใส่ใจดูแลเขามากกว่าปกติจนเขากลัว แม้แต่ช่างแต่งหน้าที่เคยไม่แยแสเขาตอนอยู่กองถ่ายอื่น ตอนนี้ก็กลับลำมาเอาใจเขาเช่นกัน

    แน่นอนว่าเขาก็เข้าใจว่าโลกก็เป็นเช่นนี้เอง ตั้งใจถ่ายบทของตัวเองให้จบ ตอนกลับยังซื้อของไปฝากเยี่ยนถิง(พระเอก)ด้วย ตอนนี้อีกฝ่ายชวนให้เขาไปอยู่บ้านว่างของตนเองอีกครั้ง เมื่อได้ยินเรื่องที่เยี่ยนถิงเองก็ไม่มีพ่อแม่พี่น้อง อยู่บ้านคนเดียวเหงาๆ จนเอาเรื่องที่ไม่มีเพื่อนขึ้นมาเป็นเหตุผลด้วยแล้ว หลีเจา(นายเอก)ก็ใจอ่อน ย้ายไปพักบ้านข้างๆอีกฝ่าย

    หลังจากที่ขนย้ายของกันแล้วหลีเจา(นายเอก)ก็พบใหม่เพื่อนใหม่ของตนเป็นไข้ซะแล้ว วุ่นวายดูแลอยู่ทั้งคืน เยี่ยนถิง(พระเอก)เห็นท่าทางกระวีกระวาดนั้นแล้วก็ดีใจเงียบๆ

    ด้านซ่งอวี้ที่อยากตอบแทนที่โดนช่วยตอนมีข่าวฉาว ก็ต้องตะลึงเมื่อรู้ว่าหลีเจา(นายเอก)ได้เซ็นต์สัญญากับบริษัตใหญ่แล้ว ในฝันบอกเหตุของเขาไม่มีเรื่องแบบนี้ หรือว่านี้เป็นผลของผีเสื้อขยับปีกที่เขาก่อขึ้น แม้ว่าในฝันหลีเจา(นายเอก)จะโด่งดัง แต่นั้นก็ต้องผ่านการดิ้นรนอีกไม่น้อย แต่เพราะครั้งนี้ไปเขาเปลี่ยนชะตา อีกฝ่ายเลยได้ดีสุดขีดในครั้งเดียว?

    เยี่ยนถิง(พระเอก)ไปพบหมอที่เวลาปกติในเมินเฉยและหลีกเลี่ยง นั้นก็คือจิตแพทย์ แม้จะมาเขาก็ไม่ได้ให้ความร่วมมืออะไรนอกจากนั้นมานั่งเฉยๆ หลังนั่งกันอยู่สักพัก เขาก็เล่าเรื่องที่ได้พบเด็กหนุ่มคนหนึ่งออกมาเล็กน้อย ก่อนจะกลับไป คุณหมอไม่ได้รั้งไว้ เพราะอาการนี้จริงๆถือมีความก้าวหน้าจากอดีมากแล้ว แต่ขณะเดียวกัน การที่จิตใจดีขึ้นเพราะใครสักคน หนึ่งอาจจะแย่เฉียบพลันเพราะคนๆนั้นได้เหมือนกัน เยี่ยนถิง(พระเอก)ไม่รู้สิ่งที่หมอคิดอยู่ เขามีเจาเจาที่ส่งข้อความที่นำพาความสดใส กลับบ้านมาเจอรอยยิ้มกว้าง กินข้าวก็มีคนนั่งกินเป็นเพื่อน เด็กหนุ่มกินเก่งแค่มองก็รู้สึกเจริญอาหาร ทำให้เขากินเขามากขึ้นกว่าปกติไม่น้อยทีเดียว

    หลีเจา(นายเอก)หลังเป็นเด็กใหม่ของบริษัทเฉ่าเหมย เขาก็มีงานดีๆเข้ามาไม่ขาด งานต่อมาเป็นซีรีย์อิงประวัติศาตร์ทุ่มทุนสร้าง หลีเจาต้องไปออกกองถ่ายแต่ก็ยังติดต่อกับเยี่ยนถิงอยู่เสมอ ในช่วงเวลานี้เองที่เยี่ยนถิงได้รู้ว่าเด็กหนุ่มโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มาเป็นดาราเพื่อหาเงินรักษาพี่สาวที่ป่วย และอยากให้พ่อแม่ที่แท้จริงของตนเห็นตัวเองผ่านทีวี

    เมื่อได้รู้แบบนี้ เยี่ยนถิงจึงสั่งให้เลขาบริจาคเงินทุนให้โครการDNA โครงการนี้ ใช่ตามหาญาติที่พลัดพรากจากกัน หากผู้ที่มีเลือดใกล้เคียงกัน มาตรวจและเก็บแฟ้มประวัติไว้ ในอนาคตก็อาจจะตามหาครอบครัวที่แท้จริงของตัวเองเจอได้ การสั่งบริจาคเงินครั้งนี้ทำให้เลขาดีใจไม่น้อย บอสของเขาละทิ้งโลกมานาน ในที่สุดครั้งนี้ก็ลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อคนอื่นแล้ว

    ขณะที่ถ่ายหลีเจา(นายเอก)ถ่ายทำอย่างเหน็ดเหนื่อย เยี่ยนถิงก็คอยให้คนส่งน้ำส่งขนมไปให้ เรียกว่าดูแลอย่างดีไม่มีซูบ แต่ด้านเน็ตก็มีคนโหนกระแสว่า แสดงเรื่องเดียวก็ดังระเบิดเป็นความสำเร็จที่มาพร้อมโชคน่าหมั่นไส้ ทีมงานของหลีเจาก็แก้เกมโดนการโพสงาน ที่หลีเจาเคยเป็นแสตนด์อินให้นักแสดงต่างๆมากมาย ทำให้รู้ว่าฝีมือการแสดงและความสำเร็จในวันนี้ไม่ได้มาโดยง่าย

    คนที่ได้เห็นคลิปเบื่องหลังที่เต็มไปด้วยความลำบากนี้ยังมีเยี่ยนถิง(พระเอก)อีกคน เขามองความยากลำบากที่เรียกได้ว่าได้รับความไม่เป็นธรรม เขาก็เจ็บที่หัวใจ แต่ตอนนั้นเองที่คนในคลิปก็ปรากฏตัวที่บ้านของเขา เหมือนสายลมแห่งความสบายใจพัดเข้ามา พาความมืดออกไป เด็กหนุ่มได้หยุดกองปีใหม่ และปีนี้พวกเขาไม่ต้องโดดเดียวอีกแล้ว

    หลังเด็กหนุ่มไปนอน พ่อบ้านถามมถึงยาที่เขาควรกิน แต่เยี่ยนถิง(พระเอก)ปฏิเสธ คืนนั้นเขาได้ยินและมองเห็นภาพหลอนเดิมๆที่เห็นมาตลอดหลายปี ราวกับเรื่องราวในอดีตที่วนซ้ำ แม่ของเขาที่คลุ้มคลั่งต้องการฆ่าตัวตายและพาเดขาไปตายด้วย แต่เขาปฏิเสธเธอพร้อมบอกว่า ตอมนี้เขามีนัดกับเด็กหนุ่มแล้ว อย่างน้อยพรุ่มนี้ก็มีเป้าหมายให้มีชีวิตต่อไป

    การไปเที่ยวกันในวันนี้ หลีเจา(นายเอก)พาเยี่ยนถิง(พระเอก)ไปตามที่ๆตัวเองสนิทสนิมและเคยใช้ชีวิต ทั้งการแสดงกำลังภายในที่คนในคณะไปเป็นสตั้นแมน ร้านบะหมี่ราคาถูกที่เขาเคยกินบ่อยๆ

    ช่วงงานแสดงไฟกลางคืน หลีเจาให้เยี่ยนถิงสวมหูกระต่ายคู่กับตัวเองและตะโกนขอพรปีใหม่ไปพร้อมๆกับคนอื่นในงาน ตลอดวันนี้ทั้งวัน หลีเจาพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่าพวกเขาไม่มีพ่อแม่และครอบครัว สวรรค์เลยลิขิตให้มาเป็นเพื่อนคู่หูกันอย่างแน่นอน แน่นอนคนพูดไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งเกินเพื่อน เขารู้สึกจริงๆว่าความสัมพันธ์ของพวกเขา2คนบริสุทธิ์เหมือนความหมายของกุหลายสีเหลือง(มิตรภาพ) เมื่อกลับบ้าน พวกเขายังนัดเจอกันอีกครั้งช่วงหยุดกองตรุจีน

    ในกองถ่ายครึ่งหลังนี้ มีจ้าวจวินหนานดาราดังช่วงนี้ตอบตกลงเข้ามาเป็นนักแสดงรับเชิญด้วย เขาตั้งใจเข้ามากดหัวหลีเจา(นายเอก)โดยเฉพาะ ส่วนหนึ่งคือต้องการกดรุ่นน้องมีแววดัง และส่วนหนึ่งกลัวเรื่องที่ตัวเองเคยให้หลีเจา(นายเอก)เป็นแสตนด์อินแต่เวลามีสัมภาษณ์ เขากลับบอกว่าตัวเองแสดงเองทั้งหมดจนได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก หากความแตกออกมา เขาคงเสียหายไม่น้อย

    การมาครั้งนี้ เขาขอให้ผู้กำกับล้มเลิกความคิดที่จะดันหลีเจา(นายเอก) และให้ย้ายซีนของอีกฝ่ายไปถ่ายตอนกลางคืน ผู้กำกับไม่อยากมีปัญหากับดาราดังและไม่รู้ว่าบริษัทเฉ่าเหมยต้องการดันเด็กใหม่ขนาดไหน เขาจึงจัดการให้ตามที่โดนขอมา สร้างความกดดันกับเด็กหนุ่มอย่างมาก

    เรื่องนี้รู้ไปถึงเยี่ยนถิง(พระเอก)ที่โทรคุยกับเด็กหนุ่มอยู่ตลอดทันที เขาให้บริษัทแสดงท่าทีออกไป ผู้กำกับจึงรู้ว่าหลีเจา(นายเอก)ได้รับความสำคัญกว่าที่คิด จึงเปลี่ยนกะถ่ายให้อีกฝ่ายมาถ่ายกลางวันเหมือนเดิม พร้อมให้วันหยุดชดเชยที่สัปดาห์ก่อนโหมงานด้วย ขณะเดียวกันก็มาเร่งถ่ายจ้าวจวินหนานแทนบ้าง

    หลีเจา(นายเอก)ดีใจมาก เขาแค่รู้สึกว่าโชดดีจริงๆที่ในที่สุดก็มีวันหยุดแล้ว ขณะที่จ้าวจวินหนานอารมณ์เสียสุดขีด ที่ผู้กำกับกล้าหักหน้าเขาแบบนี้ หลังถ่ายทำฉากของตัวเองเสร็จทั้งหมด วันกินเลี้ยงส่งบทของเขา จ้าวจวินหนานพูดกระทบหลีเจา(นายเอก)ต่อหน้าคนอื่น น่าเสียดายที่ไม่ได้ผลแถมยังหน้าแตกซะเอง จากนั้นเขาก็หาเรื่องจนดึงตัวหลีเจามาอยู่กันตามลำพังได้

    เขาขมขู่และเอาผลประโยชน์เข้าล่อแต่มันไม่ได้ผล ขณะเดียวกันก็ชะงักไปเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีคนรับ เป็นชายหนุ่มที่มีรัศมีออำนาจและสายตาหน้ากลัว สุดท้ายเขาจึงไปได้แต่ปล่อยให้เรื่องจบแบบคาราคาซัง ไม่ได้ดังใจตนแม้แต่น้อย

    เป็นเยี่ยนถิง(พระเอก)ที่มาหาหลีเจา(นายเอก)ถึงที่นั้นเอง พวกเขาได้ไปกินข้าวจนหายคิดถึง

    จากนั้นจ้าวจวินหนานก็พบว่าแบรนด์ระดับโลกที่ตกลงทำสัญญาเป็นพรีเซ็นต์เตอร์กันเรียบร้อยแล้ว อยู่ๆก็ยกเลิกการรวมมือกัน เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับแบรนด์ แต่นักแสดงคนอื่นที่เคยมีเรื่องด้วยก็เริ่มปั่นกระแส ทำให้เขากลายเป็นตัวตลกของคนทั่วอินเตอร์เน็ต คนที่เหยียบซ้ำมีเยอะเกินไปเขาไม่สามารถไล่เล่นงานกลับทีละคนได้ เมื่อเป็นแบบนี้เขาก็เบนเข็มมาที่หลีเจา(นายเอก)เต็มตัว

    จะให้แฟนคลับหรือคนอื่นรู้ไม่ได้ว่าฉากบู๊ที่ทุกคนชอบ เขาไม่ได้แสดงเองแบบที่โม้ไว้ แต่เป็นหลีเจา(นายเอก)ที่แสดงแทน ดังนั้นต่อให้ไม่มีข่าวฉาวให้ขุดก็ต้องกุขึ้นมาเล่นงานอีกฝ่ายให้ได้

    แต่อย่างว่า คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ยิ่งมีอำนาจและการเงินของเยี่ยนถิง(พระเอก)คุ้มครองอยู่ คนจะเป็นอะไรได้ ซ่งอวี้ที่เคยเกาเหลากับเขาเมื่อเห็นข่าวสาดโคลนแบบนี้ก็ออกมาปกป้องหลีเจาเป็นคนแรก แฟนคลับเห็นแล้วซึ่งใจ บริษัทของเยี่ยนถิงที่เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศออกมาประกาศร่วมงานกับหลีเจา ตบหน้าจ้าวจวินหนานที่พึงโดนปฏิเสธงาน กลายเป็นเรื่องตลกของชาวเน็ต

    หลีเจา(นายเอก)ตื่นเต้นมากที่อยู่ๆเขาก็ได้เป็นพรีเซ็นต์เตอร์ของแบรนด์ดัง เขาโทรไปหาเยี่ยนถิงแจ้งข่าวหน้ายินดีทันที แต่ถึงเรื่องนี้จะน่าตื่นเต้นยินดีแค่ไหน ดูเหมือนเขาจะมีความสุขที่ตรุจีนนี้จะได้ฉลองกับถิงถิงมากกว่าซะอีก ถิงถิงเองก็ดูเหมือนจะตั้งตารอมากเหมือนเขาเลย

    วันที่กำลังจะเดินทางกลับไปฉลองปีใหม่ ซ่งอวี้ก็เข้ามาคุยเปิดอกกับหลีเจาว่า เขาเคยสร้างความลำบากให้ ทำไมหลีเจาถึงยังช่วยเหลือแก้ข่าวให้ หลีเจาก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า เมื่อก่อนเขาทั้งจนทั้งหิว ถ้าไม่มีขนมพวกนั้นเขาแย่แล้วจริงๆ ในเมื่อรับของกินมาก็ต้องตอบแทน หลังคุยกันแล้ว ซ่งอวี้ก็ปล่อยวางได้ในที่สุด

    เยี่ยนถิง(พระเอก)เพื่อต้อนรับเด็กหนุ่มที่กำลังจะกลับมาเขาจึงยอมไปหาหมอที่บ่ายเบี่ยงมาตลอด คุณหมอสรุปอาการได้ว่าเขาแย่ลง ควรจะต้องผ่อนคลายให้มากกว่านี้ แต่เยี่ยนถิงก็ไม่ใช่ผู้ป่วยที่ดีนัก เขามาหาหมอพอให้ผ่านๆไป จากนั้นก็กลับ คุณหมอติดต่อกับผู้ช่วยของเยี่ยนถิงว่า ผู้ป่วยมีความต้องการครอบครองสูง อาจจะต้องดูแลเด็กหนุ่มที่ผู้ป่วยถูกใจให้ดี

    หลีเจา(นายเอก)กับเยี่ยนถิง(พระเอก)ที่กลับมาเจอกันก็กินข้าวกันอย่างมีความสุข ระหว่างนั้นมีญาติของเยี่ยนถิงมาหา เธอเป็นคนตระกูลสวีที่เคยก่อเรื่องใหญ่โตไว้ในอดีต พ่อบ้านจัดการออกไปไล่คน ส่วนหลีเจาเข้าใจว่านี้คือดราม่าแย่งสมบัติแบบในละคร ถิงถิงของเขาเป็นเศรษฐีจากเงินเวนคืนที่เดิน วันดีคืนดีก็ต้องมีคนที่อยากเกาะขาเขาโพล่มาแบบนี้อยู่แล้ว

    หลีเจา(นายเอก)ได้รู้ข่าวอย่างฉุกละหุกว่าตนต้องไปร่วมงานเลี้ยงปีใหม่บริษัทชางหวน(บ.ของพระเอก) บ.ชั้นนำที่ตอนนี้ตนเองได้เป็นพรีเซ็นต์เตอร์นาฬิกาหรูนั้นเอง นี้เป็นงานพรมแดงครั้งแรกของเขา แฟนคลับจึงคาดหวังกันมากขณะเดียวกันก็สุดจะกังวัลเพราะเวลาแบบนี้ทีมงานของเด็กหนุ่มจะหาชุดและเครื่องประดับทันไหม ถ้าชุดออกมาแพงไม่พอจะกลายเป็นตัวตลกแทนเลยนะ!

    กลางสายตากังวลของแฟนคลับ และสายตาของคนที่รอชมเรื่องสนุก หลีเจา(นายเอก)ออกงานด้วยชุดที่ออกแบบเป็นพิเศษ ชุดเครื่องประดับที่ประเมินค่าไม่ได้ และนาฬิกาเครื่องที่แพงที่สุดของแบรนด์ ทั้งหมดนี้สนับสนุนโดยเยี่ยนถิง(พระเอก)นั้นเอง คนใส่นั้นไม่รู้ถึงมูลละค่าทั้งตัวที่กำลังใส่อยู่หรอก แต่คนมองตาแทบบอด

    ชาวเน็ตรวมรวมข้อมูลออกมาได้ดังนี้ ชุดสูตรออกแบบพิเศษของแบรนด์ชั้นนำ เครื่องประดับของราชวงค์ที่ถูกประมูลไปโดนเศรษฐีลึกลับ ราคาของมันชวนเป็นลม และนาฬิกาที่มูลค่าสูงที่สุดของแบรนด์ มีเรือนเดียวในโลกเพราะเป็นการออกแบบของผู้ก่อตั้ง ปกติถูกเก็บรักษาเพื่อโชว์อย่างเดียว วันนี้แบรนด์กลับให้เด็กหนุ่มใส่ มันจะเกินไปหน่อยรึเปล่าเนี่ย!

    นอกงานเกิดความฮือฮามากมาย ในงานก็ไม่แพ้กัน ด้านดารานักแสดงนั้นอึ้งตาค้างแล้ว เพราะหลีเจา(นายเอก)ถูกพาไปนั่งกับกลุ่มผู้บริหารของชางหวน แถมยังได้รับการเอ็นดูเหมือนลูกหลานแท้ๆอีกต่างหาก หลีเจาเองก็มึนงงไม่แพ้กัน แต่ก็ได้แต่ยิ้มหวานและกินข้าวกับทุกคนอย่างเป็นเด็กดี

    แน่นอนว่าที่เขาได้รับการต้อนรับขนาดนี้ก็เป็นเพราะเขาคือคนที่ท่านประธานใหญ่(พระเอก)สั่งมาให้ดูแลเป็นพิเศษไงล่ะ ดีที่หลีเจาเองก็น่ารักน่าเอ็นดู บรรยากาศครื้นเครงทีเดียว

    ในงานจับรางหลีเจาอยากได้คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ไปให้เยี่ยนถิงใช่ทำงาน ผู้ช่วยฉินช่วยอย่างลับๆ ให้หลีเจาจับรางวัลได้ เด็กหนุ่มดีใจมาก และเอาคอมไปฝากถิงถิงของเขา เยี่ยนถิงได้ของจากคนที่ชอบก็อารมณ์ดี นับว่าผู้ช่วยฉินฉลาดจริงๆ

    หลายวันที่ผ่านมาเยี่ยนถิงมีความสุขมาก แต่ไม่ได้แปลว่ากาอารป่วยของเขาจะดีขึ้นได้ในทันที คืนหนึ่งเขาก็เห็นภาพหลอน พ่อของเขาตายแล้วร่างกายชักกระตุก แม่ของเขาเองก็กระโดดจากบันไดแล้วลงไปตายอยู่ข้างล่างเช่นกัน มีเลือดมากมาย เขาหยุดเท้าไว้บนบันไดชั้นบนสุดเหมือนทุกครั้ง ขณะที่โลกกำลังมืดมน เสียงเรียกที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของหลีเจาก็ดังขึ้น

    เขาหันหน้าไปเจอกับดวงตาคู่นั้น แล้วโลกที่เป็นสีดำก็สว่างขึ้นจากตรงนี้

(จบเล่ม1)

(เล่ม2)

    วันนี้หลีเจา(นายเอก)ค้างที่บ้านของเยี่ยนถิง(พระเอก) ขณะที่ลุกมากินน้ำก็เห็นชายหนุ่มเหม่อลอยอยู่หน้าบันได เขาเคยได้ยินว่าทำงานกับบริษัทใหญ่ความกดดันสูงมาก ถิงถิงของเขาเลยเป็นแบบนี้ใช่รึเปล่า เขาจัดการนำเสื้อมาคลุม พาเข้าห้องนอน ให้จิบน้ำอุ่นแล้วบอกด้วยความเป็นห่วงว่าให้พักผ่อนเยอะ เยี่ยนถิงได้ยินแล้วก็ดูเศร้าๆแต่ก็ยอมรับปาก สุดท้ายพวกเขาก็บอกราตรีสวัสดิ์แล้วแยกย้ายกัน

    ที่จริงแล้ว แม้หลีเจา(นายเอก)ไม่มาหยุดไว้ เยี่ยนถิง(พระเอก)ก็ไม่มีทางตกลงไป เพราะบ้านหลังนี้มีบอดี้การที่ประจำช่วงกลางคืนเตรียมไว้แล้ว กลับเป็นเขาเองที่ไม่สบายใจว่าเด็กหนุ่มจะเห็นอะไรที่ไม่ควรรึเปล่า

    วันต่อมาพวกเขา2คนออกไปซื้อของฉลองปีใหม่ด้วยกัน มีนักข่าวที่ไม่รู้ว่าหลีเจา(นายเอก)เป็นนักแสดง(เพราะแต่งตัวมิดชิด)มาสัมภาษณ์ เป็นรายการปีใหม่ จากสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เป็นสถานีที่ไปออกรายการด้วยยากมา หลีเจาให้สัมภาษณ์อย่างดีใจว่าความฟันวันเด็กเป็นจริงแล้ว ตอนอยู่บนรถยังส่งข้อความไปอวดพี่น้องที่มาจากบ้านเด็กกำพร้าเลยทีเดียว

    จากนั้นทั้งสองคนที่กลับมาบ้านก็เริ่มห่อเกี๊ยวเตรียมงานปีใหม่ ถึงหน้าตาเกี๊ยวจะดูไม่ได้ แต่ก็มีความสุขมาก ก่อนเข้านอนพวกเขา2คนยังพูดกันถึงปีหน้า เยี่ยนถิงเจอเซองแดงเงินอายุยืนใต้หมอน ไม่ต้องคิดว่าใครแอบเอามาใส่ไว้ ในใจของเขาเป็นไปด้วยความอบอุ่น ปีหน้าคือคำที่ในอดีตเขาไม่เคยนึกถึง แต่ในเมื่อตอนนี้สัญญากับเด็กหนุ่มไปแล้ว เขาก็จะต้องทำตามสัญญา จะไม่ให้อีกฝ่ายเสียใจเด็ดขาด

    ช่วงนี้ยังหยุดหลังปีใหม่กันอยู่ แต่กองถ่ายที่เขาเคยไปเป็นตัวประกอบต้องการให้เขาช่วยไปเดินสายโปรโมต แต่ราชินีจอเงินหลัวเฟินออกมาปกป้องเขาแบบกลายๆ และบอกกับเขาในแชตส่วนตัวว่า หากตอนแรกไม่ได้ตกลงกันในข้อสัญญาก็อย่ายอมยกผลประโยชน์ให้กองถ่ายเพราะเกรงใจ แจ้งทีมงานของบริษัทได้เลย

    หลีเจา(นายเอก)ของคุณเธอ และคิดว่านางเอกสาวคงต้องการปกป้องรุ่นน้องจากบริษัทเดียวกัน ความจริงแล้วก็ไม่ผิด แต่สาเหตุหลักเพราะเธอได้ไปร่วมในงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทชางหวน(บ.ของพระเอก) จึงได้เห็นว่าบรรดาผู้บริหารให้ความสำคัญกับเด็กหนุ่มขนาดไหน ช่วยเหลือซื้อใจเขาไว้ทั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่เลว

    ด้วยคำแนะนำนี้เองหลีเจา(นายเอก)จึงปฏิเสธงานไป และออกไปดูหนังกับเยี่ยนถิง(พระเอก) เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะจองห้องสวีตส่วนตัวเป็นประสบการณ์ใหม่มาก และแล้วช่วงหยุดปีใหม่ก็ผ่านไปอย่างหวานชื่นแบบนี้เอง

    จบปีใหม่ เริ่มเข้าสู่การทำงาน เขาไปงานโปรโมตซีรีย์ขณะจะกลับ ก็โดนนักข่าวถามเรื่องที่เขาปฏิเสธแสดงซีรีย์ของผู้กำกับท่านเดิม แบบนี้เรียก ดังแล้วลืมกันรึเปล่า หลีเจาไม่ได้ตอบและเจ้าหน้าที่ออกมาเคลียร์ความวุ่นวาย

    ซ่งอวี้เขาสนใจบทที่หลีเจาแสดงแล้วดังในฝันเช่นเคย แต่คราวนี้เคยไม่กล้ายั่วโมโหโชคชะต้าอีก หลังไปสืบมาแล้วว่า ครั้งนี้หลีเจา(นายเอก)ไม่รับแสดงเพราะตรางงานชนกันเรื่องอื่น เขาจึงลองติดต่อไป แต่กลับพบว่ามีคนชิงบทตัดหน้าเขาซะแล้ว

    สวีเป่ยคือคนที่แย่งบทกับซ่งอวี้นั้นเอง แถมยังจัดการสาดโคลนใส่หลีเจา(นายเอก)ด้วย ตอนนี้ในเน็ตวุ่นวายกันยกใหญ่ เรียกว่าสิ่งที่ซ่งอวี้เคยทำนั้นเขาแรงยิ่งกว่าซะอีก แต่ก็เป็นอีกครั้งที่คนคิดร้ายแพ้ภัยตนเอง เขาโดนแฟนคลับมีสมองลากขึ้นไปเป็นหัวข้อด่าเสียยกใหญ่ โดยทั้งหมดนี้หลีเจา(นายเอก)และทีมงานไม่ต้องทำอะไรเลย

    หลีเจา(นายเอก)ไปถ่ายโฆษณาแล้วมีสาวน้อยเข้ามาขอแซตแต่ก็โดนเยี่ยนถิง(พระเอก)ที่ตามออยู่ข้างๆปฏิเสธแทนไป หลีเจาดุขำๆว่าเขาทำสาวน้อยน่ารักตกใจหนีไป ใจของเยี่ยนถิงไม่ยินยอม เขาอยากจะจับเด็กหนุ่มขังไว้ในบ้านของตนให้รู้แล้วรู้รอด ตอนนั้นเองที่หลีเจาผ้าพันคอกับเขาเพราะกลัวเจอลมหนาวแล้วไม่สบาย เยี่ยนถิงจึงสงบลง เขารู้ดีว่าบางเรื่องก็ไม่สามารถทำได้

    เมื่อหลีเจา(นายเอก)ออกไปถ่ายงานต่อแล้ว เยี่ยนถิง(พระเอก)ก็เป็นฝ่ายขอยากับบอดี้การ์ดด้วยตนเอง

    จนเมื่อหลีเจากลับมา เยี่ยนถิงถึงถามว่าเขาอยากมีความรักแล้วอย่างนั้นรึเปล่า หลีเจาก็บอกสเปคของตัวเอง แต่ขณะเดียวกัน เขาก็บอกว่าเวลานี้ได้อยู่กับเพื่อนรักอย่างเยี่ยนถิงก็มีความสุขมาก ถ้าเขาหาแฟนไม่ได้ ก็จะอยู่กับถิงถิงต่อไปจนแก่เฒ่าเลย เยี่ยนถิงได้ยินแบบนี้ถึงค่อยพอใจขึ้นมา

    ต่อมาหลีเจา(นายเอก)กลับกองถ่ายซีรีย์ ทางนี้ก็วุ่นวายไม่น้อย พระเอกของซีรีย์ตั้งใจจะช่วยเด็กหนุ่มไปออกรายการวาไรตี้ แต่กลับพบว่าสวีเป่ยใช่เงินยัดตัวเองเข้ารายการมาแทนแล้ว ทำให้เขาเสียหน้ามากที่ผู้กำกับไม่เห็นหัวกันแบบนี้

    ส่วนซ่งอวี้ก็เข้ามาถามว่ารู้จักกับสวีเป่ยไหม เขาพบว่าช่วงนี้เจ้าไอดอลโนเนมนี้ใช่เงินชิงบทและอนาคตหลายอย่างที่เป็นของหลีเจาไปหมด จนเขาอดคิดไม่ได้ว่าหมอนี้ก็รู้อนาคตแบบเดียวกับที่ตัวเองฝันรึเปล่า!

    แน่นอนว่าหลีเจา(นายเอก)ไม่รู้จักสวีเป่ย หลังกลับมาทำงานถ่ายซีรีย์เขาถึงได้รู้ว่าตัวเองมีดราม่าบนเน็ตกับซีรีย์ที่ตัวเองไม่ได้รับเล่น และสวีเป่ยไอดอลที่ตัวเองไม่รู้จัก เขาไม่ได้คิดมาก แค่แปลกใจว่านี้คือการเกาะกระแสสินะ หลีเจาและทีมงานไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย

    เรื่องงานใหม่ หลีเจา(นายเอก)ตกลงรับแสดงหนังไซไฟเรื่องหนึ่ง คนที่รู้ข่าวต่างพากันอึ้ง เพราะมองยังไงเรื่องนี้ก็น่าจะล้มไม่เป็นท่าแน่นอน ซ่งอวี้ปวดหัวในฝันที่เขาเห็นหนังเรื่องนี้ไม่ได้ถ่ายด้วยซ้ำ เพราะหาทุนไม่ได้สุดท้ายผู้กำกับก็ฆ่าตัวตาย สวีเป่ยที่รู้ข่าวก็ดีใจมาก ถ้าไม่มีคู่แข่งคนนี้อนาคตที่สดใสก็รอเขาอยู่แล้ว

    เขากลับชาติมาเกิดใหม่ รู้ดีว่าอนาคตจะเป็นยังไง ดังนั้นจึงแย่งทุกโอกาสที่ควรจะเป็นของหลีเจา และแทบจะเหยียบเขาให้จมดิน อนาคตของเขาจะสดใส และอนาคตของตระกูลสวีก็เหมือนกัน เพราะอีกไม่นานสวีเยี่ยนถิง(พระเอก)ที่กดหัวตระกูลสวีมานานก็จะตายแล้ว

    หลังจากที่ถ่ายทำฉากทั้งหมดของเขาเสร็จสิ้นแล้ว หลีเจา(นายเอก)ก็ตรงกลับเมืองหลวงไปหาเยี่ยนถิง(พระเอก) และเป็นไปตามคาด ถิงถิงของเขากินข้าวน้อยลงจนผอมลงไปอีกแล้ว เขาจัดการเกลี่ยกล่อมจนอีกฝ่ายรับปากกินข้าวเพิ่มไปสำเร็จ

    จากนั้น หลีเจา(นายเอก)ก็เจอเหยาอวี่กวง(ญาติตระกูลสวี)มาโวยวายที่นอกบ้าน ด่าว่าหลีเจาเกาะขาคนอื่นหวังเอาเงิน ทั้งยังพูดว่าเยี่ยนถิงก็เป็นคนบ้าเหมือนแม่นั้นแหละ แม่ของเขาที่เป็นบ้าเอามีดปาดคอพ่อของเขาตาย หลีเจาจัดการทุบตีคนปากเสีย จนคุณชายอย่างเหยาอวี่กวงลงไปร้องไห้กับพื้น

    เยี่ยนถิง(พระเอก)ชวนหลีเจาเข้าบ้าน พยายามเปลี่ยนความสนใจ แต่กลับเห็นหลีจาวิ่งไปที่รถอย่างรีบร้อน เยี่ยนถิงจิตตกคิดว่าหลีเจากลัวเขาเพราะสิ่งที่เหยาอวี่กวงพูดและต้องการหนีไปจากเขา จึงลงมีอัดเหยาอวี่กวงด้วยอีกคน เมื่อเห็นหลีเจาลากกระเป๋าเดินทางมา ก็ยิ่งใจเสียเข้าไปใหญ่ นี้เพราะคิดจะเก็บของไปจากเขาแน่ๆ สุดท้ายก็เดินเข้าบ้านไปอย่างเศร้าซึม

    หลีเจาเห็นเยี่ยนถิงกลับเข้าไปก็มึนงง นี้คือเห็นเขาทุบตีคนเลยรับไม่ได้ มิตภาพของพวกเขาจอมปลอมขนาดนี้เลย? หลังเกิดความเข้าใจผิดจาก2ทาง ที่คนทั้งคู่คิดกันไปคนล่ะเรื่อง พ่อบ้านที่มองจากข้างนอกเห็นชัด จึงจัดการเกลี่ยกล่อมเป็นคนกลางจนทั้งคู่คืนดีกันในที่สุด แล้วยังสนิทกันมากขึ้นด้วย

    ผลลัพธ์จากเรื่องนี้คือ หนังไซไฟที่หลีเจาตกลงแสดงได้รับเงินทุนลึกลับจนทำให้สามารถเริ่มถ่ายได้ นายทุนลึกลับคนนั้นก็คือเยี่ยนถิงที่ตอนแรกคิดว่าจะให้หนังเรื่องนี้เป็นของขวัญก่อนจากกับหลีเจานั้นเอง

    และก่อนจะถึงเวลาไปกองถ่ายหนังอีกครั้ง หลีเจาก็ตกลงรับงานเป็นแขกรับเชิญให้รายการของซีซีทีวี(รายการจากสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ)ซึ่งเป็นรายการแนวกลั่นแกล้งแขกรับเชิญให้ไปสัมผัสชีวิตชนบท รายการนี้เรียกเสียงหัวเราะมากมายจากผู้ชม ถึงแม้จะไม่ได้มีเรตติ้งดีนักแต่ก็มีไฮไลท์เด็ดๆประจำตอน เป็นภาพแขกรับเชิฐที่โบ๊ะบ๊ะกับชีวิตที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนนั้นเอง

    เมื่อหลีเจาไปออกรายการนี้ ก็ทำให้ทีมการและแขกรับเชิญตะลึงกันเป็นอย่างมาก เพราะหลีเจาคุ้นเคยกับชีวิตชนบทอยู่แล้ว แต่ละภารกิจที่ทีมงานมอบหมายเขาก็ทำสำเร็จลุล่วงอย่างสวยงาม แถมยังช่วยเหลือเพื่อนๆคนอื่นด้วย เรียกว่ารายการจอมโหดโดนแขกรับเชิญสู้กลับซะแล้ว ผ่านไปหลายวัน หลังถ่ายจบทั้งทีมงานและแขกรับเชิญคนอื่นๆก็สนิทกันหลีเจาเป็นอย่างดี

    แน่นอนว่าเรตติ้งของรายการนี้ดังระเบิด เพราะความน่ารักสดใสและเป็นธรรมชาติทำให้ตกแฟนคลับได้เป็นจำนวนมาก แถมรายการจากสถานีโทรทัศน์แห่งชาติยังมีผู้ชมหลายช่วยอายุ ฐานแฟนคลับของหลีเจาจึงกว้างขวางออกไปมากทีเดียว

    ขณะที่อีกด้าน รายการที่ฉายออกไปในช่วงเวลาเดียวกันที่สวีเป่ยแย่งโอกาสไป เขาก็ต้องตะลึงอย่างมาก คนที่โด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองควรจะเป็นเขาชัดๆ ยอมไม่ได้!

    เขาก่อสงครามอินเตอร์เน็ตขึ้นมาอีกรอบ แต่ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าแผนการพังเร็วขนาดไหน ฝีมือคนรึจะสู้ลิขิตฟ้า จะสู้กับลูกรักของพระเจ้าก็ต้องลำบากหน่อย

    วันนี้หลีเจามาส่งข้าวกล่องให้เยี่ยนถิงที่สำนักงานใหญ่บริษัทชางหวน(บ.ของพระเอก) เขาได้รู้ว่าเดิมตึกเก่าไม่ได้ตั้งอยู่ที่นี้แต่เพราะถูกรัฐเวรคืนที่ดินตอนจัดผังเมืองจึงมาสร้างใหม่ที่นี่แทน และได้รู้ว่าพี่สยา(จูสยา(พี่สาวที่บ้านเด็กกำพร้า))ก็ได้เลื่อนขั้นจากบ.ในเครือมาทำงานที่สำนักงานใหญ่ ดังนั้นเขาจึงบอกเยี่ยถิงว่า ไว้นัดไปกินข้าวกับครอบครัวของเขากัน เป็นพี่น้องจากบ้านเด็กกำพร้าที่เขาอยากแนะนำให้รู้จัก

    พวกเขานัดรวมตัวกันที่ร้านอาหาร จูสยา(พี่สาวที่บ้านเด็กกำพร้า)เมื่อได้เจอ เยี่ยนถิงและมองเวลาที่อีกฝ่ายปฏิบัติต่อหลีเจาแล้วก็รู้สึกว่าไม่ผิดจากที่คิดจริงๆ รวมถึงหลีเจาที่มักจะมาปรึกษาปัญหาเล็กๆน้อยๆกับเธอดด้วย แม้ตอนนี้น้องชายของเธอจะไม่รู้ตัว แต่เธอที่แต่งงานมีคนรักแล้วรู้เลยว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะต้องตกลงปลงใจกันแน่ๆ หลังจบมื้ออาหารเธอยังมอบซองแดงให้เยี่ยนถิง แบบเดียวกับเวลาเจอลูกสะใภ้ครั้งแรกอีกด้วย

    แต่แล้วไม่กี่วันต่อมาในที่ทำงาน เธอก็ต้องพบว่าว่าที่แฟนน้องชายกลายเป็นบอสใหญ่ของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ไปซะได้ เมื่อรู้ว่าน้องชายของตนโดนปิดบังไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เธอกก็โกรธที่เขาไม่จริงใจ และกลัวว่ามันจะเป็นเพียงการเล่นสนุกของคนรวย แต่เมื่อเป็นเขายืนยันหนักแน่นว่าน้องชายของเธอคือที่สุดของหัวใจ เขาจะบอกอีกฝ่ายแน่นอน จูสยาจึงยอมให้โอกาสเขาอีกครั้งกำหนดเส้นตายไว้ที่1เดือน

    ช่วงเย็นหลีเจาก็มาหาเยี่ยนถิงบริษัทเหมือนปกติ แต่วันนี้มีพนักงานคนหนึ่งจำเขาได้และพยายามสร้างความวุ่นวายที่ชั้นล่าง ก่อนที่เขาจะโดนพาหนีขึ้นลิฟท์มา พนักงานคนนั้นคือสายสืบที่สวีเป่ยส่งมา เธอเป็นแค่เด็กฝึกงานแต่กลับพยายามเข้าถึงเอกสารที่อยู่เหนือความรับผิดชอบ คนอื่นๆต่างจับตามองเธออยู่นานแล้ว

    แถมครั้งนี้ก็เห็นชัดว่าตั้งใจก่อเรื่องให้หลีเจา พนักงานหน้าฟอร์ตสังเกตเธอหลายครั้งแล้วมา วันไหนที่หลีเจามา เธอก็มักมาสืบข่าวว่าใช่ดาราที่กำลังดังรึเปล่า พนักงานหน้าฟอร์ตที่เป็นแฟนคลับระวังตัวจากเธอมานานแล้ว

    สุดท้ายหญิงสาวสายสืบคนนี้ก็ถูกเชิญออก สวีเป่ยที่อุส่าห์วางแผนจีบเธอมานานก็กัดฟันกรอด ในอนาคตที่เขารู้ เธอจะกลายเป็นมือขาวคนสำคัญของบริษัทเลยด้วยซ้ำ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้!

    วันนี้เป็นวันแต่งงานของพี่ชายอีกคนของหลีเจา เยี่ยนถิงเองก็ตั้งใจมาช่วยงานและจัดเตรียมอะไรหลายอย่างไม่น้อย ตั้งแต่โรงแรมจัดงานและรถหรูนำขบวนของเจ้าสาว ทำให้ครอบครัวฝังเจ้าบ่าวได้หน้ามาก เพราะเดิมที่ถึงแม้พี่ชายของหลีเจาและพี่สะใภ้จะรักกันด้วยใจริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าครอบครัวจากบ้านเด็กกำพร้าอย่างพวกเขาค่อนข้างลำบาก บ้านฝั่งญาติเจ้าสาวไม่ค่อยพอใจ เพื่อนๆเจ้าสาวก็หัวเราะเยาะ แต่วันนี้สามารถจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ได้ โชคดีแล้วจริงๆ

    ไม่นานหลังจากนั้นเรื่องที่หลีเจาเคยเป็นเด็กที่ถูกทารุณกรรมจนต้องจับผู้ปกครองส่งเข้าคุก ส่วนเขาก็ไปอยู่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า ก็ถูกเปิดเผยออกมา คนที่เปิดเผยเป็นนักแฉที่มักจะสืบเรื่องฉาวของดารา ครั้งนี้เองเขาบังเอิญเจอข่าวดังในอดีตจากหนังสือพิมพ์ เมื่อเห็นว่าเด็กที่อยู่ในรูปหน้าตาเหมือนหลีเจา ก็ตามสืบจนได้เรื่องได้ราวในอดีต จากนั้นก็ขายรูปและข่าวให้สื่ออนไลน์ต่างๆ ทำเงินไปได้ไม่น้อย

    ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกล้าเอาผิดกับเขามาก่อนเพราะห่วงหน้าตา และกลัวว่าเขาจะขุดอะไรมาแฉอีก แต่หลีเจาที่มีเบื่องหลังเป็นเยี่ยนถิงนั้นต่างออกไป เยี่ยนถิงให้คนไปตามจับกุมคนปล่อยข่าวและให้เขารู้ว่าโดนสั่งสอนคืออะไร ด้านโลกอินเตอร์เน็ตเต็มไปด้วยคอมเม้นเสียใจ และเห็นใจกับสิ่งที่หลีเจาเจอในอดีต แฟนคลับเห็นตรงกันว่าควรหยุดพูดถึงเรื่องนี้ ลูกชายของเธอจะได้ไม่ต้องเห็นแล้วเสียใจอีกครั้ง พวกเขาเปลี่ยนเรื่องคุยสร้างบรรยากาศปลองดองสุสันต์ขึ้นมา

    ด้านหลีเจาที่เป็นใจกลางความวุ่นวายทั้งหมด เขากำลังอยู่อย่างสงบมาก เยี่ยนถิงพาเขามาล่องเรือชมวิวกลางคืนของแม่น้ำซึ่งมันสวยมาก หลีเจายังไม่รู้เรื่องมากมายบนอินเตอร์เน็ต แต่เขารู้ว่าเพื่อนรักของเขากำลังอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก และกลายเป็นฝั่งปลอบใจอีกฝ่ายแทน บอกว่ามีเรื่องอะไรก็เล่าให้เขาฟังได้

    เยี่ยนถิงเจ็บปวดมากเหลือเกิน เขาเห็นข่าวพวกนั้นแล้ว รูปจากหนังสือพิมพ์เก่าที่บนตัวของหลีเจามีรอยแผลต่างๆก็ด้วย เขาเจ็บไปหมดทั้งหัวใจ เยี่ยนถิงดึงเด็กหนุ่มเข้ามากอดไว้แล้วบอกว่า จากนี้ไปไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรขึ้น จะมีเขาอยู่ข้างๆเสมอ หลีเจาจึงรู้ว่าในเน็ตเกิดเรื่องแล้ว เขาเอามือถือออกมาดู เห็นคอมเม้นที่ทุกคนต่างก็เข้ามาให้กำลังใจเขามากมายแล้วยิ้มออกมา เขาบอกกับเยี่ยนถิงว่าเขาไม่ได้รู้สึกแย่แล้วจริงๆ เพราะโลกเราสวยงามขนาดนี้

    เช้าวันต่อมาพี่น้องจากบ้านเด็กกำพร้าต่างมาเยี่ยม เมื่อเห็นเขายังร่าเริงดีมีคนดูแลอยู่ข้างๆก็สบายใจ พวกเขาจัดปาร์ตี้เล็กๆที่สวนในบ้านกัน

    ด้านสวีเป่ยเขาแค้นข่าวนี้ที่สร้างกระแสให้หลีเจาเหลือเกิน ถึงขนาดคิดว่าทำไมไม่โดนทารุณจนจบชีวิตไปซะตั้งแต่ตอนเด็ก จะไม่ได้ไม่มาขวางทางเดินเขาแบบนี้

    ส่วนซ่งอวี้ที่ดูภาพในข่าวก็อึ้งไป นึกถึงกองถ่ายแรกที่เขาเคยหัวเราะความจนของหลีเจาแล้วก็รู้สึกผิดอย่างหนัก เขาอาศัยเพียงฝันบอกเหตุแต่กลับคิดแย้งชิงโชคชะตาของคนอื่น ด้วยเพราะไม่รู้ว่าทำยังไงกับเรื่องที่ผ่านไปแล้ว เขาจึงเปิดแชตแล้วส่งเงินอั่งเปาให้เด็กหนุ่ม

เพื่อจบเรื่องนี้หลีเจาไปออกรายการให้สัมภาษณ์ เขาปลอบโยนแฟนคลับและพูดถึงช่วงเวลาดีๆสมัยบ้านเลี้ยงเด็ก ว่าที่นั้นมีผู้อำนวยการ ครูและพี่ๆอาสาสมัครที่ดีมาก เขาได้รู้ว่ามนุษย์ยังมีด้านที่งดงามมากมาย ทำให้แฟนคลับและผู้คนชื่นชมและสบายใจขึ้นใจที่สุด

    ด้านงานพรมแดงการมอบรางวัลของซีรีย์ หลีเจาได้รับรางวัลไปตามที่ทุกคนคาดคิด และได้เจอหน้ากับสวีเป่ยเป็นครั้งแรก การพูดคุยของพวกเขาก็เหมือนมีดเคลือบน้ำตาล แม้แต่หลีเจาที่ปกติเป็นปุยนุ่นไม่สนใจคนอื่น ยังระวังตัวและโต้ตอบสวีเป่ยด้วยใบหน้าใสซื่อบริสุทธิ์

    สวีเป่ยผิดแผนอีกแล้ว ไหนผู้ชายขาใหญ่ของเขารับปากแล้วไงว่าหลีเจาจะไม่ได้รางวัล แต่เขาไม่ได้รู้เลยว่าขาใหญ่ของตัวเองโดนบริษัทชางหวน(บ.ของพระเอก)กดดันจนเลิกสนับสนุนตัวเองแล้ว ชีวิตที่ไม่มีแบ็คอัพให้วางกล้ามกำลังจะเริ่มขึ้น

    กลับมาจากงานและเข้าสู้ชีวิตกองถ่ายอีกครั้ง งานในกองถ่ายยุ่งมาก แต่ขณะเดียวกันหลีเจาก็เริ่มเตรียมตัวกลับไปสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาลัยอีกครั้ง นี่คือความฝันในอดีต ก่อนที่เขาจะเบี่ยงเส้นทางมาเป็นนักแสดง เพราะพี่สยาป่วย ตอนนี้งานแสดงเข้าที่ดีแล้ว เมื่อมีเยี่ยนถิงสนันสนุนเขาจึงลองดูอีกครั้ง

    เพราะแบบนี้ตลอดการถ่ายทำ กลางความเอ็นดูของทุกคนเขาก็อ่านบทหนังสลับกับอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบไปด้วย และเพราะความพยายาม หลายเดือนต่อมาเขาสามารถสอบได้701คะแนน เป็นอันดับต้นๆของผู้สมัครสอบทั้งหมด และขณะเดียวกันการเข้ากองครั้งนี้ก็ได้รู้จักเรื่องบางอย่างที่เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนคือ ผู้ชายกับผู้ชายก็รักกันได้ด้วย หลังเห็นนักแสดง2คนแอบคบกันในกองถ่าย

    และด้วยความมึนงง ช่วยที่ได้หยุดกองไปเข้าสอบ เขาถึงโพล่งถามกับเยี่ยนถิง เรื่องที่ผู้ชาย2คนคบกัน ก่อนจะโดนถามกลับว่าอยากมีแฟนแล้วเหรอ? แน่นอนว่าเขาบอกว่าไม่ อยู่กับถิงถิงแบบนี้สนุกกว่าตั้งเยอะ จากนั้นเขาก็เห็นเยี่ยนถิงยิ้ม

    มันเป็นรอยยิ้มที่สวยมาก หลีเจาอึ้งงันไป

(จบเล่ม2)

(เล่ม3)

    แม้จะสาดโคลนล้มเหลวมาหลายครั้ง แต่สวีเป่ยยังไม่อยากยอมแพ้ ครั้งนี้เขาเลยสร้างข่าวฉาวว่าหลีเจาเกาะขาฉินเซียว(ผู้ช่วยพระเอก) มือขวาของบอสชางหวน เพราะแบบนี้อยู่ดีๆถึงได้กลายเป็นพรีเซ็นต์แบรนด์ดังในเครืองชางหวนได้

    ข่าวนี้ทำให้ฉินเซียวตกใจแทบตาย เขากลัวว่าเยี่ยนถิงจะโกรธ แต่มันกลับจุดประกายให้เยี่ยนถิงซะเอง เขาสั่งให้สร้างข่าวคู่จิ้นของบอสชางหวนกับหลีเจาขึ้นมาบ้าง ความคิดผู้นำยากหยั่งถึง แต่ถ้ามันจะทำให้บอสดีใจเขาก็ไม่ขัด

    หลังจากที่หยุดกองไปสอบ เมื่อกลับมากองถ่ายก็พาเขาไปกินเลี้ยงที่ได้คะแนนดี และที่โรงแรมนั้นเขาได้เจอเหยาอวี่กวงและเพื่อนของอีกฝ่าย เหยาอวี่กวงกลัวหลีเจาสุดขีด แต่เพื่อนไม่รู้ความของเขากลับพูดจาล่วงเกินไปถึงเยี่ยนถิง จนโดนอัดไปยกใหญ่

    จากเรื่องนี้ทำให้หลีเจารู้ว่า เยี่ยนถิงเป็นประธานของบริษัทชางหวนที่ยิ่งใหญ่ และรู้ไปถึงเรื่องเมื่อ20ปีก่อน แม่ของเยี่ยนถิงโดนตระกูลสวีกดดันจนเป็นบ้า เธอแทงสามีของตนเองตาย และแทงตัวเองกับเยี่ยนถิงจากนั้นก็ลากลูกชายจะไปกระโดดตึกด้วยกัน

    แต่เยี่ยนถิงไม่ยอมสุดท้ายเลยได้แต่ยืนมองแม่ของตัวเองตายไปทั้งแบบนั้น

    หลีเจาที่ได้รู้เรื่องนี้ก็เสียใจกับเรื่องในอดีตของเยี่ยนถิงมาก และก็มีความโกรธที่อีกฝ่ายหลอกลวงเขาด้วย ดังนั้นเขาจึงออกจากเลี้ยงฉลองของกองถ่าย แล้วไปที่บริษัทชางหวน การไปเซอร์ไพรส์นี่เองทำให้เยี่ยนถิงที่ออกมาจากห้องประธานโป๊ะแตกเต็มๆ

    หลีเจาต่อว่าอย่างไม่แรงนัก เขาโกรธที่โดนปิดบังก็จริง แต่ความจริงที่เขาได้รู้วันนี้ก็สะเทือนใจจนไม่อาจจะพูดจารุนแรงได้ เยี่ยนถิงเองก็ดูออกว่ายังมีโอกาสให้ง้อ เขาใช้กลยุทธ์ทุกข์กาย พูดขอโทษเสียงอ่อน คำอธิบายที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด และเพราะเกร็งเกินไปเล็บจิกฝามือจนได้เลือด เมื่อทั้งหมดมารวมกัน หลีเจาก็ปวดใจเกินจะทนไหว ยอมแพ้ให้อภัยเขาในที่สุด

    หลังจากรู้ความจริงตรงนี้แล้วก็ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันขึ้นไปอีก

    รายการวาไรตี้หนึ่งเชิญหลีเจาไปออก ในรายการนี้มีสวีเป่ยอยู่ด้วย ซึ่งการเผชิญหน้ากันครั้งนี้ หลีเจารักษารอยยิ้มใสซื่อของตัวเองเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ขณะที่สวีเป่ยไม่ให้ความร่วมมือใดๆจนผู้กำกับและทีมงานยังทนไม่ไว้ ถึงช่วงเข้าบ้านผีสิง สวีเป่ยคิดจะแกล้งทำเป็นกลัวและจะถีบหลีเจา แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายกลับล้มลงไปเองด้วยสีหน้าเจ็บปวด

    ฉากนี้ทำให้ทีมงานไม่พอใจมาก ไม่มีใครเชื่อว่าสวีเป่ยไม่ได้ตั้งใจ ขณะที่หลีเจาแสดงเป็นผู้ถูกกระทำได้อย่างแนบเนียน เขารู้จากผู้จัดการมาแล้วว่าสวีเป่ยคนนี้ชอบแย่งงานและใส่ร้ายเขาบนอินเตอร์เน็ตไม่หยุดไม่หย่อน ถึงเขาจะไม่ใส่ใจแต่ใช่ว่าจะยอมถูกกระทำต่อไปเรื่อยๆ แถมเขายังเข้าใจว่าสวีเป่ยเป็นตระกูลสวีที่ต้องการแย้งสมบัติกับถิงถิงของเขาอีกด้วย ภาพละครดราม่าฉายในหัวเขาเป็นฉากๆ

    หลังรายการออกฉาย เม้นของแฟนคลับก็ระเบิดออกมา สวีเป่ยเสียเปรียบเป็นอย่างมาก เขาต้องการให้หลีเจาออกมาแก้ข่าว แต่ติดต่อทางนั้นโดยตรงก็ไม่มีใครสนใจ ในที่สุดเขาต้องติดต่อผ่านผู้กำกับรายการโดยเปิดเผยว่าตนเป็นคนตระกูลสวีที่เป็นญาติกับบริษัทชางหวน ผู้กำกับยังเกรงใจอยู่บ้างจะติดต่อหลีเจาให้

    ซึ่งหลีเจาก็มาจริงๆ แต่เขาไม่ได้อ่อนน้อมเมื่อได้ยินคำขู่ ทั้งยังถามกลับอีกด้วยว่าเป็นญาติกันจริงรึเปล่า สวีเป่ยกลัวท่าทางเอาจริงของหลีเจาทันที และความจริงก็ปรากฏ เยี่ยนถิงเกลียดตระกูลสวีเขาไม่ยอมรับว่าสวีเป่ยเป็นญาติ หลีเจาตบบ่าคนอื่นแล้วบอกว่าไม่ต้องเสียใจไป ถึงนายจะไม่ใช่ญาติของเยี่ยนถิงจริงๆ แต่ตัวเขาเป็นเพื่อนของเยี่ยนถิงจริงๆแน่นอน

    ความจริงที่วิ่งเข้ามาตบหน้าทำให้สวีเป่ยอึ้ง เขาหลุดออกมาอย่างมึนงงว่าเยี่ยนถิงกำลังจะตายแล้วไม่ใช่รึไง นี่เป็นสิ่งที่เขารู้มาจากอนาคต เป็นโรคซึมเศร้าตาย แต่คำพูดนี้ทำให้หลีเจาโกรธมาก เขาต่อยหน้าสวีเป่ยจนอีกฝ่ายจมูกเบี้ยวร้องขอชีวิต ผู้จัดการที่รออยู่ข้างๆเห็นก็ตกใจรีบเข้าไปหยุดเด็กหนุ่ม สวีเป่ยเมื่อถูกปล่อยตัวก็รีบวิ่งหนีอย่างไม่มีสติ คนมากมายเห็นสภาพที่ดูไม่ได้ของเขา

    หลังแยกย้ายกับผู้จัดการแล้ว หลีเจาก็ติดต่อเหยาอวี่กวง(ญาติของเยี่ยนถิง) เมื่อได้รับคำยืนยันว่าเยี่ยนถิงสบายดี ก็สบายใจในที่สุด

    ด้านสวีเป่ยถูกเยี่ยนถิงลงดาบ ถูกแบนออกจากวงการบันเทิงไปในที่สุด

    ตอนนี้มหาลัยที่หลีเจาเลือกใกล้จะเปิดเรียนแล้ว เยี่ยนถิงจึงจัดงานเลี้ยงฉลองให้อีกสักรอบ ตอนนี้หลีเจาก็รู้ว่าเขาเป็นใครแล้ว ไม่จำเป็นต้องประหยัดงบอีกต่อไป เขาจัดงานที่เกาะส่วนตัวแห่งหนึ่ง โดยเชิญเพื่อนสนิทของหลีเจาและผู้มีอิทธิพลในวงการมามากมาย งานนี้ก็เหมือนประกาศความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้คนอื่นรู้ จากนี้ไปทุกคนจะได้ดูแลหลีเจาดียิ่งขึ้น

    ใครที่มีตาก็เห็นว่าเยี่ยนถิงทะนุถนอมหลีเจาขนาดไหน นี่คือรักแท้แน่นอน

    แต่หลีเจาไม่ได้รู้ตัวเลย เขามีความสุขกับงานครั้งนี้มาก สมกับเป็นงานที่เพื่อนรักมอบให้เพื่อนรัก เยี่ยนถิงของเขาลงทุนไปมากมายจริงๆ

    ...

    หลีเจาความรู้สึกช้า แต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่หวั่นไหว เขาคิดว่าคนปกติทั่วไปต้องชอบผู้หญิง เยี่ยนถิงเองก็คงเหมือนกัน แต่ช่วงนี้เขากลับรู้สึกแปลกๆ ถ้าเยี่ยนถิงรู้ว่าเขามีความคิดผิดไปจากคนทั่วไปจะรังเกียจเขาไหม หลังคิดแล้วคิดอีกจนได้รุ่นพี่นักแสดงแนะนำ เขาก็เริ่มสารภาพรักแบบอ้อมๆกับเยี่ยนถิง แต่การให้ดอกไม้ แก้วคู่ รองเท้าคู่ บัตรเอทีเอ็ม มันคงอ้อมไปหน่อยเพราะเยี่ยนถิงไม่เข้าใจ

    หลังลองเชิงกันอยู่สักพัก ในที่สุดทั้งคู่ก็เข้าใจกันและกัน สามารถสารภาพรักอย่างตรงไปตรงมาได้สักที เยี่ยนถิงดีใจมากรู้สึกว่าสวรรค์คงเห็นใจตัวเอง หลังผ่านความลำบากทั้งหลายมาก็มีหลีเจาเข้ามาในชีวิตเขา

    หลีเจาเองก็รุกหนัก เปลี่ยนไปหยอกล้อเรียกเยี่ยนถิงว่าที่รัก ทำเอาท่านประธานที่อายุมากกว่าหลายปีหน้าแดง ตอนนี้เองที่เยี่ยนถิงสามารถเรียกอีกฝ่ายว่าเด็กน้อยอย่างเปิดเผยได้แล้ว จากนั้นเทศกาลอวดหวานแจกอาหารหมาก็เริ่มขึ้น พนักงานน้อยใหญ่ของชางหวนตกตะลึงที่บอสมีความรัก ต่างก็อวยพรและประจบบอสกันเต็มที่

    หลีเจาเองก็ไม่น้อยหน้า โพสหวานๆในเน็ตเหมือนกัน แต่แฟนคลับไม่ได้นึกถึงเรื่องรักๆใครๆ ในสายตาพวกเธอลูกจ๋ายังเด็กอยู่เลย ดังนั้นจึงไม่มีดราม่าหรือการเปิดตัวใดๆขึ้น

    หลังจากนี้ก็มีคุณหนูใหญ่ท่านหนึ่งที่ชอบมารังแกไอดอลหนุ่มในวงการ เธอชอบลงทุนสร้างหนังที่ตัวเองเป็นนางเอกแล้วมีพระเอก พระรอง ตัวละครชายมายื้อแย่งเธอ แน่นอนว่าบรรดาคนในวงการมีทั้งเต็มใจและไม่เต็มใจ แต่ในอดีตไม่มีใครกล้าปฏิเสธเธอได้ เพราะคุณหนูท่านนี้มีพ่อที่เป็นนักธุรกิจใหญ่ให้ท้ายนั้นเอง

    เมื่อเธอมาถูกใจหลีเจาเข้า ใครๆต่างก็สงสารเขา แต่หลีเจาและทีมงานต่างก็ปฏิเสธที่จะร่วมงานกับคุณหนูสาว เธอโกรธมากที่โดนหักหน้า เปิดฉากด่าทอและข่มขู่หลีเจาในเน็ตยกใหญ่ หลังจากนั้นก็กลับบ้านไปฟ้องพ่อ และคนพ่อที่ตามใจลูกสาวก็โทรมาถึงต้นสังกัดของหลีเจา แต่    กลับโดนปฏิเสธอย่างชัดเจนอีกครั้ง ครั้งนี้เขายอมไม่ได้มากขึ้นเพราะเหมือนโดนหยามหน้า แต่ก่อนที่จะได้ก่อเรื่องอะไร

    เขาก็ได้รู้ว่า เยี่ยนถิงและบริษัทชางหวนหนุนหลังดาราหนุ่มอยู่ เขากลัวจนแทบจะเป็นลม กลับบ้านไปต่อว่าลูกสาวแทบไม่ทัน แต่คนเราให้ท้ายลูกมาหลายสิบปี เมื่อลูกสาวไม่ยอมขอโทษก็ไม่บังคับเป็นคนโพสขอโทษแทนลูกสาว แต่คำพูดที่ออกมาดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยออะไรนอกจากกระพือความโกรธของชาวเน็ต แถมจากนั้นไม่นานบริษัทของเขาก็โดนบริษัทชางหวนเล่นงานจนล่มจมไป

    ตอนนี้ถึงเวลาย้ายเข้ามหาลัยแล้ว ปี1ที่นี่ต้องอยู่หอใน แต่รักทางไกลแบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้คู่รักเหินห่างแต่ยิ่งคิดถึงและหวานชื่นกันมากกว่าเดิม

    หลีเจาแบ่งเวลาเรียนและทำงานไปด้วย แต่ยังสามารถทำทุกอย่างได้อย่างสวยงาม เขาสนิทกับเพื่อนในมหาลัยจนเรียกพี่เรียกน้องได้ แถมยังได้รับการชื่นชมจากอาจารย์ การเรียนก็อยู่ต้นๆของคณะ และการเข้ามหาลัยนี้ทำให้เขาได้รู้จักอาจารย์คนหนึ่ง เขากับภรรยาดีต่อหลีเจาเป็นอย่างมาก มักจะชวนเด็กหนุ่มมากินข้าวที่บ้านตนเองบ่อยๆ

    หลินเซินอาจารย์มหาลัย และตู้อวี้ซูภรรยาของเขา เอ็นดูหลีเจาเป็นพิเศษ เพราะเด็กหนุ่มทำให้เขาคิดถึงลูกชายที่สูญเสียไปเมื่อ20ปีก่อน เด็กที่อายุ3เดือนคนนั้นถูกพวกค้ามนุษย์ลักพาตัวไป ตามหาเท่าไรก็ไม่เจอ แต่ตลอด20ปีมานี้พวกเขาก็ไม่ได้ตัดใจ แต่เค่อยสนับสนุนโครงการDNA หวังว่าสักวันหนึ่งจะมีปาฏิหาริย์ให้พวกเขาได้พบกับลูกชายอีกครั้ง

    และแล้วโครงการที่คืบหน้าช้าๆมาตลอดก็มีข่าวใหญ่ เมื่อมีเงินลงทุนมหาศาลบริจาคเข้ามาโครงการก็คืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าโครงการสามารถเก็บตัวอย่างและจับคู่DNAได้แล้ว เยี่ยนถิงพาหลีเจาไปเก็บตัวอย่างเลือด ผลปรากฏออกมาน่ายินดีมาก มันทำให้หลีเจาได้พบกับพ่อแม่แท้ๆของตัวเองอีกครั้ง

    แม้หลีเจาจะมึนงงกับเรื่องยินดีที่มาอย่างรวดเร็วนี้ไปบ้าง แต่เขาก็กลมกลืนไปกับครอบครัวอย่างรวดเร็ว ทั้งยังแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักเยี่ยนถิงในฐานะคนรักด้วย ในฐานะพ่อแม่ที่ได้ลูกรักกลับมาอีกครั้ง หลินเซินและตู้อวี้ซูยอมรับลูกสะใภ้ได้อย่างรวดเร็วทั้งยังแจกซองแดง และดูแลเหมือนลูกชายแท้ๆอีกคน เติมเต็มเยี่ยนถิงที่ขาดพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กเช่นกัน

    ระหว่างนี้เรื่องที่หลีเจาเคยเป็นแสตนด์อินของจ้าวจวินหนานถูกแฉออกมา ยังมีความลับอีกหลายเรื่องที่จ้าวจวินหนานพยายามกดหัวเด็กใหม่ หรือหยามเกียรติผู้หญิง เพราะดราม่าครั้งนี้ทำให้ตู้อวี้ซูได้เห็นข่าวที่หลีเจาเคยถูกทารุณกรรม และภาพคลิปสมัยที่เป็นแสตนด์อินว่าลำบากยากเย็นแค่ไหน เธอจึงใช้ฐานะปรมาจารย์งิ้วของตัวเองกดดันจ้าวจวินหนาน ปกป้องหลีเจา

    แม้หลีเจาจะไม่สนดราม่า แต่ครั้งนี้เขารู้สึกอบอุ่นใจมาก นี่สินะความรู้สึกเวลามีพ่อแม่ปกป้อง

    เพราะการแสดงออกแบบนี้ จ้าวจวินหนานจึงปล่อยข่าวว่า ตู้อวี้ซูเป็นชู้กับหลีเจา หวังจะให้ล่มจมกันไปให้หมด แต่ก็โดนตบหน้ากลับด้วยความจริงที่ว่าพวกเขาเป็นแม่ลูกกัน ข่าวที่หลีเจาตามหาพ่อแม่แท้ๆของตัวเองเจอแล้ว สร้างความยินดีกับชาวเน็ตอย่างมาก และส่งผลให้ชาวเน็ตโกรธแค้น แบนจ้าวจวินหนานจากวงการบันเทิงไป

    วันหนึ่ง คุณป้าของเยี่ยนถิงมาหาหลีเจา และตามเสต็ปเดิม เธอหลอกล่อและข่มขู่ แต่เมื่อโดนปฏิเสธกลับล่าถ่อยไปอย่างง่ายได้ วันต่อมาเธอโทรหาเยี่ยนถิง บอกว่าตนจะยอมแพ้เรื่องแย้งอำนาจแล้ว และขอให้เขาโชคดีกับคนรัก

    ในงานเลี้ยงปีใหม่ คืนที่29เดือน12 หลีเจาได้เดือนพรมแดงของชางหวนอีกครั้ง ทั้งตัวของเขาเหมือนประโคมแบรนด์หรูชั้นนำเอาไว้ สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ชาวเน็ตที่ดูไลฟ์สด ส่วนในงานนั้นผู้บริหารระดับสูงคางแทบร่วง กี่ปีมาแล้วที่เยี่ยนถิงไม่มาร่วมงานเลี้ยง แต่เพื่อดาราหนุ่มเขาก็มาแสดงตัวให้เห็น เป็นการบอกโดยนัยกับทุกคนว่า คนๆนี้คือตัวจริงที่ทุกคนต้องดูแลเขาอย่างจริงใจ

    จากนั้นปีใหม่ผ่านพ้นไป ตรุจีนก็เริ่มขึ้น ในงานโปรโมตหนังที่หลีเจาแสดง เยี่ยนถิงได้เปิดตัวว่าเศรษฐีเวรคืนที่ดินกับบอสชางหวนเป็นคนๆเดียวกัน ตอนพิธีกรสอบถาม หลีเจายังเล่าว่าพวกเขาสนิทกันมาก จนพ่อแม่ของเขายังเป็นอีกฝ่ายเป็นลูกชายอีกคน สร้างความสุขให้แฟนคู่จิ้น พวกเธอประทับใจในมิตรภาพนี้เหลือเกิน!

(จบ)

Ad Code

Responsive Advertisement