(สปอย์) ราชันโลกพิศวง เล่ม34 / ราชันย์เร้นลับ 859-884
(ต่อจากเล่มที่33) แฟรงค์ ลี(ลูกเรืออนาคตกาล)เขียนจดหมายถึงเกอร์มัน สแปร์โรว์(ไคลน์/พระเอก/เดอะเวิร์ลด์/ดเวย์ ดันเตส์) เล่าถึงการทดลองสร้างเห็ดว่ามีความคืบหน้าไปไม่น้อย เขาชอบไอเดียที่อีกฝ่ายเสนอมามากและกำลังพัฒนาเห็ดที่กินสัตว์ประหลาดที่โตในความมืดอยู่ แน่นอนว่ามันยังไม่สำเร็จ แต่เขาก็จะพยายามต่อไปและส่งผลงานรุ่นทดลองมาให้พร้อมจดหมาย
ด้านออเดรย์ ฮอลล์(เดอะจัสติส)ดื่มน้ำยาและเลื่อนขั้นจากอันดับ7จิตแพทย์เป็นอันดับ6นักสะกดจิตเรียบร้อย หลังสำรวจพลังใหม่ สาวใช้ก็เข้ามาแจ้งถึงกำหนดการงานเลี้ยงการกุศล ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษาของคนยากจน ที่ทางลัทธิจัดขึ้น
ตอนนี้ข่าวที่ดเวย์ ดันเตส์(ไคลน์/พระเอก)บริจาคเงินเพื่อก่อตั้งมูลนิธิรู้กันไปทั่วชนชั้นสูงแล้ว ผู้คนต่างชื่นชมในจิตใจศรัทราและความมือถึงของเขา เพราะการใช่จ่ายเงินหมื่นเหรียญในครั้งเดียวไม่ใช่เรื่องที่ใครก็ทำได้ เรื่องในครั้งนี้ทำให้ไคลน์(พระเอก)ได้เส้นสายมากมาย และกองทัพส่งตัวแทนมาติดต่อเรื่องค้าอาวุธกับเขาอีกครั้ง
ฟอลส์(เดอะแมจิเชี่ยน)และซีโอทำหน้าบอดี้การ์ดครบ3วันก็จากไป แต่ก่อนไปพวกเธอยังทิ้งจดหมายเตือนดเวย์ ดันเตส์ถึงความผิดปกติรอบตัว ไคลน์(พระเอก)อ่านจดหมายแล้วหัวเรอะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก พ่อบ้านที่ศึกษามนต์ดำ ผู้ช่วยที่แอบนับถือศาสนานอกรีต เพื่อนบ้านที่เป็นผู้วิเศษ ถ้าดูตามนี้ดเวย์ ดันเตส์ก็ดูเป็นคนน่าสงสารจริงๆนั้นแหละ
งานเลี้ยงการกุศลก่อตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษาของคนยากจนที่ทางลัทธิจัดขึ้น ดเวย์ ดันเตส์(ไคลน์/พระเอก)ได้พบกับออเดรย์ ฮอลล์(เดอะจัสติส)ที่ตามพ่อแม่มาร่วมงาน แม้เขาจะแสดงออกมาอย่างพยายามให้เป็นธรรมชาติ แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นสายตาของ ผู้วิเศษสาย‘ผู้ชม’ที่มีความสามารถในการสังเกตมากที่สุด แถมเธอไม่ได้ตัวคนเดียวแต่มีคู่หูเป็นสุนัขโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่เฝ้ามองอยู่วงนอกอีกตัว
ออเดรย์ ฮอลล์(เดอะจัสติส)พบความผิดปกติจริงๆ หลังกลับบ้านมาปรึกษากับซูซี่(สุนัขคู่หู/สัวต์วิเศษ) เธอก็สรุปออกมาได้ว่า อาจจะเป็นคนที่รู้จักเธอมาก่อนจึงตกใจเมื่อได้พบเธอ เป็นคนที่เคยใช่ชีวิตอย่างชนชั้นล่างมาก่อน ประสบการณ์ความเจ็บปวดโศกเศร้าที่เล่าออกมาตอนพูดสุนทรพจน์เป็นเรื่องจริง แต่ความเป็นมืออาชีพที่แสดงออกมาและข่าวคราวที่เขาพัวพันกับคดีหลายคดี ชี้ว่า ดเวย์ ดันเตส์ อาจจะเป็นผู้วิเศษ
และเพราะพ่อของเธอสนใจมูลนิธิที่เขาก่อตั้งขึ้น ออเดรย์จึงตัดสินใจว่าจะต้องสืบข่าวของอีกฝ่ายดูสักหน่อย
วันจันทร์ เริ่มการชุมนุมไพ่ทาโรต์อีกครั้ง แคทลียา(เดอะเฮอร์มิท/กับตันเรืออนาคตกาล)นำบันทึกของจักพรรดิโรเซลล์(รุ่นพี่ผู้ข้ามมิติ)จากแบร์นาเด็ตท์(ราชินีแห่งความลี้ลับ/ลูกสาวโรเซลล์)มาให้ ในนั้นบันทึกช่วงเวลาที่ต่างกัน แต่พูดถึงสิ่งเดียวกันคือ ‘บ้านเกิด’
แผ่นแรก โรเซลล์(รุ่นพี่ผู้ข้ามมิติ)ได้เดินทางไปที่เมืองหลวงของฟูธาร์ก(ทายาทยักษ์) เขาได้พบกับเรื่องราวที่ชวนสะท้อนใจ ทายาทยักษ์มักฝันถึงราชวังคนยักษ์ในตำนาน จิตวิญญาณของพวกเขาไม่เคยลืมบ้านเกิดและอยากกลับไปเสมอ
แผ่นต่อมา โรเซลล์(รุ่นพี่ผู้ข้ามมิติ)มาเยือนเกาะโซเนีย เขามาตามหาร่องรอยของเผ่าภูตพรายในตำนาน เพราะแรกเริ่มรู้สึกว่าหน้าตาลักษณะภายนอกของพวกเขาเหมือนชาวเอเชียของโลกเก่า แต่เมื่อค้นหามากขึ้นเรื่อยๆก็รู้ว่าเผ่าภูตพรายมีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ไม่พบหลักฐานที่ชี้ถึงผู้ทะลุมิติคนอื่น เพราะการเดินทางนี้โรเซลล์ฝันถึงบ้านเกิดที่เกือบลืมไปแล้ว
แผ่นสุดท้าย โรเซลล์มีลูกแล้ว แบร์นาเด็ตท์ลูกสาวคนโตของเขาน่ารักเหลือเกิน น่าเสียดายที่เธอจะไม่มีทางได้รู้จักปู่ย่าที่แท้จริง หลังลังเลอยู่นานโรเซลล์ก็ตัดสินใจไม่สอนภาษาจีน แต่เลือกบอกให้เธอจำรากเหง้าของเขาด้วยอักษรสองตัว นั้นคือ ‘บ้านเกิด’ เขาไม่ได้บอกคำแปล แต่ขอให้เธอเพียงจำไว้ในสัญลักษณ์พิเศษ เป็นเหมือนคาถาคุ้มครองของเขา
ไคลน์(พระเอก)อ่านแล้วก็ถอดทอนใจ ข้างในตัวเกิดความรู้สึกกระเพื่อมไว้เป็นระลอกคลืนเชี่ยวกราด
คำถามของแบร์นาเด็ตท์(ราชินีแห่งความลี้ลับ)ที่ฝากแคทลียา(เดอะเฮอร์มิท)มาไม่ได้ผิดคาด นั้นคือความหมายของอักษรสองตัวที่พ่อของเธอบอกให้จำไว้ ไคลน์(พระเอก)ที่อยู่ในฐานะเดอะฟูลตอบออกไปว่ามันมีความหมายว่า ‘บ้านเกิด’ ที่ซึ่งเป็นปลายทางของหัวใจและดวงวิญญาณ
สมาชิกคนอื่นๆสนใจความหมายของ ภาษาโรเซลล์(ภาษาจีน)กันไม่น้อย เมื่อจบเรื่องนี้สมาชิคคนอื่นๆเริ่มแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการกัน แอลเจอร์(เดอะแฮงแมน)แจ้งเดอะเวิร์ลด์(ไคลน์/พระเอก)ว่าของวิเศษที่เขาสั่งทำกำลังจะได้แล้ว
เอ็มลิน ไวท์(เดอะมูน)ต้องการแลกคุณลักษณของผีดูดสังเคราะห์กับเดอร์ริค(เดอะซัน/ชาวนครเงินยวง) โดยที่เดอะเวิร์ลด์(ไคลน์/พระเอก)เข้ามาเป็นคนกลางในเรื่องนี้เพราะเดอร์ริคไม่รับเงินของโลกผ่านนอก และการจะหาของมาแลกเปลี่ยนก็ยุ่งยากไม่น้อย ดังนั้นเดอะมูนจ่ายเงินให้เดอะเวิร์ลด์ เดอะเวิร์ลด์มอบสูตรน้ำยาระดับ5ของสายตะวันให้เดอะซัน ส่วนเดอะซันก็มอบของให้เดอะมูนต่อไป
ต่อไปก็ถึงคิวของออเดรย์(เดอะจัสติส)เธอต้องการตรวจสอบดเวย์ ดันเตส์ ฟอลส์(เดอะแมจิเชี่ยน)ได้ยินแล้วยังคิดจะรับงานด้วยซ้ำ แต่เดอะเวิร์ลด์(ไคลน์/พระเอก)ก็ออกตัวก่อน เขาคิดถึงข้อดีข้อเสียแล้วก็บอกออกไปว่า ดเวย์ ดันเตส์ เป็นตัวตนที่ใช่ร่วมกับข้ารับใช้คนอื่นๆของเดอะฟูล และบอกออกไปกลายๆว่าตอนนี้ตนเข้ามาในกลุ่มชนชั้นสูงของอาณาจักรเพื่อตรวจสอบบางอย่าง
ทุกคนได้ยินก็เข้าใจทันทีว่าต่อไปสามารถให้ความช่วยเหลือเขาได้ เพื่อให้ตัวตนนี้สมจริงยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็แปลว่าแบคลุนด์เมืองหลวงของโลเอนกำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ออเดรย์(เดอะจัสติส)เองก็ตื่นตัวขึ้นมากเพราะเธอเข้าใจถึงท่าทีของอีกฝ่ายเมื่อเจอกันแล้ว และที่สำคัญนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวเธอมาก และเธอสามารถให้ความช่วยเหลือใกล้ชิดกว่าที่ผ่านๆมา
จบจากเรื่องนี้ เดอะเวิร์ลด์ขอให้เดอะซันไปตรวจสอบสัตว์ประหลาดที่ตนเองต้องการ และตอบคำถามของเดอะแมจิเชี่ยนที่ฝันถึงสัญลักษณ์พิเศษของผู้เร้นกายแห่งชะตากรรม ซึ่งเป็นผลมาจากกึ่งเทพสายหัวขโมยที่ซ้อนตัวอยู่กับเฮเซล ดังนั้นหลังจากจบชุมนุม ไคลน์(พระเอก)จึงให้กระจกวิเศษไปสั่งสอนกึ่งเทพตนนั้น
แน่นอนว่ากระจกวิเศษ มอบสายฟ้าเบาๆให้กึ่งเทพที่พลังทดถอยตนนั้น เขาไม่ได้สั่งสอนแรงเกินไปเพราะจะกลายเป็นการต้อนให้จนมุม แต่เพียงเท่านี้ กึ่งเทพที่ย่ำแย่ตนนั้นก็ตัดสินใจจะหลีกหนีถนนเส้นนี้ไปอยู่แถวนอกเมืองก่อน
ด้านไคลน์(พระเอก) เขากำลังจะมีการค้าอาวุธที่ต้องไปส่งของที่บาลามตะวันตก ให้แคทลียา(เดอะเฮอร์มิท/กับตันเรืออนาคตกาล)และดานิซ(ลูกเรือของเอ็ดวินาขุนพลภูเขาน้ำแข็ง)รวบรวมข้อมูลมา ซึ่งเขาก็ได้รู้ว่าบาลามตะวันตกวุ่นวายซับซ้อนมากจริงๆ แม้แต่กลุ่มของศัตรูอย่างกลุ่มกุหลาบนิยมและคณะภราดรวิญญาณก็อยู่ด้วย ถ้าเป็นไปได้เขาอยากไปพร้อมคุณอาซิค(กงสุลแห่งความตาย) แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะกำลังยุ่งมาก
ดเวย์ ดันเตส์(ไคลน์/พระเอก)ออกไปดูงานที่มูลนิธิกองทุนเพื่อการศึกษา ออเดรย์(เดอะจัสติส)ก็อยู่ที่นั้นเช่นกัน จากนี้เธอจะมาทำงานที่นี่ เมื่อเธอได้เจอและฟังข้อเสนอแนะที่มีเพื่อเด็กๆยากจน ออเดรย์ก็ได้รู้ว่าจริงๆแล้วเกอร์มัน สแปร์โรว์มีด้านที่อ่อนโยนต่างจากในข่าวหนังสือพิมพ์มาก
และจากคดีคัลลอน(ผู้ฆ่าตัวตายคดีหุ้น) เลโอนาร์ดมาหาดเวย์ ดันเตส์อีกครั้งเพื่อขอคำแนะนำ ผู้ตายวิญญาณแตกซ่านและโดนฝังความทรงจำให้ทุกอย่างชี้ไปทางบารอนซินดราส แต่ทุกอย่างมันชัดเจนเกินไป เมื่อคุยกันจนได้ข้อสรุป พวกเขาก็แลกวิธีติดต่อกันและกัน
ไคลน์(พระเอก)รอจดหมายจากเพื่อนสนิทติดต่อมา แต่เลโอนาร์ด(เพื่อนสนิท/ถุงมือแดง)ยังสับสนถึงสถานะระหว่างพวกเขา จึงไม่สามารถเขียนอะไรส่งมาสักที ไคลน์(พระเอก)จึงได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือจากแชร์รอน(ระดับ5วิญญาณแค้น)แทน
ไคลน์(พระเอก)ไปพบกลุ่มของแชร์รอนด้วยคราบของนักสืบเชอร์ล็อค มอริอาร์ตี ครั้งนี้พวกเธอต้องการให้เขารวมมือกัน เพื่อชิงมัมมี่ตุตันเซสเพื่อเป็นวัตถุดิบเลื่อนอันดับ ไคลน์ขอเวลาไปคิดแล้วจะให้คำตอบคืนนี้ ก่อนกลับเขายังถามว่ามีข่าวใหม่อะไรไหม เพราะกลุ่มของเธอดูแลภารกิจให้นักล่าคนอื่นๆ ซึ่งก็มีข่าวใหม่จริงๆ มีชายคนหนึ่งมาถามถึงองค์กรที่นับถือเดอะฟูล
ไคลน์(พระเอก)คิดว่าคงเป็นเลโอนาร์ดที่ตามสืบข่าว แต่เมื่อเห็นภาพจากความทรงจำก็ตกใจ ผมดำนัยย์ตาดำสนิท สวมแว่นตาขาเดียว ชายที่ครั้งหนึ่งเคยสิ่งร่างเดอะซัน หมายจะเข้ามายังอาณาจักรเหนือหมอกสีเทา อามอน ผู้หยามหยันเทพเจ้า!
ไคลน์(พระเอก)ทั้งผิดคาดและไม่ได้ผิดคาดในเวลาเดียวกัน ด้วยกฎการรวมตัวของคุณลักษณะเหนือธรรมชาติ ที่นี่มีทั้งปู่เทวฑูตปรสิตในตัวเลโอนาร์ด และกึ่งเทพของเฮเซล ไม่ช้าก็เร็วอามอนต้องตามมาแน่ แต่ไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้และยังตามหาข่าวของเดอะฟูลอีก ในฐานะราชาเทวทูตอามอนต้องรู้แน่ว่าเดอะฟูลหมายถึงอะไร
ไคลน์(พระเอก)ถอนหายใจ ลากลุ่มแชร์รอน เมื่อกลับถึงบ้านเขาก็เขียนจกหมายเตือนเลโอนาร์ด และขึ้นไปเหนือหมอกเทาทำนายถึงอันตรายหากรับงานของแชร์รอน
ด้านเลโอนาร์ดที่ได้รับจดหมายเตือนก็อึ้งเป็นอย่างมาก และนี้เป็นครั้งแรกที่ปรสิตในตัวเขาเสียกิริยา คราแรกเขาไม่เขาใจถึงความน่ากลัวของของราชาเทวทูตเท่าไร แต่เมื่อฟังวิธีการของอามอนก็รู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาเหมือนกัน การแพร่ร่างแยกเหมือนโรคระบาด หากเจอ1ตัวก็แปลว่ามีแฝงอยู่นับร้อยที่เรามีรู้ การปล้นชิงโชคชะตาที่คนรู้จักทุกคนจะคิดว่าอามอนคือเรา ส่วนเราจะกลายเป็นคนไร้ตัวตนไปในที่สุด
แน่นอนว่ายังไม่มีวิธีจัดการรับมือได้ตอนนี้ ได้แต่รอดูสถานการณ์ไปก่อน
ไคลน์(พระเอก)ที่ยืนยันความอันตรายเหนือหมอกเทาเรียบร้อยแล้วก็ตอบตกลงร่วมมือกับกลุ่มของแชร์รอน เขาจัดการวางแผนให้คนทั้งคู่ ถ้าไม่มีหุ่นก็ต้องบงการคนให้เหมือนการกำกับการแสดง และแล้วเขาก็สามารถแย่งชิงมัมมี่ที่มีกึ่งเทพสี่ตนและสมบัติติดผนึกน่ากลัว2ชิ้นเฝ้าอยู่ ท่ามกลางความวุ่นวายระหว่างกลุ่มกุหลาบนิยมและทัพโลเอน!
แชร์รอนและมาริชขอบคุณไคลน์(พระเอก)และพาของไป ส่วนกลุ่มกุหลาบนิยมและทัพโลเอน ต่างก็หัวเสียและปรึกษากับคนของตัวเองอย่างเคร่งเครียดแม้จะไม่ได้เบาะแสใดๆก็ตาม
(จบเล่ม34)
Social Plugin