(สปอย์) ข้ามเวลามาเป็นผู้ชายของเขา เล่ม3

 [คำเตือน]


เนื้อหาโพสนี้คือการ สปอย์  ถ้าต้องการอ่านรีวิว *กด*

ต้องการอ่านสปอย์ เลื่อนลงได้เลย ♥





    (สปอย์) ข้ามเวลามาเป็นผู้ชายของเขา เล่ม3

    ถึงเทศกาลเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงหรือเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว ในแคว้นต้าเซี่ยถือเป็นเทศกาลสำคัญ ฉินเหมี่ยน(นายเอก)จึงจัดการมอบของขวัญ เพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการให้เป็นรางวัลเพิ่มขวัญกำลังใจ การปรากฏตัวต่อหน้าคนรับใช้อย่างเหมาะสม เป็นโอกาสดีในการเพิ่มความภักดีและเป็นการเตือนอย่างหนึ่งว่า อย่าใช้ไมตรีของเจ้านายไปกระทำตามใจชอบ

    วันที่พระจันทร์เต็มดวง พวกเขาบอกต่อคนรับใช้ว่าจะออกเดินทาง4-5วัน ตอนนั้นเองที่เหลยต้าเฉียง(พ่อของพระเอก)เข้ามาที่บ้านนา หลังพูดจาใหญ่โตวางอำนาจอยู่สักพักก็โดนเหลยเถี่ย(พระเอก)ไล่กลับไป ฉินเหมี่ยน(นายเอก)รังเกียจการวางตัวว่าตนเองเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของอีกฝ่ายมาก ถ้าไม่ใช่ปีนั้นเขาให้ท้ายตู้ซื่อละเลยลูกชาย เหลยเถี่ยจะต้องออกจากบ้านไปร่อนเร่ข้างนอกอย่างน่าเวทนาได้ยังไง ถูกอันธพาลทุบตีขโมยเงิน ต้องไปเป็นขอทานและรับจ้าง ทั้งสามีของนายจ้างก็มีนิสัยชอบทุบตี กลายเป็นบาดแผลเต็มตัวไปอีก

    หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทางเข้าไปในป่าลึก ข้ามเขาหลายลูกจนแน่ใจว่าจะไม่เจอคน จากนี้เหลยเถี่ยกำลังจะสอนเขาบำเพ็ญเพียรแล้ว! ตั้งแต่มีมิติลับติดตัวเขาก็รอคอยโชคชะตานี้มาตลอด ยิ่งได้รู้ว่าสามีเป็นผู้บำเพ็ญเพียรเขายิ่งดีใจ ในอดีตนั้นหลังเหลยเถี่ยร่อนเร่อยู่เป็นปี วันหนึ่งเขาก็เจอผู้อาวุโสช่วยเหลือ สอนให้ขารู้จักการบำเพ็ญตบะ จากนั้นก็หายตัวไปอย่างลึกลับ จากนั้นเหลยเถี่ยก็ได้ใช้ความแข็งแกร่งของตนเพื่อประเทศชาติ เหมือนสวรรค์ลิขิตโดยแท้

    การฝึกสร้างฐานครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ฉินเหมี่ยนเองก็นับว่ามีโชคกับด้านนี้อยู่แล้วตั้งแต่เจอแต้มขาว มีมิติลับ และทะลุมิติมาที่นี่ หลังจากฝึกเรียบร้อยแล้วพวกเขาก็ลงเขากลับบ้าน

    ฤดูเก็บเกี่ยวนั้นแสดงถึงแปลงนาสีทอง ถั่วลิสงและถั่วเหลืองอวบอิ่ม และหัวมันลูกใหญ่ ฉินเหมี่ยนวางแผนมือกลางวันของตนและเหลยเถี่ย ยังมีเมนูใหม่ของโรงสุราด้วย

    ช่วงนี้แดดจัดเป็นที่สุด แต่เมื่อเห็นว่าสามีออกไปดูงานที่แปลงนาเขาจึงหิ้วกล่องข้าวไป เหลยเถี่ยเห็นเขามาส่งข้าวก็นึกถึงช่วงแรกที่เจอกัน เวลาเปลี่ยนแต่คนไม่เปลี่ยนและดีขึ้นกว่าเดิมซะอีก หัวใจของเหลยเถี่ยมีความสุขมาก

    เหลยเซี่ยงเหริน(น้องรองของพระเอก)เข้ามาเสนอหน้าให้คนรำคาญอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ถูกฉินเหมี่ยนหลอกล่อจนไม่พอใจพ่อแม่ขึ้นมา อนาคตเขาจะต้องทำให้บ้านเก่าวุ่นวายขึ้นมาแน่นอน

    ช่วงนี้ฉินเหมี่ยนไม่ค่อยสบาย หมอหลายคนตรวจไม่พบสาเหตุ แต่คนรับใช้รู้สึกว่าอาการแบบนี้ราวกับคุณชายน้อยกำลังแพ้ท้องยังไงไม่รู้ เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนอาการจึงดีขึ้น

    ถึงเวลาขุดลอกแม่น้ำสายสำคัญของหมู่บ้านอีกครั้ง เหลยเถี่ยก็ลงมือด้วยตัวเองเป็นการแสดงออกว่าได้ดีแล้วไม่ลืมตน ฉินเหมี่ยนสงสารเขามากที่ต้องแช่อยู่ในแม่น้ำเย็นๆ จึงคอยต้มน้ำแกงมาส่ง ชาวบ้านอิจฉาจนชินแถมภรรยาของพวกเขาเองก็ไม่ยอมแพ้สะใภ้ชาย จึงทำมาส่งให้สามีเช่นกันแรงงานผู้ชายในหมู่บ้านมีความสุขมาก

    ทางบ้านเก่าภรรยาของเหลยเซี่ยงอี้(น้องสามของพระเอก)ท้องแล้ว เขาดีใจมาก ฉินเหมี่ยนเหลยเถี่ยเองก็เตรียมของไปบำรุงคนท้องที่บ้านเก่า ที่นั่นเหลยต้าเฉียงวางตัวเชิดหน้า ตู้ซื่อไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่นิด ของบำรุงครรภ์ก็กล้าแย่ง แต่เหลยเซี่ยงอี้ไม่อ่อนข้อให้อีกต่อไป เขาต้องปกป้องภรรยาและลูกสาวให้ได้

    ตอนนี้ปลาในบ่อของพวกเขาตัวอ้วนแล้ว เนื้อกำลังอร่อย พวกเขาจับขึ้นมาพร้อมจัดอาหารชุดปลาให้โรงสุรา พร้อมกันนั้นยังจัดเมนูสารพัดปลาให้บ้านตัวเองด้วย แถมในบ่อก็ไม่ได้เลี้ยงปลาอยู่ชนิดเดียวแต่มีหลายพันธ์ ทำอะไรก็ไม่น่าเบื่อ

    ตอนนี้ฉินเหมี่ยนสร้างเรือนกระจกออกมาปลูกผักนอกฤดูกาล ทดลองออกมาได้ไม่เลวเลย หน้าหนาวนี้ก็จะมีผักสดให้กินแล้ว

    บ้านเก่าต้องการจัดงานเลี้ยงฉลองที่เหลยเซี่ยงจื้อ(น้องห้าของพระเอก)สอบได้ซิ่วไฉ ภายใต้ข้อเสนอที่ระรานธุรกิจของบ้านฉินเหมี่ยน ก็ถูกเหลยเซี่ยงจื้อออกหน้าปฏิเสธทั้งหมด ฉินเหมี่ยนจึงตกลงออกเงินให้ก้อนหนึ่งอย่างเหมาะสม ขากลับเหลยเซี่ยงจื้อเดินมาส่งคนทั้งคู่ถึงบ้านนา เขามาปรึกษาถึงวิธีแยกบ้านของครอบครัว

    เขามีความฝันเป็นขุนนาง ไม่กลัวพ่อแม่ตามไปเสวยสุข แต่กลัวจะมีคนฉุดรั้ง นิสัยของครอบครัวพี่รอง อนาคตจะต้องก่อเรื่องแน่ เขาอยากจัดการให้เสร็จ ฉินเหมี่ยนชื่นชมและรับปากจะช่วยเหลือเขา

    เหลยเถี่ยขึ้นเขาไปล่าสัตว์ เขาพบว่าเจ้าแต้มขาว(หมาป่า)พยายามพาเขาไปหาหมีน้ำตาลขนทองที่บาดเจ็บตัวหนึ่ง สุดท้ายเขาก็เก็บหมีตัวนี้เข้ามิติ เมื่อกลับบ้านไปบอกภรรยา อีกฝ่ายชอบมากอย่างที่คิด สุดท้ายพวกเขาก็เลี้ยงมันและตั้งชื่อว่าขนทอง(หมี)

    หลังผ่านงานเลี้ยงฉลองซิ่วไฉ เหลยเซี่ยงจื้อก็เกลี่ยกล่อมเรื่องแยกบ้าน เขาสร้างภาพฝันให้ทั้งคู่ว่าเมื่อเขาเป็นขุนนาง ไปอาศัยอยู่ในเมืองพ่อแม่จะมีเงินใช้มากมายกว่านี้ แต่หากมีพี่น้องคนอื่นอยู่ด้วยย่อมไม่สดวก ตู้ซื่อและเหลยต้าเฉียงคิดไปถึงอนาคตที่จะมีลูกชายมาแย่งกินแย่งใช้ พวกเขาก็เห็นด้วยเรื่องแยกบ้าน

    เมื่อตกลงแล้วพี่น้องในบ้านก็รีบไปพาตัวหลี่เจิ้งและครอบครัวเหลยเถี่ยมา แน่นอนว่าเมื่อคนมาพร้อมเหลยต้าเฉียงก็พูดถึงเรื่องแยกบ้าน เหลยเซี่ยงเหริน(น้องรองของพระเอก)คัดค้านเป็นคนแรก เขาเกาะพ่อแม่พี่น้องกิน แยกบ้านแล้วจะให้ไปเกาะใครล่ะ ซึ่งเหลยเซี่ยงจื้อก็ชี้แจ้งว่าจะจ่ายร้อยเหลี่ยงเงินให้พวกเขา ถือเป็นค่าศึกษาเล่าเรียนของหลาน สามีภรรยาได้ยินแบบนั้นก็ดีใจจนตัวสั่น ยอมแยกบ้านในที่สุด

    เหลยต้าเฉียงตู้ซื่อไม่เห็นด้วยเพราะเสียดายเงินแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เว่ยซื่อมองออกว่านี่คงเป็นเงินที่ครอบครัวฉินเหมี่ยนสนับสนุนให้แยกบ้าน ไม่อย่างนั้นเด็กหนุ่มจะไปเอาเงินมาจากไหน

    หลังทำเอกสารแยกบ้านอย่างเป็นทางการ ครอบครัวเหลยเซี่ยงเหรินได้เงินแล้วก็เปลี่ยนสีหน้าทันที วางตัวสูงส่งไม่เห็นหัวผู้คนตรงนั้น เขารีบออกไปซื้อบ้านทันที

    ปลายเดือน10 ส้มหวานสุกแล้ว นำออกมาทำได้ทั้งของหวานของคาว และสามารถเก็บเกี่ยวได้ยาวไปถึงเดือน12

    เดือน11 ฤดูเก็บรากบัว กลายเป็นเมนูขวัญใจของชาวนักกินที่โรงสุราอย่างมาก

    เข้าเดือน12 ฉินเหมี่ยนนำผลไม้กระปุกที่ทำเก็บไว้ออกขาย เป็นสินค้าขายดีจำกัดจำนวน วางเมื่อไรก็หมดเมื่อนั้น เรือนกระจกของเขาออกผลผลิตชุดใหญ่แล้ว เมื่อรายการอาหารผักฤดูร้อนปรากฏในฤดูหนาวผู้คนก็ตะลึงกันไปทั้งอำเภอ

    แน่นอนว่าความพิเศษนี้ย่อมเรียกสายตาผู้ไม่หวังดีจำนวนหนึ่ง วันหนึ่งคุณชายเนี่ยเหิงกับคุณชายมู่ก็มาหา พวกเขาต้องการซื้อวิธีปลูกผักนอกฤดูกาล พร้อมให้คำสัญญาว่าจะจัดการพ่อค้าหรือนายทุนที่เข้ามาวุ่นวายบ้านนาแสนสุขให้ ฉินเหมี่ยนไม่ขาดเงิน แต่เขาชอบใช้ชีวิตอย่างสงบสุข จึงตกลงขายวิธีปลูกผักแบบนี้ให้ แน่นอนว่าราคาจัดเต็มไม่มีคำว่าลดให้สหาย

    ฝั่งบ้านเก่านั้นเมื่อแยกบ้านก็มีเรื่องราวมากมาย เช่นบ้านรองสร้างบ้านใหญ่โตซื้อข้าวของหรูหรา วางตัวไม่เห็นหัวผู้คน ส่วนบ้านสามบ้านสี่อยู่อย่างสงบและพอเพียง วันนี้บ้านสี่กำลังจะหมั้นหมายแล้ว

    วันสิ้นปีตกแต่งบ้านสวยงามจัดอาหารมื้อใหญ่ ครอบครัวฉินเหมี่ยนเหลยเถี่ยพร้อมด้วยแต้มขาว(หมาป่า)และขนทอง(หมี) ฉลองกันอย่างมีความสุข

    วันที่1เดือน1 กลับไปเยี่ยมบ้านเก่า ครอบครัวรองแต่งตัวเหมือนเศรษฐีใหม่มาเยี่ยมบ้าน เรียกความเกลียดชังจากตู้ซื่อได้เห็นอย่างดี บ้านเก่าไม่สงบสุขไปอีกวัน ทั้งเวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเว่ยซื่อ(แม่เลี้ยงคนที่2)ก็จะคลอดออกมา พวกเขาก็จัดเตรียมของขวัญไว้

    วันที่2เดือน1 เยี่ยมเพื่อนบ้านที่สนิทและส่งของขวัญให้ท่านตาท่านยาย ตั้งแต่ปีที่แล้วมา2บ้านถือว่าคบหากันได้ดีทีเดียว

    วันที่3เดือน1 พวกเขาเอาของขวัญไปอวยพรลูกของเว่ยซื่อ(แม่เลี้ยงคนที่2) แต่เหลยต้าเฉียงกับตู้ซื่อกับคิดว่าของน้อยเกินไป วันต่อมาแพร่ข่าวไปทั่วหมู่บ้านว่าเหลยเถี่ยได้ดีแล้วเนรคุณ ฉินเหมี่ยนจึงใช้ยาแรงเผยแพร่พฤติกรรมที่น่ารังเกียจของอีกฝ่าย ผู้คนเห็นใจเหลยเถี่ยเป็นอย่างมาก เหลยต้าเฉียงกับตู้ซื่อโดนด่าจนไม่กล้าออกจากบ้านไปหลายวัน

    ช่วงวันหยุดปีใหม่นี้พวกเขาเข้าตัวเมืองไปเที่ยวเล่น ได้ซื้อของกินของใช้ไม่น้อย ทั้งยังเป็นการเดตที่ตื่นเต้นมาก

    ต้นเดือนสามอากาศอบอุ่นขึ้น ฉินเหมี่ยนลงมือปลูกองุ่นผืนใหญ่ จากนั้นเขาก็เริ่มจัดการหลายๆอย่างทั้งโรงสุรา ร้านใหม่ในเมือง เรื่องจิปาถะของคนรับใช้ ให้เรียบร้อย หมายจะกลับมาเก็บตัว ช่วงนี้เขามีลางสังหรณ์ว่าดอกตูม2ดอกนั้นกำลังจะบานแล้ว แต่แล้วฉินเหมี่ยนก็โดนตู้ซื่อยั่วโมโหจนปราณภายในปั่นป่วนดูเหมือนจะเกิดเรื่องในมิติลับ

    เหลยเถี่ยโกรธตู้ซื่อมาก เขาสกัดจุดใบ้อีกฝ่ายและรีบพาคนรักกลับบ้าน เมื่อเข้ามิติลับก็พบว่าดอกไม้บานออกมาเป็นทารก2คน และทั้งคู่ดูเหมือนเขากับฉินเหมี่ยนมาก ตอนนี้พวกเขามีทายาทแล้ว

    หลังจากที่พาเด็กกลับบ้าน พวกเขาก็ประกาศเรื่องนี้ออกไปพร้อมกับฉลองวันมงคล พวกเขาทั้งสองช่วยกันเลี้ยงโดยไม่จ้างแม่นม โชคดีที่เด็กๆเลี้ยงง่ายมาก เด็กๆได้ชื่อว่าฉินรุ่ยฉี(แฝดพี่) กับ เหลยรุ่ยหลิน(แฝดน้อง) ตัวรุ่ยที่แปลว่าเฉียบแหลมกล้าหาญ อักษรสุดท้ายมาจาก ฉีหลิน(กิเลน)

    และมีชื่อเล่นว่า หยวนหยวน หมานหม่าน

    เมื่อประกาศเรื่องของลูกชายออกไปแล้วย่อมเป็นที่อยากรู้ของชาวบ้านถึงแม่เด็ก แต่พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเชิญน้องชายน้องสาวจากบ้านเก่ามาเจอเด็ก และเชิญท่านตาท่านยามาพบหลานด้วย ผู้อาวุโสดีใจมาก ถึงแม้จะทำใจไว้อยู่แล้ว แต่การมีทายาทย่อมดีกว่า ที่จริงแล้วท่านยายสับสนอยู่มาก แต่ท่านตาคิดว่ามีสายเลือดของหลานชายอยู่ครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นเขาไม่สนใจ
เวลาผ่านไปครบเดือน ได้เวลาจัดงานให้เด็กๆแล้ว 

    ผู้คนที่สนิทกับครอบครัวฉินเหมี่ยนต่างก็มาอวยพรกันอย่างยิ้มแย้ม แม้แต่คุณชายเนี่ยเหิงคุณชายมู่ที่อยู่ไกลก็มาด้วย งานเลี้ยงที่จัดนั้นยิ่งใหญ่มาก หลังมีลูกแล้วแผนการทำเงินของเขาก็เปลี่ยนไป เพราะต้องการทุ่มเทให้ทางนี้มากกว่า ดังนั้นเขาจึงขายผลไม้ส่วนใหญ่ให้เนี่ยเหิงลดจำนวนงาน แม้แต่ร้านใหม่ก็เลื่อนไปไม่มีกำหนด

    ลูกชายของพวกเขานั้นแข็งแรงมาก ผ่านไปสี่เดือนเท่านั้นก็สามารถคลาน พลิกตัว จนถึงขนาดนั่งได้แล้ว พวกเขามีดวงตากลมโต แก้มขาวจ่ำม่ำ ดูนุ่มนิ่มไปทั้งตัว ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องหลงรับซาลาเปาสองก้อนนี้ ยวนหยวน (ฉินรุ่ยฉี/แฝดพี่)นิสัยเหมือนเหลยเถี่ย ส่วนหมานหม่าน(เหลยรุ่ยหลิน/แฝดน้อง)เหมือนฉินเหมี่ยน

    และเพราะเวลานี้มีลูกชายแล้ว พวกเขาย่อมต้องคิดไปถึงการศึกษาของลูกในอนาคต เรื่องเข้าเมืองหรือสอบขุนนางนั้นคงต้องดูตอนเด็กๆโต แต่ถ้าช่วงอนุบาลก็ควรมีสถานศึกษาใกล้บ้านให้พวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไปหาหลี่เจิ้ง สนันสนุนให้มีสถานศึกษาให้เด็กๆทุกคนในหมูบ้าน หากอนาคตอ่านออกเขียนได้ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ พวกเขาออกทุนจำนวนหนึ่ง ส่วนด้านสถานที่หลี่เจิ้งจัดการ และสุดท้ายนี้ก็ให้เหลยเซี่ยงจื้อ(น้องห้า)เชิญอาจารย์มมาสอนที่หมูบ้าน

    จ้าวซื่อฟา(อันธพาลที่เคยบุกบ้านนาแสนสุข) อิจฉาชีวิตดีๆของคนอื่น เขาจึงหมายจะเผาแปลงข้าวของเหลยเถี่ย แต่ทางนี้เตรียมป้องกันไว้แล้ว ครั้งนี้เขาจึงถูกส่งตัวเข้าคุกในเมือง

    วันเวลาผ่านไป ได้เวลาจัดงานเลี้ยงครบปีให้เด็กๆแล้ว กินบะหมี่อายุยืน เริ่มพิธีเสี่ยงทาย ฉินเหมี่ยนเหลยเถี่ยนำของต่างๆมาวางให้เด็กๆเลือก ครบคลุมทุกอาชีพ เด็กทั้งคู่สนใจของทุกอย่างมาก หยิบขึ้นวางลงจนครบทุกชิ้นก่อนที่จะเลือกได้ คนพี่เลือกดาบไม้ คนน้องเลือกตราประทับ นับว่าพร้อมทั้งบุ๋นบู้ ตลอดทั้งงานแฝดคู่นี้ร่าเริงสอนง่าย ไม่งอแงแม้แต่นิดเดียว ทำให้ทุกคนอิจฉาสุดๆ

    แน่นอนว่านั้นเป็นแค่สายตาคนภายนอก ตั้งแต่เด็กๆเดินได้นั้นก็ซุกซน ช่างอยากรู้อยากเห็น หยิบอะไรก็เอาเข้าปากหมด พ่อพ่อทั้งสองต่างค่อยดูแลระวัดระวังปีศาจน้อยกันเต็มที่ เหนื่อยจนเหงื่อเต็มหน้าเลยทีเดียว แต่ลูกชายแข็งแรงแบบนี้พวกเขาก็ดีใจ

    ด้านเหลยชุนเถา(น้องหก)ถูกพ่อแม่บังคับหมายจะให้นางแต่งกับชายร่ำรวย นางอยากปฏิเสธแต่ก็ขัดพ่อแม่ไม่ได้จึงร้อนใจมาก ดีที่ฉินเหมี่ยนและเหลยเซี่ยงจื้อช่วยเหลือจึงรอดตัวมาได้ เวลาต่อมาจึงได้แต่งกับสหายของเหลยเซี่ยงจื้อ

    ส่วนเหลยเซี่ยงจื้อเองก็มีกำหนดแต่งกับลูกสาวของอาจารย์ท่านหนึ่ง ที่จริงบ้านฝ่ายหญิงไม่ชอบพ่อแม่ฝ่ายชายเท่าไร แต่เหลยเซี่ยงจื้อเป็นตัวเลือกลูกเขยที่ดีมาก เมื่อถามลูกสาวแล้วก็คิดว่าสายแข็งอย่างนางเอาพ่อแม่ฝ่ายชายอยู่ จึงยอมให้แต่งออกไป เมื่อฉินเหมี่ยนได้เจอน้องสะใภ้คนนี้ก็คิดว่านางแข็งแกร่งดุดัน บ้านเก่าถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้งแล้ว

    2ปีต่อมา เด็กๆ3ขวบแล้ว พูดจาคล่องแคล่ว จดจำสิ่งต่างๆตั้งแต่การคำนวณ บทกลอนในหนังสือ ไปจนถึงฝึกวิทยายุทธชพื้นฐานได้ดี มักทำตัวเป็นผู้ใหญ่ตัวน้อย ดูแล้วน่ารักน่าชัง เด็กๆโตพอให้ออกเดินทางไกลแล้ว พวกเขาจึงวางแผนไปเที่ยวเมืองหลวง

    เขาจัดเตรียมกิจการให้เรียบร้อย ไปกลับครั้งนี้เร็วที่สุดก็สองเดือน ข่าวการไปเที่ยวของพวกเขาลือออกไปรวดเร็ว เหลยเซี่ยงจื้อและสหายจะออกไปสอบใหญ่ที่เมืองหลวง พวกเขาจึงขอติดขบวนไปด้วย ระหว่างเดินทางบ้านฉินเหมี่ยนไม่ลำบากแม้แต่น้อย รถม้าของเขาผลิตขึ้นมาพิเศษ ขนาดกว้างบุนวมหนาและมีเตียง รวมไปถึงอาหารต่างๆที่ทำเตรียมไว้ในมิติลับ ถึงเวลาก็หยิบออกมาได้

    ระหว่างเดินทางเมื่อถึงจุดอันตรายที่มีการปล้นชิงบ่อยครั้ง พวกเขาก็เจอโจรจริงๆ แต่เหลยเถี่ยและผู้คุ้มกันสามารถไล่โจรออกไปได้ แต่ครู่หนึ่งกลุ่มพ่อค้าที่หลบอยู่ด้านหลังพวกเขามาตลอดก็ออกเดินทางต่อไปอย่างรวดเร็ว ยื่มมือพวกเขาเปิดทางโดยไม่เสียแรง ในขบวนนั้นพวกเขาได้เจอชายคนหนึ่งที่เหมือนฉินเหมี่ยนมากแต่ดูโตกว่าเล็กน้อย ทั้งตอนที่ไปโรงเตี้ยม หรือตอนเข้าเมืองหลวงล้วนเห็นคนๆนี้ ตอนแรกเขาคิดว่าคงมีความเกี่ยวข้องกับร่างนี้แต่จนแล้วจนรอด อีกฝ่ายก็ไม่ได้เข้ามาทักทาย

    เมื่อเข้าเมืองหลวงมาแล้วพวกเขาก็เที่ยวเล่นสนุกสนาน ซื้อของเล่นและของกินมากมาย ฉินเหมี่ยนสามารถทำของกินของเล่นแปลกใหม่ได้ก็จริง แต่เมืองหลวงคึกคักมาก ร้านร่วงต่างๆเปิดเรียงแถวยาวสุดสายตา นอกจากนั้นพวกเขายังไปเล่นว่าวและอีกหลายอย่างเป็นประสบการณ์ที่มีชีวิตชีวามาก

    คืนนั้นเหลยเถี่ยพาฉินเหมี่ยนไปเยี่ยมชมวังหลวง และได้เห็นฮ่องเต้ระยะไกล สำหรับคนปัจจุบันที่ทะลุมิติอย่างเขา นี่เป็นประสบการณ์ที่เกินบรรยาย แวบหนึ่งที่ฮ่องเต้หันมามองนอกหน้าต่าง ทำให้ฉินเหมี่ยนตกใจมากกลัวจะถูกพบ

    ฝั่งการสอบนั้นผ่านไปด้วยดี แต่เมื่อสอบเสร็จกลับโดนคนวางยาพิษ ฉินเหมี่ยนที่ตอนนี้บำเพ็ญเพียรมาหลายปีแล้ว ก็สามารถตรวจโรคปรุงยาได้ ชายหนุ่มทั้งหลายจึงรอดไป

    จากนั้นฉินเหมี่ยนก็ต้อองรีบกลับก่อนเวลา เพราะอยู่ๆก็มีพ่อครัวจากทั่วสารทิศมาหาเรื่องโรงสุราของเขา ฉินเหมี่ยนจึงจัดงานประลองขึ้นโดยมีพ่อหลวงจากวังหลวงเป็นกรรมการ แน่นอนว่าผ่านไปด้วยดี กลางสายตานับถือของทุกคน

    ช่วงนี้เหลยเซี่ยงเหริน(น้องรอง)คงว่างจัดไม่มีอะไรทำอีกแล้ว เขาก่อข่าวลือว่า เหลยเถี่ยไร้น้ำใจต่อพี่น้อง โรงงานต่างๆของบ้านนาแสนสุขล้วนจ้างชาวบ้าน แต่กลับไม่ให้พี่น้องเข้ามาดูแล และดูเหมือนน้องสามน้องสี่จะเผลอเป็นไปด้วย

    เหลยเถี่ยให้คนไปบอกว่า ถ้าอยากสร้างร้านของตัวเองเขาจะให้ยื้มเงิน เหลยเซี่ยงอี้เหลยเซี่ยงหลี่เข้าใจทันที เดิมพวกเขาน้อยใจอยู่บ้างที่สู้คนนอกไม่ได้ แต่สายตาของฉินเหมี่ยนเหลยเถี่ยนั้นมองว่า ถ้าพี่น้องเข้ามาทำงาน แล้วต่อไปจะให้มองว่าเป็นพี่น้องหรือคนงานล่ะ แบ่งแยกชัดเจนสมกับเป็นทั้งคู่ ดังนั้นพวกเขาก็ปล่อยวาง

    เหลยเซี่ยงอี้เลี้ยงเป็ด เหลยเซี่ยงหลี่เปิดร้านขายของชำ กิจการทั้งคู่ไปได้ดีเลี้ยงครอบครัวได้

    เวลานี้ผลสอบของเหลยเซี่ยงจื้อ(น้องห้า)ออกมาแล้ว ได้ทั่นฮวา(ที่3) ทำงานอยู่เมืองหลวง มีโอกาสก้าวหน้าดีมาก ก่อนจะไปเหลยต้าเฉียงกับตู้ซื่อยังไม่วายมาหาเรื่องกวนใจ ซึ่งก็เป็นเรื่องเดิมอย่างการขอเงิน เมื่อคนไม่ออกไปก็ยืนด่าโวยวายหน้าปะตู แต่ก็ถูกคนรับใช้สวนกลับแบบเชือดนิ่ม กลายเป็นเรื่องตลกของชาวบ้านไป หลังพวกเขาย้ายออกหมู่บ้านก็สงบขึ้นมาก

    เหลยเซี่ยงเหริน(น้องรอง)หงุดหงิดมากที่ไม่สามารถกอบโกยผลประโยชน์อะไรได้เลย จากนั้นเขาก็พบว่าเงินที่ได้มาตอนแยกบ้านใช้หมดแล้ว จึงทำเรื่องผิดกฎหมายแล้วโดนจับเข้าคุก สะใภ้รองแท้งและขาดใจตาย

    นับตั้งแต่มีโรงสุราของฉินเหมี่ยนก็ทำให้เมืองนี้รุ่งเรืองขึ้นมาก มีร้านน้อยใหญ่เกิดขึ้นตามถนนที่จะไปโรงสุรา กลายเป็นเส้นทางความเจริญของจริง วันหนึ่งฉินเหมี่ยนก็เสนอกับหลี่เจิ้งเรื่องซ่อมถนนของหมู่บ้าน หากทำแล้วจะมีประโยชน์มากมายกับหมู่บ้านแห่งนี้ แต่ที่ผ่านมาล้วนไม่มีเงิน ดังนั้นเขากับเหลยเถี่ยจะช่วยสนับสนุนเอง หลี่เจิ้นและชาวบ้านซึ้งใจอย่างมาก นี้เป็นประโยชน์กับทุกคนในหมูบ้าน ต่อไปจะมีแต่ความเจริญเข้ามา

    หลังซ่อมถนนเสร็จฉินเหมี่ยนก็ซื้อภูเขาทั้งลูกทำบ้านพักต่างอากาศ เขาปรับปรุงหมู่บ้านให้สวยงาม มีกำแพงล้อมด้วยดอกไม้ ถนนไม่มีโคลนหรือมูลสัตว์ ดอกไม้หลากสีสันที่แต่ละบ้านจะปลูกนั้นเขาก็ออกแบบการจัดวางมาให้แล้ว ที่นาเองปรับเปลี่ยนมาปลูกผลไม้ที่จะออกดอกสวยงามและให้ผลเต็มต้น แน่นอนว่าคำนวณเวลาออกดอกของแต่ล่ะชนิดมาแล้ว จากนี้ทุกฤดูหมู่บ้านจะเต็มไปด้วยดอกไม้และทิวทัศน์ใหม่ที่ต่างกันไปในแต่ล่ะฤดู มองจากในหมู่บ้านก็สวยงาม มองจากบนเขายิ่งแย้มพราย ทุกอย่างไม่ต่างจากสวรรค์บนดิน

    และนับจากนี้หมู่บ้านก็มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆในฐานะสถานที่ท่องเที่ยว เงินนอกไหลเข้าหมู่บ้าน ชาวบ้านก็ร่ำรวยขึ้น

    วันหนึ่งเหลยเซี่ยงจื้อ(น้องห้า)ก็พากองทัพเข้ามา กลางสายตามุมดูของชาวบ้าน นายทหารที่เป็นผู้นำวิ่งเข้ามาหยุดตรงหน้าเหลยเถี่ย แล้วบอกว่า ขอคารวะท่านแม่ทัพใหญ่

    (จบเล่ม3)


Ad Code

Responsive Advertisement