(สปอย์) ผมเก็บคุณชายตกอับได้หนึ่งคนครับ 2เล่มจบ

 [คำเตือน]


เนื้อหาโพสนี้คือการ สปอย์  ถ้าต้องการอ่านรีวิว *กด*

ต้องการอ่านสปอย์ เลื่อนลงได้เลย ♥


    (สปอย์) ผมเก็บคุณชายตกอับได้หนึ่งคนครับ 2เล่มจบ

    ลู่เหยียนเป็นนักดนตรีคนหนึ่ง เขาอาศัยอยู่ในตึก6ที่เก่าซ่อมซ่อมาก นอกจากถูกก็ไม่มีข้อดีอื่น ช่วงนี้เจ้าของกำลังจัดการรื้อถอนตึกอยู่ พวกเขาทุบตึก7ข้างๆไปแล้ว วันนี้จะพาคนมาตัดน้ำตัดไฟ ไล่คนออก แล้วรื้ออาคาร หลังจากที่แต่งเพลงซ้อมกีตาร์เสร็จ เขาก็จะออกไปหาพี่สาวบ้านตรงข้าม กลับพบผู้ชายยืนอยู่ เพราะคิดว่าเป็นเจ้าของมาไล่ที่จึงจัดการอัดซะติดกำแพง ก่อนพบว่า เหมือนจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะตอนนี้ล่างตึก คนของบริษัทรื้อถอนพาคนมามายมาย หมายมาดว่าวันนี้ต้องไล่ให้ได้

    ลู่เหยียนกับผู้อยู่อาศัยคนอื่นร่วมมือกันจัดการจนคนของคนของบริษัทรื้อถอนร่วงไปกับพื้น ก่อนจะได้รู้ว่า คุณชายที่ดูไฮโซคนนั้นไม่ใช่เจ้าของตึก และตนอัดผิดคนจริงๆ โดยตอนนี้คุณชายไฮโซที่เจ็บไปทั้งตัวก็ขับรถออกไปแล้ว เขาจึงยืมรถของพี่ร่วมตึกขับตามออกไป

    คุณชายไฮโซที่โดนอัดคนนั้นคือ เซียวหัง เขาตามหาคนจนมาถึงที่นี่ เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอทิ้งเด็กคนหนึ่งไว้ที่ตระกูลเซียว แม้ว่าพ่อของเขาจะไม่ต้องการเด็กคนนี้ก็ตาม แน่นอนว่าวันนี้คงเป็นวันซวย คนหาไม่เจอ โดนอัดเพราะเข้าใจผิด แถมรถก็มาเสียกลางทางด้วย

    ระหว่างนั้นมีพวกต้มตุ้นมาหลอกหลวงเขา แต่ก็ถูกชายแปลกหน้าที่พึงอัดเขามาหยุดไว้

    ลู่เหยียนตามพวกเขาทันแล้ว ก่อนจะบอกขอโทษอย่างจริงใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่รับคำขอโทษ เขาก็ไม่ได้ซีเรียสและขับรถกลับ คืนนี้เขาควรจะไปทำงานเหมือนเดิม กลับพบว่าวงดนตรีของเขาล่มแล้ว วงแตก เด็ก2คนขอตัวไปตามทางของตน วงจะไม่มีมือเบสกับกีต้าร์อีกต่อไป สุดท้ายพวกเขา4คนก็กินเหล้าเลี้ยงส่งท้าย

    สุดท้ายเขาก็ถูกเรื่องนี้น็อคเอ๊าต์จนไม่เป็นอันทำอะไรไป2วัน เมื่อลุกขึ้นมาได้ ก็ได้ยินเสียงเอะอะจากห้องตรงข้าม มีผู้หญิงมาทุบประตูโวยวายว่าถูกแย่งสามีกับคนในห้อง ไม่นานห้องก็ถูกเปิดออก เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่มองก็เห็นชัดว่าเธอทำงานขายร่างกาย เธอตอบกลับอย่างไม่แยแสแล้วปิดประตู

    ตอนนี้วงแตกแล้ว ต้องหางานทำไปก่อนรอสมาชิกใหม่ เขาทำงานเข้าเรียนเช็คชื่อแทนนักศึกษาเซียวหัง โดยที่น้องชายของคนๆนี้เป็นคนติดต่อเข้ามา และการเข้าเรียนแทนนี้ ลู่เหยียนเซียวหังจึงได้แชทคุยกันโดยไม่เห็นหน้า ตอนอยู่มหาลัยเขาก็พบคนมีพรสวรรค์เล่นเบสได้ดีจึงอยากจะชวนมาทำวง แต่เวลาแนะนำตัวกลับบอกว่าตัวเองชื่อเซียวหัง ดังนั้นจึงเกิดเรื่องเข้าใจผิดขึ้น

    ด้านเซียวหังเขากำลังเลี้ยงน้องต่างมารดา ที่อายุห่างกับตัวเองหลายสิบปี เขาส่งคนไปเข้าเรียนแทน กลับกลายเป็นว่าได้ชื่อเสียงรุ่นพี่ขี้หลี่ พยามตามตื้อคนอื่นชั่วพริบตา แถมยังรู้กันไปทั้งมหาลัยเลยด้วย ในที่สุดเขาก็ต้องไปจัดการเรื่องวุ่นวายด้วยตัวเอง

    กว่าลู่เหยียนจะรู้ตัว ก็เป็นตอนที่เซียวหังตัวจริงกับเพื่อนของเขามาหานั้นแหละ ตอนโดนทักเขายังแนะนำตัวเองว่าชื่อเซียวหังต่อหน้าตัวจริงอยู่เลย หลังจัดการเคลียร์เรื่องเข้าใจผิดเขาก็กลับบ้าน อาจจะเพื่อเป็นการผูกมิตร(ที่เดิมไม่มี ตอนนี้ติดลบ)เขาจึงบอกเรื่องของ ผู้หญิงห้องตรงข้ามที่อีกฝ่ายเคยมาหา

    ครั้งนี้เซียวหังตอบกลับแล้ว เขามาที่ชุมชนนี้อีกครั้ง แต่ที่พิเศษกว่าเดิมคือเขาพาทารกน้อยมาด้วย ลู่เหยียนมองคุณชายเย็นชาที่ตัวเองเคยพบกับท่าทางอ่อนโยนนั้นแล้วรู้สึกแปลกตา เนื่องจากหญิงสาวยังไม่กลับ พวกเขาจึงต้องรอกกันอยู่ในห้องของลู่เหยียน ซึ่งลู่เหยียนเป็นที่ชื่นชอบของเด็กไม่น้อย กล่อมจนเขาหลับไป

    หลังจากนั้น หญิงสาวก็กลับมา เซียวหังเข้าไปหา แต่เธอปฏิเสธว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของตัวเองอย่างเย็นชา เซียวหังตามหาผู้หญิงคนนี้อย่างยากเย็น เธอทำงานอยู่หลายร้าน และเปลี่ยนชื่อทุกร้าน เขาไปหลายที่กว่าจะได้ที่อยู่นี่มา แต่กลับได้คำตอบว่า เธอได้เงินแล้ว และคุยพ่อเด็กเคลียร์แล้ว จากนั้นก็เข้าห้องไป

    ลู่เหยียนถอนใจ บอกว่าจะไม่เอาก็ไม่เอา จากนั้นพวกเขาก็กลับห้องไปจัดการชงนมให้เด็กที่ร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ เขามองพี่ชายเด็กที่ทำหน้าไม่ยินยอม แต่มือไม้คล่องแคล่ว หลังจากแนะนำตัวกันดีๆอีกครั้งพวกเขาก็แยกย้ายกัน

    เซียวหังที่กลับบ้านมาโดนพ่อด่าเพราะไม่พอใจ บอกว่าเขาเป็นขยะที่น่าอับอาย เขามองสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์นั้นแล้วก็เยาะเย้ยออกมา ใครจะดีเหมือนพ่อได้ แม้แต่ลูกก็ทำออกมาเล่นๆ ว่าจบเขาก็โดนตบหน้าไปฉากใหญ่ ถึงจะเป็นแบบนี้ ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเขาก็ต้องตามพ่อแม่ไปงานเลี้ยงเพื่อธุรกิจ

    เซียวหังมองแม่ที่ไม่ได้เจอหน้ามาครึ่งปี ควงแขนพ่ออยิ้มแย้มให้นักข่าวถ่ายรูป ผู้คนพากัน    ชื่นชมว่าผ่านมาหลายปียังรักกันดีอยู่ ฟังดูน่าขยะแขยงจนเขาเดินออกจากงาน ขณะเดียวกันลู่เหยียนก็ติดต่อมา เขาตามหาสาวห้องตรงข้ามจนรู้ว่าเธอมาไนต์คลับ ให้เซียวหังตามาด้วย ระหว่างทางเกิดปัญหาไม่น้อย พวกเขารู้สึกว่าตัวเองดวงไม่สมพงค์กัน

    เมื่อมาถึงก็เห็นว่าเธอกำลังจะโดนพวกทวงหนี้ทำร้าย เซียวหังจะเข้าไปช่วย แต่ลู่เหยียนวิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อพบว่าเพื่อนรวมทีมไม่ได้ตามมาเขาก็หันกลับไปด่า เขาอาศัยอยู่ในย่านที่โหดร้ายวุ่นวาย รู้ดีว่ากำลังใจและมิตรภาพมันเอาชนะไม่ได้หรอก แต่เซียวหังที่โดนทิ้งถึงจะอึ้งสุดขีดแต่เขาก็ไม่ถออย ไปบู้กับกลุ่มทวงหนี้

    ลู่เหยียนแอบดูอยู่ไกลๆอย่างลังเล เห็นหันไปถังขยะแบบเข็น จากนั้นก็ใช่มันพุ่งตัวเข้าไปในความวุ่นวาย หลังจัดการคนจนหมอบ ถามยอดหนี้ คุณชายเซียวก็จัดการรูดบัตรใช่หนี้ให้เรียบร้อย คนท้วงนี้ก็สมเป็นมืออาชีพ เครื่องรูดบัตร ตราปั้มบริษัท แม้แต่เอกสารทั้งหมดก็จัดการได้ตรงนั้นเลย

    วันต่อมาเมื่อเธอ เห็นเอกสารปลดหนี้แล้วก็ร้องไห้ออกมา ตัวเธอเองก็ไม่ได้อยากกจะเป็นแบบนี้ จากสาวโรงงานที่โดนหลอกลวง ถูกผลักมาจนถึงจุดนี้ ในที่สุดเธอก็บอกว่าอยากเจอลูกของตนเองแล้ว

    เซียวหังพาเด็กมาให้ เธอขอบคุณพวกเขาทั้งคู่ และย้ายออกไปจากเมืองนี้ เซียวหังกลับบ้าน พ่อโกรธเขาจนอยากฉีกเป็นชิ้นๆ ย้ำด้วยความเกรี้ยวกราดว่า เขาเป็นเครื่องมือของ2ตระกูล เครื่องมือต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดี ไม่อย่างนั้นมันก็เป็นแค่ขยะ เสียงด่ายังดำเนินต่อไป และทวงบุญคุณที่เลี้ยงดู ว่าโตมาด้วยเงินใคร

    จากนั้นทุกอย่างก็หยุดลง เซียวหังถอดของมีค่าทุกอย่างลงทีละชิ้นต่อหน้าคนที่เขาเรียกว่าพ่อแม่ กุญแจบ้าน กุญแจรถ นาฬิกาหรู และกระเป๋าเงินที่เต็มไปด้วยบัตรเครดิต จากนั้นก็เดินออกจากบ้านไป

    กลางฝนที่เริ่มโปรยปราย ลู่เหยียนที่ช่วยเพื่อนบ้านคนอื่นๆเก็บผ้าก็หันไปเห็นเงาร่างของคนๆหนึ่ง นั่งตากฝนอยู่ริมตึกอย่างหงอยเหงา เขาเข้าไปทักและพยายามพูดคุยด้วย ในที่สุดคนที่นั่งอยู่ก็มีปฏิกิริยาตอบกลับ ลุกขึ้นมาพิงตัวเขา

    วินาทีที่เซียวหังหันหลังให้พ่อแม่ สิ่งที่ได้กลับมาไม่ใช่ความห่วงใยแต่เป็นการสาปส่ง อีกฝ่ายกล่าวว่าแน่จริงก็ไปเลย แล้วจะรู้ว่านอกจากสิ่งที่ที่บ้านมอบให้ เขาไม่มีอะไร และทำอะไรเองไม่ได้ทั้งนั้น

    สุดท้ายลู่เหยียนก็ต้องพาคุณชายขึ้นมาบนตึก เมื่ออีกฝ่ายบอกว่าเขาไม่มีที่ไปก็เสนอห้องของตัวเอง จากนั้นพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนบ้านกัน เซียวหังย้ายเข้าไปในห้องตรงข้ามที่คนพึ่งย้ายออกไป

    หลังมาเป็นเพื่อนบ้านกัน เซียวหังก็ได้รู้สึกถึงชีวิตจริงๆ เพื่อหาเงินเขาไปเป็นพนักงานร้านเน็ตที่วันๆหนึ่งคอมเสียเป็นสิบเครื่อง ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นเขาซ่อม และได้สัมผัสถึงวงของลู่เหยียน แม้จะวงแตกมาหลายเดือนแล้วก็ยังไม่หยุดความพยายามหาคนเพื่อฟอร์มทีมอีกครั้ง

    วันนี้เซียวหังโดนเรียกออกไปจับโจร เพราะลู่เหยียนและพี่เว่ย(เพื่อนบ้าน) สนใจเงินรางวัลหลักแสน ซึ่งในที่สุดก็จับคนร้ายได้ แต่สุดท้ายพี่เวยก็บริจาคเงินไป

    หลังจากนั้นสักพักเพื่อนของเขาก็มาหา หลังจากโดนถามว่าวางแผนยังไงต่อไป เขาก็ตอบกลับไปว่า คำดูถูกที่พ่อเขาพูดออกมาก็ไม่ผิด เขาทำอะไรไม่ได้ และไม่รู้จะทำอะไรต่อไป ตอนนี้ก็เหมือนอยู่ไปวันๆเท่านั้น

    พี่เว่ยจัดงานเลี้ยงเล็กๆขึ้น ฉลองที่เขาได้ทำตามฝันวันเยาว์ที่อยากเป็นตำรวจจับผู้ร้ายได้สำเร็จ และฉลองที่เซียวหังเข้ามาเป็นเพื่อนบ้านใหม่ด้วย หลังลู่เหยียนเมาก็เริ่มถามคนข้างตัวว่าออกจากบ้านมาทำไมเหรอ ทำให้เซียวหังนึกถึงอดีต เขาที่ยังเด็กเคยมีความเชื่อจริงๆว่าแม่ของตนงานยุ่งมากจนไม่มีเวลา เขามักจะโดนพ่อกดดันและเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเสมอ ครั้งหนึ่งที่ทนไม่ไหว เขาพยายามโทรหาแม่ครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็โทรติด เขาในเวลานั้นแค่ได้ยินเสียงของเธอก็รู้สึกเหมือนได้รับการปลอบประโลมแล้ว แต่เพียงครู่เดียวก็ได้รู้ถึงความจริงที่โหดร้าย

    เขาเป็นแค่สัญลักษณ์เกี่ยวดองของ2ตระกูล แม่ของเขามีครอบครัวจริงๆอยู่ข้างนอก เธอรู้สึกว่าคนรักตัวจริงและลูกที่เธอรักไม่ได้รับความยุติธรรมที่ต้องปกปิดตัวเองแบบนี้ แต่ทุกอย่างก็เพื่อธุรกิจ ดังนั้นขอให้เขาที่ได้มีชีวิตดีๆแบบนี้หยุดทะเลาะกับพ่อตัวเองซะ

    ความหวังวัยเยาว์ของเขาก็สลายลงไปแบบนี้เอง

    ลู่เหยียนเห็นเขาเศร้าใจจึงเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง เขาเล่าออกมาอย่างสนุกสนานในแบบของตัวเอง เขาเคยจัดคอนเสิร์ต แม้จะขาดทุดแต่ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจมาก เขายังประกาศบนเวทีอยู่เลยว่าเจอกันตอนครบ4ปี แต่ปีนี้ที่ควรได้ทำตามสัญญาวงกลับแตกซะแล้ว

    วันต่อมาพวกเขาตกงานทั้งคู่ เพราะเรื่องโจรทำให้เจ้าหน้าที่เทศบาลเข้ามาจัดระเบียบ พวกเขาต้องวิ่งหนี้เจ้าหน้าที่ก่อนจะโดนค่าปรับ พวกเขาเริ่มหางานใหม่ เซียวหังยืมคอมลู่เหยียนเขียนโค้ดบางอย่างตลอด ท่าทางยุ่งไม่น้อย ลู่เหยียนเริ่มศึกษาไลฟ์สด

    คืนหนึ่งเซียวหังใช้คอมทำงานเสร็จ เขาก็ช่วยล้างไฟล์ขยะให้ด้วย ขณะที่เปิดเช็กก็ไปเจอคลิปหนึ่งเข้าเสียงเพลงดังขึ้น ดึงดูดความสนใจจนลู่เหยียนที่หลับอยู่ให้ตื่นขึ้น เขามองคลิปคอนเสริตที่มีนักน้องนำเป็นเด็กคนหนึ่ง ส่วนตัวเขาเล่นกีต้าร์อยู่ด้านข้าง อดีตมากมายไหลผ่านเข้ามาในหัว หลังปิดคลิปเขาก็อ้างขึ้นมาส่งๆว่าคนที่เล่นกีตาร์อยู่คือน้องชาย แม้มันจะดูไม่น่าเชื่อจนไร้สาระมาก แต่เซียวหังก็ยอมรับโดยไม่ถามอะไร

    ในคลิปที่ลู่เหยียนเล่นกีต้าร์ได้ดีมาก กับปัจจุบันที่ห่วยแตกสิ้นดี แต่ถ้าเจ้าตัวไม่พูดเองเซียวหังก็ไม่บังคับถาม

    ลู่เหยียนอยากจะหลบเลี่ยง แต่อดีตก็วิ่งชนเข้ามาไม่ทันตั้งตัว ต้าเพ่ารุ่นน้องที่เขาเคยสนิท นักน้องในคลิปนั้นมายังเมืองนี้และตามหาเขา แน่นอนว่าอีกฝ่ายเล่าถึงรุ่นพี่ที่เป็นคู่แข่ง ว่าเป็นคนเก่งกีต้าร์ขนาดไหน ให้ทุกคนที่เป็นขาดนตรีของเมืองฟัง แต่ไม่มีใครนึกไปถึงลู่เหยียนที่ปัจจุบันเล่นกีต้าร์ห่วยสุดๆคนนี้

    ลู่เหยียนหลบออกมาเมื่อเห็นรุ่นน้องคนนี้ เขาซึ่งไม่รู้จะไปไหนหรือทำอะไรก็โทรหาเพื่อนบ้านของตน เซียวหังก็ออกมารับจริงๆ เมื่อกลับถึงห้องเขาก็เริ่มเล่าอดีตออกมา เขาบอกเซียวหังว่า ถ้าคิดว่าย่านชุมชนนี้และเทะแล้วล่ะก็ เมืองบ้านเกิดของเขานั้นยิ่งกว่า มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันอยู่ตลอด ที่นั้นเขาก็มีวงดนตรีเหมือนกัน และวันหนึ่งเขาก็ไปช่วยเพื่อนที่หาเรื่อง ผลที่ได้รับกลับมาคือ โดนแทงมือจนเอ็นขาด ไม่สามารถใช่งานอย่างละเอียดอ่อนได้อีก ไม่สามารถดีดกีต้าร์ได้อีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ยอมแพ้ มาที่เมืองใหม่ สร้างวงใหม่ และกลายมาเป็นนักร้องนำ

    ลู่เหยียนได้เล่าแล้วก็อายนิดหน่อย เขาคิดจะไปทำอะไรแก้เขิน แต่กลับได้ยินเซียวหังพูดว่า ไม่มีอะไรที่เขาไม่กล้าพุ่งชน เขาเก่งมาก เป็นคำปลอบใจที่มาอย่างไม่ทันตั้งตัวจากคนที่ดูไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น มันกระแทกใจเขาเต็มๆ ทั้งๆที่ผ่านมาเขาไม่เคยร้องไห้ ทั้งตอนหมอบอกผลตรวจ ทั้งตอนยุบวง แต่เวลานี้เขากลับทรุดตัว ความร้อนผวาที่ดวงตากลั่นออกมาเป็นหยดน้ำ มือของคนตรงข้ามวางไว้บนหัว แล้วชมอีกครั้งว่าเหยียนเหยียนเก่งมาก

    อาจจะเพราะได้กำลังใจนี้เขาจึงไปเผชิญหน้ากับต้าเพ่า บอกกับรุ่นนี้ที่เทิดทูนตัวเองสุดๆคนนี้ว่า ไอดอลของนายไม่มีแล้ว เล่นกี้ต้าร์ไม่ได้แล้ว หลังรู้ความจริงทั้งรุ่นน้องทั้งเพื่อนสนิทร้องไห้กันยกใหญ่ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศเขาให้เด็กหนุ่มเล่าเรื่องราวของตัวเอง และโชว์ฝีมือให้ดู ขณะที่บรรยากาศกำลังดี ลู่เหยียนก็ขายตรงให้เด็กหนุ่มมาเข้าวงของตัวเอง แน่นอนว่าอีกฝ่ายยินดีเป็นอย่างยิ่ง

    เซียวหังถูกเพื่อโทรมาตาม เพราะว่าพ่อของเขาไปกดดันอีกฝ่ายอย่างหนักเรื่องการเรียนมหาลัย ดังนั้นหลังคิดเล็กน้อยเขาก็ตอบว่าไม่ไปแล้ว พรุ่งนี้จะไปทำเรื่องลาออก เขาที่เดิมทีออกจากบ้านมาอย่างหุนหัน และปรับตัวกับที่นี้ไม่ได้ กินไม่ได้ นอนไม่หลับอยู่นาน แต่เวลานี้กลับเปลี่ยนไปแล้ว ชีวิตที่ไม่มีเงินและข้าวของหรูหรา เขาใช่คอมพิวเตอร์เก่าๆสร้างเงินก้อนแรกจากฝีมือของตน

    ตัวตนของลู่เหยียน คือคำตอบที่เขาอยากได้รับมาตลอด ชีวิตที่กระตือรือร้น เข้มแข็ง และเป็นตัวของตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ เกิดมาไม่ใช่เพื่อเป็นเครื่องมือของคนอื่น แต่เพื่อใช่ชีวิตของตัวเอง

    เซียวหังไปทำเรื่องลาออกที่มหาลัย และถือโอกาสพาสวี่เยี่ย(รุ่นน้องม.c)ที่ลู่เหยียนหมายตาไว้กลับมาเป็นมือเบสด้วย เด็กคนนี้เรียนสาขาคอมพิวเตอร์ เมื่อได้คุยกับเขาก็รู้สึกว่าคุยกันรู้เรื่อง

    เซียวหังนำคอมใหม่เข้ามาวางในห้องลู่เหยียน นอกจากหาข้ออ้างเข้ามาอยู่ทำงานด้วยทั้งวันแล้ว ตอนนอนยังมาเบียดตัวอยู่ที่นี่อีก ลู่เหยียนไม่เชิงลำคานแต่เป็นห่วงที่เขาทำงานหนักมากกว่า

    ช่วงนี้ลู่เหยียนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลย เขาสนใจเซียวหังมากกว่าปกติ เขาพยายามหาเหตุผล คงเพราะอยู่ใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน ไม่แปลกที่สายตาเขาจะเอาแต่มองอีกฝ่าย อาจจะเพราะมีอะไรก็มักจะถามความเห็นกัน ดังนั้นเมื่อคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจึงเผลอนึกถึงคนๆนี้ตลอด

    แต่เขาก็รู้สึกว่าเซียวหังใส่ใจเขาอยู่มากเหมือนกัน ตั้งแต่ทำงานเขียนเว็บ ก็ชอบซื้อของให้ และเขาพึ่งสังเกตุว่าเวลาตนเองพูดอะไรออกไปป ต่อให้เป็นการพูดส่งๆแต่อีกฝ่ายจำได้และใส่ใจอยู่เสมอ ครั้งนี้เองก็มาดูคอนเสิร์ตที่จัดครบรอบวง4ปีของเขาด้วย อีกฝ่ายมักจะค่อยอยู่ข้างๆ ตรงมุมที่เขาหันไปมองได้ตลอด

    เมื่องานจบลงลู่เหยียนปฏิเสธคำชวนกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ แล้วกลับพร้อมเซียวหัง บนเวทีที่มีเพียงเขากับอีกฝ่ายที่ยืนรออยู่ด้านล่าง เขาเรียกความกล้าให้ตนเอง ร่ายยาวแนะนำตน ก่อนถามอีกฝ่ายตรงไปตรงมาว่า คุณชายนิสัยไม่ดีที่อยู่ด้านนั้น ผมเห็นว่าคุณไม่เลว เป็นแฟนกับผมไหม?

    เซียวหังไม่ได้ตอบในทันที เขาร่ายยาวเหมือนยอกย้อน ก่อนจะเดินขึ้นเวทีมาหยุดอยู่ตรงหน้า แล้วกดจูบลงไป จากนั้นก็ยืนยันสถานะแฟน พร้อมกลับบ้านไปด้วยกัน

    หลังเป็นแฟนกันจริงๆก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป อย่างมากแค่ถูกพาไปเปิดตัวกับเพื่อนสนิทของเซียวหัง และมีนัดเดตกันบ้าง และเพราะว่าไม่มีเงิน พวกเขาจึงเดตกันที่สวนสาธารณะ จากนั้นลู่เหยียนก็ไปเจอพี่เว่ยเต้นก่วงฉางอู่เตรียมแข่ง เมื่อรู้ว่ามีรางวัล ลู่เหยียนก็ทิ้งแฟนหนุ่มไปซ้อมเต้นแทน เซียวหังนั่งดูอยู่ข้างๆเอามือถือถ่ายรูปไว้ เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายเหมือนดวงอาทิตย์ที่เข้ามาส่องทางอันมืดมนของตัวเอง

    ด้านวง สวี่เยี่ย(รุ่นน้องม.c/มือเบส)ก็มีปัญหากับที่บ้านหลังเล่นดนตรี เขาก็เป็นอีกคนที่ถูกกดดันในเรียนอย่างเดียว เรียนเท่านั้นถึงจะมีค่าในสายตาแม่ ถูกขีดเส้นให้ทำตามทั้งหมดจนวันหนึ่งก็มาถึงจุดที่เขาทนไม่ไหว พูดกับที่บ้านออกไปในที่สุด

    วันหนึ่ง อยู่ๆไฟของตึกก็ดับ โดนคนแอบเข้ามาตัดเบรกเกอร์ ในความมืดนั้นพวกเขาทำอะไรๆที่สนิทแบนชิดกัน เป็นการต่อสู้ของผู้ชายที่มีทั้งความโอ่อวด ยั่วยุ สู้กันว่าใครจะเป็นฝ่ายแพ้ก่อน

    ช่วงนี้ลู่เหยียนสังเกตว่าผู้คนใกล้ตัวเล่นเกมที่เซียวหังสร้าง มันมีกระแสนิยมเลยทีเดียว ก่อนที่เขาจะโดนเพื่อนร่วมทีมให้มาสนใจงานประกวงดนตรีที่กำลังจะมาถึง มันเป็นโอกาสดีที่จะได้เดบิวต์สำหรับวงใต้ดินอย่างพวกเขา (วงใต้ดินคือก่อตั้งกันเองง ไม่ได้เดบิวต์ใต้สังกัดบริษัทไหน)

    ด้านเจ้าของเกมดังก็มีสายเข้าเหมือนกัน เป็นแม่ผู้รู้จักรุกรู้จักถอยของเขาคนนั้น เนื้อหาที่โทรมาไม่ได้เกินความคาดหมาย แต่ครั้งนี้เขาไม่เสียหลักเพราะเธออีก

    วันประกวดลู่เหยียนถูกจูบ คนจูบบอกว่ามันเป็นมนตร์โชคดี เขาคิดว่าคงจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เมื่อขึ้นไปด้านบน เขาตื่นเต้น แต่ขณะเดียวกันก็สงบ รู้สึกเหมือนเซียวหังอยู่ข้างๆตลอดเวลา เขาลืมสายตาของกรรมการด้านล่าง และทำออกมาได้เต็มที่

    หลังรอลุ้นอยู่หลายวันพวกเขาก็ผ่านการคัดเลือก วงพี่น้องที่สนิทกันอีกวงก็ผ่านเหมือนกัน แต่เมื่อผ่านแล้วเขากลับต้องไปถ่ายรายการแบบปิด ต้องแยกจากแฟนนานถึง2เดือน

    แต่วันต่อมาเซียวหังกลับพาเขาไปหาคุณปู่ของเพื่อน ท่านเป็นแพทย์ฟื้นฟู แม้จะมีโอกาสไม่มากที่จะเล่นกีตาร์ได้อีกครั้ง แต่ลู่เหยียนก็ดีใจมากเพราะมันยังดีกว่าไม่ได้พยายาม ขากลับเซียวหังยังนำแหวนมาใส่ให้ บอกว่าเมื่อไรก็จะอยู่ข้างๆเสมอ ทุกคำพูดและการกระทำ ทำให้ลู่เหยียนอยากจูบคนๆนี้แทบบ้า

    หลังจากนั้นทั้งสองคนก็แยกไปทำงานของตัวเอง รายการที่ลู่เหยียนไปถ่าย ก็เหมือนงานเก็บตัวปั้นดาวดวงใหม่ จะมีกล้องค่อยตามอยู่ตลอด เป็นวาไรตี้เติบโตตั้งแต่0 ส่วนของเซียวหังเขาเช่าสดูดิโอของตัวเอง และเริ่มโปรเจคใหม่ ไม่ว่าใครต่างก็เต็มที่กับเส้นทางชีวิต มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก

    ด้านการแข่งรอบที่2 วงพวกเขาเจอวงที่มีบริษัทหนุ่นหลัง ฝีมืองั้นๆอาศัยการปั่นโหวดและถูกนายทุนวางตัวเป็นผู้ชนะ ต้าเพ่า(รุ่นน้องมือกีต้าร์)อาละวาดเกือบจะต่อยหน้าอีกฝ่ายแล้ว ลู่เหยียน(นายเอก/นักร้องนำ)ก็เข้ามาหยุดไว้ด้วยมือที่บาดเจ็บของตัวเอง เขาอธิบายกับเด็กอ่อนต่อโลกว่า ถ้าโดนไล่ออกเพราะวิวาทคิดบ้างรึเปล่าว่าชีวิตหลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อ แล้วแฟนๆที่โหวตให้จะเสียใจแค่ไหน

    ต้าเพ่าคิดไม่ถึงจริงๆนั้นแหละ ทางนี้กำลังหาวิธี เซียวหัง(พระเอก/โปรแกรมเมอร์)ก็ช่วยจัดการให้แล้ว เขาตั้งแอคเคาท์ออกมาแฉว่าวงหนึ่งปั่นคะแนนโหวต แค่เห็นนามแฝงก็ใจสั่นแล้ว ฮีโร่สุดๆ แต่แน่นอนรายการจะยอมได้ยังไง นั้นวงของสปอนเซอร์เชียวนะ พวกเขาก็ออกมาแก้ข่าว ความหน้าหน้าแบบนี้พาให้ผู้คนพูดไม่ออก
    
    รายการโง่ๆนี้มอบความหวังให้พวกเขามาเพื่อเหยียบซ้ำ เป็นไม้ประดับให้คนอื่นบานสวยงามเหรอ

    หลังคนอื่นกลับห้องไปแล้วลู่เหยียนก็ทนไม่ไหวโทรหาเซียวหัง เขาซึ้งใจที่อีกฝ่ายพยายามช่วยเหลือมากๆ แต่เซียวหังก็ปลอบว่าจะอยู่ข้างๆเสมออย่างที่สัญญาไว้ ดังนั้นรอดูพรุ่งนี้เถอะ

    แล้วรายการก็ถูกแฮก วงของสปอน์เซอร์ถูกปั่นขึ้นมาเท่าไร วงอื่นๆก็ถูกบวกคะแนนขึ้นมาให้เท่ากัน

    ด้านเซียวหังที่จัดการเรื่องนี้เสร็จเขาก็เครียร์งานต่อ ตอนเพื่อนร่วมทีมกำลังจะกลับยังไม่ลืมขายของ โปรโมตวงของแฟนตัวเองด้วย จากนั้นวงของลู่เหยียนก็จักการวงของสปอนเซอร์จนผ่านเข้ารอบมาได้ จากนั้นก็เริ่มแต่งเพลงกำหนดแนวทางของวง แต่แล้วเขากลับโดนผู้บริหารรายการเรียกเข้าไปคุยพร้อมนักร้องนำของอีกวง เขารู้จักคนๆนี้เพราะเป็นรุ่นพี่ที่เคยอยู่วงเดียวกันตอนบ้านเกิด

    ผู้บริหารรายการยื่นข้อเสนอในการเป็นนักร้องเดียว และบอกตามตรงว่าเธอไม่เคยคิดจะบริหารวงดนตรีมาตั้งแต่แรก

    ขณะที่นักร้องนำอีกคนถือสัญญาและเดินออกไป เธอก็พูดล่อลวงลู่เหยียนต่อ เธอคือนักบริหารที่มีฝีมือและมั่นใจมาก ครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาคือต้นกล้าที่เธอคิดว่าจะตัดแต่งยังไงก็ได้ แต่ลู่เหยียนกลับทำให้สิ่งที่ตบหน้าเธออย่างแรง เขาฉีกสัญญาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โปรยลงต่อหน้าเธอ

    เขาบอกว่า ไม่จำเป็นต้องใช่เวลาคิดหรอกครับ ตอบตอนนี้ได้เลย

    หลังออกมาเขาก็เจอนักร้องนำของอีกวง พี่ชายคนนี้เคยเป็นคนที่ชักนำให้เขาเล่นดนตรี เขาพูดออกมาชัดเจนว่าตนเองจะไปเดบิวต์เดียว และบอกอีกว่าตอนนั้นที่ลู่เหยียนมีเรื่องจนบาดเจ็บเส้นเอ็นขาด เขาก็อยู่ข้างๆ ช่วยได้แต่ไม่ช่วย เพราะกลัวความยุ่งยาก ที่จริงถ้าเขาช่วย มือของลู่เหยียนอาจจะไม่แย่ขนาดนี้

    ลู่เหยียนรู้สึกทนไม่ไว้อีกต่อไป เขาโทรหาเซียวหัง อยากเจออีกฝ่าย แล้วเซียวหังก็มาจริงๆ ลู่เหยียนปีนกำแพงไปเจอเขา เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังอย่างทนไม่ไหว พวกเขาไปเปิดโรงแรมข้างนอก ใช่เวลาส่วนตัวอยู่ด้วยกัน ก่อนจะแอบกลับเข้าไป

    เขาบอกเรื่องนี้กับเพื่อนๆและบอกว่าอยากถอนตัวจากรายการประกวด แล้วพวกเขาก็ปรึกษากันถึงการแสดงรอบต่อไปบนเวที พวกเขาไม่ได้แสดงตามธีมที่ถูกกำหนดอีก แต่แสดงตัวตนของวงออกมาอย่างชัดเจน เพลงร็อกที่ทั้ง4คนช่วยแต่ง และได้จากลาแฟนๆบนเวทีที่เดือดพล่านนี้

    ทีมงานโลหาหล ส่วนผู้บริหารรายการคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้

    จากนั้นทุกคนก็กลับบ้าน ลู่เหยียนเซียวหังจิกกันกันตามปกติแต่ขณะเดียวกันก็ชวนเหม็นความรักสุดๆ จากนั้นคนหนึ่งก็แยกตัวไปทำงาน อีกคนไปรักษามือ การรักษาเห็นผลดีมาก ลู่เหยียนค่อยๆเล่นกีต้าร์เพลงช้าได้แล้ว

    การแข่งครั้งนั้นวงที่ชนะคือวงที่นักรองนำเซ็นต์สัญญา และผู้บริหารรายการยังโทรมาถามว่าเสียใจไหม แน่นอนลู่เหยียนไม่เสียใจสักนิด เขาดีใจที่เดินออกมาได้อย่างเต็มภาคภูมิ

    หลังเสร็จธุรเขาก็ไปหาแฟนที่สตูดิโอ คนๆนี้เป็นคนเก่งจริงๆ ใช่เวลาไม่นานก็มีลูกน้องแล้ว จู๋จี๋กันเสร็จแล้วก็กลับบ้าน

    วันหนึ่ง พ่อของเซียวหังก็มาหาถึงตึก7 เขามองที่นี่อย่างรังเกียจและเรียกลู่เหยียนมาคุย เป็นคำพูดน่าเบื่ออย่างข่มขู่และล่อลวงให้ออกไปจากชีวิตลูกชาย ลู่เหยียนค้นเศษแบงค์ที่อยู่ในกระเป๋าทั้งหมด ยืนขึ้นและโปร่ยเงินใส่หน้าอีกฝ่าย ย้อนคืนคำพูดกลับไป คุณไม่คู่ควรจะเป็นพ่อแท้ๆของเขา

    เซียวฉี่ซานพ่อของเซียวหังไม่ได้โกรธ เขาบอกว่าเซียวหังจะต้องกลับมา เขาไม่เคยมีทางเลือกอยู่แล้ว

    เซียวฉี่ซานจ้างคนมาแฮกข้อมูลในบริษัท เซียวหังรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เมื่อลงมาเจอหน้ากันก็รู้ว่าไม่ผิดจากที่คาด คนๆนี้ต้องการให้เขาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับคุณหนูใหญ่ท่านหนึ่ง ตระกูลจะได้ก้าวหน้า หลังคนกลับไปเขาก็โทรหาแฟนหนุ่ม ฟังเสียงลู่เหยียนแล้วดูไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แถมยังเป็นเขาเองที่ได้กำลังใจกลับมาว่าอย่ายอมแพ้นะ

    เพื่อเป็นการเคลียร์เรื่องนี้ เขาออกจากโปรเจ็คที่ทุ่มเทแรงมา กลับบ้านนำเงินที่ตนเองหามาได้ ช่วงนี้ไปส่งให้พ่อ บอกกับเขาว่า สลัดฐานะคุณชายไม่ง่ายเลยจริงๆ ที่คืนให้ได้ก็อยู่ในนี้แล้ว จากนั้นก็กลับตึก7และไปหาคนรักของตัวเอง

    ตอนนี้วงของลู่เหยียนได้รับโอกาสใหม่ ขึ้นแสดงบนเวทีเทศกาลเพลง พวกเขาซึ่งแต่เดิมมีแฟนคลับตามไม่มากกลับมารถแย่งผู้ชมมาจากเวทีอื่นได้ และจบการแสดงได้อย่างสวยงาม ก่อนกลับพวกเขายังไปดักเจอผู้จัดการค่ายเพลงหนึ่ง พวกเขาเข้าไปลอบคนไว้อย่างกับเตรียมจะลุมกระทืบ แต่จริงๆแล้วเป็นแค่การแนะนำตัวอย่างจริงใจเฉยๆ แต่ก็ชวนให้คนพูดไม่ออกอยู่ดี แต่ครู่หนึ่งผู้มากประสบการณ์ก็ตอบสนองสุขุม ทำเอาทั้ง4คนอึ้งไป

    เลิกงานกลับบ้าน ถ้าแม้ทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามที่คิด แต่ลู่เหยียนก็รู้สึกว่าเขาโชคดี ที่ข้างๆมีเซียวหังอยู่ด้วยตลอด

    หลายวันต่อมาเซียวหังเจอผู้จัดการค่ายเพลงชื่อดัง วนเวียนอยู่แถวนี้ ดูเหมือนจะมาประเมินวงของลู่เหยียน พวกเขาได้คุยกันเล็กน้อยก่อนแยกกัน

    อัลบัมใหม่ของลู่เหยียนขายได้9พันแล้ว ช่วงที่ยอดเริ่มชะลอ ผู้จัดการค่ายเพลงชื่อดังก็เข้ามาซื้อจนยอดรวมทะลุหมื่นจนได้ วันต่อมาลู่เหยียนกำลังบอกข่าวดีกับเพื่อนๆ เขาก็ได้รับเมลล์จากค่ายเพลงชื่อดัง ข้อเสนอครั้งนี้ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวอีกต่อไป แต่เป็นทุกคนในวง ในที่สุดเรื่องน่ายินดีก็มาถึง

    ด้านตึกที่พวกเขาอาศัยอยู่ พี่เว่ยมีข่าวว่าหาเจ้าของตึกเจอแล้ว พวกเขาต้องไปตามจับตัวเขากลับมา หลังวางแผนและแบ่งกลุ่มกันมาเป็นอย่างดี ในที่สุดก็จับตัวเขาไว้ได้ ตึกนี้อาศัยต่อไปไม่ได้แล้ว แต่กลับไม่ได้เงินมัดจำค่าเช่าห้องคืน พวกเขาได้แต่ทนออยู่มาถึงตอนนี้ ถ้าจับตัวได้จะย้ายออกก็ไม่ขาดทุนอีกต่อไป

    จากนั้นพวกเขาก็ย้ายเข้าไปอยู่ห้องใหม่ด้วยกัน 1ห้องนอนเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ มีห้องรับแขก ห้องแต่งตัว กระทั้งห้องหนังสือก็มีด้วย ไม่แออัดอีกต่อไปแล้ว

    ตอนนี้ลู่เหยียนเป็นวงใหม่มาแรง ที่ค่ายเพลงใหญ่ให้การดูแล เซียวหังเป็นโปรแกรมเมอร์หน้าใหม่ ที่พัฒนาAIทางการแพทย์ มีชื่อเสียงและได้รับเชิญไปงานสัมมนาระดับนานาชาติ สมกับความพยายามที่ทั้งสองคนไม่มีใครยอมแพ้ให้กับความฝัน

(จบ)



Ad Code

Responsive Advertisement