(สปอย์) ฟาร์มมหัศจรรย์พรรค์นี้ก็มีด้วย เล่ม2
เมื่อครั้งย้ายเข้าเมือง ลู่ชิงจิ่ว(นายเอก)เคยสัญญากับอิ่นสวิน(เพื่อนสนิท)ว่าจะกลับมาเล่นด้วยกันอีกอย่างแน่นอน แต่กว่าจะได้กลับมาอีกครั้งก็ผ่านไปหลายปีแล้ว เป็นเมื่อโตขึ้นย่อมเกิดความเหินห่างไม่สนิทเหมือนแต่ก่อน ยิ่งต่อมาพ่อแม่เขาจากไปเพราะกลับมาเยี่ยมคุณยายที่บ้านเกิด ไม่นานคุณยายก็จากตามไป บ้านเกิดจึงเหมือนที่กลบฝั่งความเศร้าของเขา
ครั้งนี้เขาตามหาอิ่นสวินทั่วภูเขาแล้วก็ไม่เจอ เมื่อเข้าตัวเมืองกลับไปร้านเกมหยอดเหรียญก็พบว่าที่นั้นเปลี่ยนกิจการไปตามเวลาแล้ว
สุดท้ายเขาก็กลับบ้านด้วยความหดหู่ใจ ระหว่างทำกับข้าวก็ไม่ระวังจนมีดบาดเห็นกระดูก ไป๋เยวี่ยหู(พระเอก)เห็นแบบนี้ก็ไม่พอใหญ่มาก เขาช่วยทำแผลก่อนจะออกจากบ้านไป
ลู่ชิงจิ่วออกเดินในหมู่บ้านจนมาถึงเครื่องโม่แป้งหน้าหมู่บ้าน ก่อนจะพบว่าที่เครื่องหมู่แป้งมีรูพอดีกับเหรียญที่เขาได้รับมาเช่นกัน จากนั้นเขาก็เจอกับอิ่นสวิน
ชายหนุ่มต่อว่าเรื่องที่อิ่นสวินหายตัวไปเล็กน้อยและบอกว่าเขาไม่ซีเรียสเรื่องที่อีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ แล้วบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าหมูหมาไก่และไป๋เยวี่ยหูก็ไม่ใช่มนุษย์เหมือนกัน
พวกเขาพากันกลับบ้าน ที่จริงอิ่นสวิน(เพื่อนสนิท)ยังไม่รู้จะเริ่มคุยกับลู่ชิงจิ่ว(นายเอก)ยังไง แต่เขาก็โดนไป๋เยวี่ยหู(พระเอก)สั่งให้กลับมาซะก่อน
หลังกินข้าว อิ่นสวินเริ่มเล่าว่าตนเองตายได้ยังไง
เมื่อเพื่อนสนิทออกจากหมูบ้านไป อิ่นสวินก็รอเขากลับมาอยู่เสมอ ที่เครื่องโม่แป้งของหมู่บ้านหากขึ้นไปยืนจะสามารถเห็นถนนเข้าหมู่บ้านได้ เขาจึงมักไปเล่นตรงนั้นเสมอ แล้ววันหนึ่งที่เขาเผลอหลับไป เมื่อตื่นขึ้นเขาก็พบบ่อน้ำผีกำลังดูดเครื่องโม่แป้งและตัวเขา ก่อนมือผีจะฉุดเท้าเขาลงน้ำ สุดท้ายเขาก็จมน้ำตอนสิบขวบเพราะลิงน้ำ(ผีน้ำชนิดหนึ่ง)
อิ่นสวินหายตัวไปไม่เจอศพ เวลาผ่านไปสักพักที่บ้านถึงรู้ว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้กลับมาและออกตามหา เขาก็เหมือนเพื่อนสนิท เขาอยู่กับปู่ย่าส่วนพ่อแม่ออกไปทำงานข้างนอก เมื่อเกิดเรื่องพ่อแม่ก็รีบกลับมา พวกเขาได้แต่กอดศพด้วยความเสียใจ แต่แล้วก็มีคนปริศนามาหาพวกเขาและบอกว่าสามารถพาอิ่นสวินกกลับมาได้แต่จากนี้ไปอิ่นสวินจะต้ออยู่แต่ในหมู่บ้านเท่านั้น จะออกไปข้างนอกไม่ได้อีก
ครอบครัวอิ่นสวินทำตามและวันต่อมาเด็กก็กลับมาจริงๆ ตอนนั้นอิ่นสวินยังมึนงงอยู่มากไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเขากลับมาพ่อแม่ไม่เชื่อฟังคำเตือนและพาเด็กออกจากหมูบ้านกลางเสียงเตือนของปู่ย่า ทันทีที่ออกจากหน้าหมูบ้านร่างกายของอิ่นสวินก็ละลายเป็นน้ำ แม่ของเขากรีดร้องและบอกว่านี่ไม่ใช่ลูกของเธอแต่เป็นปีศาจ จากนั้นพวกเขาก็จากไปและไม่เคยกลับมาอีกเลย
อิ่นสวินอาศัยอยู่กับปู่ย่าต่อจนพวกท่านเสีย เมื่อโตขึ้นอานาเขตที่เขาสามารถไปได้ก็เพิ่มเป็นภูเขาและในเมือง แต่ตัวเขาเองรู้อยู่ลึกๆว่าไม่อาจไปจากที่นี่ได้ ตอนนี้อิ่นสวินเป็นเหมือนเจ้าป่าเจ้าเขาของหมู่บ้าน ถึงไม่ได้มีพลังมากอะไรแต่ก็รู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนภูเขา
ลู่ชิงจิ่ว(นายเอก)ได้ยินแบบนั้นก็ถามถึงศพของพ่อแม่ตัวเอง น่าเสียดายที่เพื่อนเองก็หาไม่พบ
เมื่อเคลียร์ใจเสร็จพวกเขาก็บอกลากัน ลู่ชิงจิ่วคุยกับไป๋เยวี่ยหูถึงสถานที่รกร้างที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ มันแสดงถึงวิญญาณความโดดเดี่ยว เพื่อนสนิทจากไป พ่อแม่ทอดทิ้ง ปู่กับย่าก็เสียไปอีก อีกกาตัวนั้นที่ร้องเรียกชื่ออเขาอยู่ตลอดเวลา
คิดแล้วลู่ชิงจิ่วก็รู้สึกขมขื่นมาก
ด้านไป๋เยวี่ยหู(พระเอก)สนใจแค่ลู่ชิงจิ่วเท่านั้น เขากำลังคิดว่าคนตรงหน้าจะต้องอร่อยมากแน่ๆ แต่จะกินซะตอนนี้ก็เสียดายเขาปลอบใจอีกฝ่ายก่อนจะแยกย้ายกัน
เมื่อจัดการเรื่องของอิ่นสวินเสร็จลาดบ้านของเขาก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง
วันหนึ่งมีฝนตกหนัก ไป๋เยวี่ยหูพาลู่ชิงจิ่วและอิ่นสวินกลับขึ้นไปที่บ้านเหนือเมฆของตัวเอง เขาให้ทั้งสองรอตรงปากทางขึ้น แต่ลู่ชิงจิ่วดื้อออยากขึ้นไปดูให้ได้ก่อนจะเดินขึ้นไป ข้างบนพวกเขาเห็นหมอกดำ ภูเขา และมังกรที่รัดรอบภูเขา
พวกเขาไม่เข้าใจอะไรนักก่อนที่ไป๋เยวี่ยหูจะออกมาจากหมอกดำ แล้วพวกเขาก็ลงเขากัน
วันต่อมา ลู่ชิงจิ่ว (นายเอก)เข้าเมืองไปซื้อเสี่ยวหลงเปาไปให้ไป๋เยวี่ยหู(พระเอก)กิน พวกเขาเจอกับนายตำรวจใหม่ชื่อผังจื่อฉี อีกฝ่ายมาเตือนว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกไม่ดี สัตว์ร้ายที่ไม่ใช่คน(อิ่นสวิน+ไป๋เยวี่ยหู) ทำให้อิ่นสวินที่มาด้วยกันโมโหมาก เขาเป็นนายตำรวจที่มีพลังวิญญาณถูกส่งมาดูแลความเรียบร้อยของย่านนี้(เพราะชนบทมักมีเรื่องประเภทนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ เช่นคดีบ่อน้ำ คดีเทพปีศาจ)
หลังได้เสี่ยวหลงเปาแล้วพวกเขาก็หันกลับไปมอง ก่อนจะพบว่านายตำรวจใหม่มีวิญญาณน่ากลัวตามติดอยู่ด้วยแต่อีกฝ่ายกลับมองไม่เห็น พวกเขาจึงฝากคำเตือนผ่านหูซู(ตำรวจท้องถิ่น)
วันต่อมา ลู่ชิงจิ่วเมืองมาซื่อของคนเดียว เขาเห็นผังจื่อฉี(ตำรวจใหม่)อยู่ไม่ไกล และรอบนี้ผีสาวไม่ได้ตามอยู่ข้างๆ แต่กำลังกอดเขาอยู่ ครั้งนี้เขาเห็นใบหน้าเธอที่หันมา เธอมีเพียงตาขาวและงูสองตัวบนหูสีหน้าดุร้าย หลังกลับบ้านมาเขาก็พบว่าตัวเองติดคำสาปของเธอซะแล้ว
พร้อมกันนั้นเขาก็ได้ข่าวว่าผังจื่อฉี(ตำรวจใหม่)เจออุบัติเหตุ ถ้าอีกฝ่ายตาย รายต่อไปคงเป็นเขา
ลู่ชิงจิ่ว(นายเอก) นำเรื่องนี้มาปรึกษาไป๋เยวี่ยหู(พระเอก) และตกลงว่าจะไปดูสถานการณ์ที่โรงพยาบาลก่อน เมื่อไปถึงก็พบว่าผีสาวอาจจะเป็นสนมของเทพแห่งสายฝน และตอนนี้เธอแทบจะสิงนางแนบชิดเป็นหนึ่งเดียวกับนายตำรวจแล้ว
เมื่อสรุปแล้วว่าตำรวจใหม่ยังเอาตัวไม่รอด ลู่ชิงจิ่วก็ไปขอให้ปีศาจจิ้งจอกที่บ้านช่วย ไป๋เยวี่ยหูพาเขาไปถึงสุสานที่ศพพระสนมถูกนำออกมาและกินศพนั้นซะ
หลังจัดการศพเรียบร้อย เทพสายฝนก็ออกมารับพวกเขาไปกินข้าว ดูเหมือนจะมีมิตรภาพที่ดีกับไป๋เยวี่ยหู(พระเอก) และเพราะมืออาหารนี้ลู่ชิงจิ่ว(นายเอก)จึงรู้ว่าร่างกายของอิ่นสวิน(เพื่อนสนิท)ถึงจะดูเหมือนน้ำแต่ที่จริงคือเนื้อของเห็ดหลินจื่นเทพต่างหาก เมื่อกลับบ้านเขาก็จัดโต๊ะมือใหญ่ให้จิ้งจอกบ้านตนเองตอบแทนที่เขาอุตส่าห์กินของไม่อร่อย จากมือนี้เขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่สุดคือไป๋เยวี่ยหู จิ้งจอกที่หวงของกินที่สุดคนนั้นแบ่งกับข้าวให้เขาอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว
เมื่อลู่ชิงจิ่วกับอิ่นสวินไปเยี่ยมผังจื่อฉี(ตำรวจใหม่)ก็พบว่า สนมของเทพสายฝนยังไม่หายไปแต่ตัวเล็กลงแทน เขานำสนมเทพมินิกลับบ้านมาด้วยเพราะกลัวว่าปล่อยไว้จะมีเหตุเหนือความคาดหมาย ซึ่งสัตว์ต่างๆในลานบ้านต้อนรับเธอเป็นอย่างดี เทศกาลไหว้พระจันทร์จูเหมี่ยวเหมี่ยว(เพื่อนที่อดีตที่ทำงานนายเอก)กลับมาเยี่ยมพวกเขาอีกครั้งพร้อมปรึกษาเรื่องหาเงิน
พวกเขาตกลงกันน้ำจากบ่อหลังบ้านมาขายเป็นยาปลูกผม เวลาเดียวกันไป๋เยวี่ยหู(พระเอก)ก็นำวัวกลับมาตัวหนึ่ง มันเป็นวัวที่กินอะไรไปก็จะให้นมเป็นกลิ่นและรสนั้นตามอาหาร ต่อมาลู่ชิงจิ่ว(นายเอก)พบว่ามันเป็นตัวผู้ซึ่งผิดหลักวิทยาศาตร์สุดๆ แต่ไม่มีใครใสใจ อิ่นสวินยังปลอบเขาว่าในบ้านพวกเขาไม่มีอะไรธรรมดาสักอย่าง วัวตัวผู้ให้นมบ้างไม่เป็นจะเป็นอะไร
ฝั่งยาปลูกผมที่ตอนนี้กลายเป็นร้านดังไปแล้ว และไม่ใช่แค่นั้นการส่งน้ำในบ่ออกไปปลูกผมให้คนอื่นทำให้ผีสาวในบ่อกลายเป็นเทพแห่งผมด้วย เพราะทำความปรารถนาให้เป็นจริงและได้รับความซาบซึ้งกลับมา
เพื่อเตรียมตัวกับหน้าหนาว ลู่ชิงจิ่ว(นายเอก)จึงไปเปิดห้องเก็บของ เขาเจอกล่องไม้พิเศษใบหนึ่งที่ตัวอักษรจะเปลี่ยนไปในทุกวัน เขาพยายามเปิดกล่องแต่จนแล้วจนรอดก็เปิดไม่ได้ จนต้องไปไปขอให้ไป๋เยวี่ยหู(พระเอก)ช่วย อีกฝ่ายแนะนำให้เขารอเวลาที่เหมาะสมไปก่อน เพราะถ้าฝืนตอนนี้ของข้างในอาจจะเสียหายได้
ลู่ชิงจิ่ว(นายเอก)สงสัยว่ายายของตนรู้จักสิ่งลี้ลับด้วยงั้นเหรอ แต่ก็ได้คำตอบเป็นใครๆก็มีความลับของตัวเองทั้งนั้น
เทศกาลเก็บเกี่ยว อิ่นสวิน(เพื่อนสนิท/เทพภูเขา)ไม่ค่อยชอบเทศกาลนี้นักเพราะของที่นำมาถวายเป็นของดิบ ลู่ชิงจิ่วออกไปร่วมงานกับชาวบ้านคนอื่นๆจนเมา ไป๋เยวี่ยหูมารับเขากลับบ้าน คืนนั้นเขาเขาฝันเห็นสัตว์ร้ายและเสียงคำราม
ร้านขายยาปลูกผมของเขามีคนต้องการขอเงินคืนเพราะบอกว่ามันไม่ได้ผล หลังสืบด้วยการย้อนIPก็ได้ความว่าตั้งใจเข้ามาโกง ผมยาวแล้วไม่อยากเสียเงิน แต่ลู่ชิงจิ่วก็คืนเงินและให้เขาส่งขวดแก้วกลับมา ผลคือเมื่อคืนขวดแล้วผมที่เคยยาวก็ร่วมหลุดทั้งหมด ตามฝีมือของผี(เทพ)สาว เขาเอาเรื่องที่มีคนโกงไปบอกเธอ ซึ่งเธอไม่ได้ใจดีอย่างลู่ชิงจิ่ว
วันหนึ่งช่วงเตรียมตัวเข้าฤดูหนาวผังจื่อฉี(ตำรวจใหม่)และเมิ่งสุ่ยอี๋(ตำรวจเผ่าพิเศษ)ก็มาหาลู่ชิงจิ่วอีกครั้ง เขามาขอบคุณเรื่องคำสาปของสนมเทพสายฝนและเป็นห่วงความปลอดภัยของลู่ชิงจิ่วที่อาศัยอยู่กับสัตว์ร้าย แต่เมื่อไป๋เยวี่ยหูกลับเข้ามาในบ้าน เมิ่งสุ่ยอี๋ก็รีบพาผังจื่อฉีจากไป วันต่อมาปู่ของเมิ่งสุ่ยอี๋รีบมาขอโทษพวกเขาที่หลานชายนำความเดือดร้อนมาให้
ลู่ชิงจิ่วจึงรู้ว่าเขาเป็นเผ่าพิเศษที่จับโกหกคนได้ คนที่โกหกจะมีเลือดเปื้อนมุมเสื้ออย่างที่เขาเจอวันก่อน ตอนนั้นเองที่อิ่นสวินเข้าบ้านมาพอดี ลู่ชิงจิ่วจึงถือโอกาสถามเพื่อนของตน ที่ผ่านมาเขามีความสุขไหม? ถ้าตนจะไปจากหมู่บ้านแห่งนี้ล่ะ? ชอบหมู่บ้านแห่งนี้ไหม? ซึ่งคำตอบนั้นทำให้เขาปวดใจ
เข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัวลู่ชิงจิ่วป่วยขึ้นมา ด้วยร่างกายแบบนี้เขาก็ได้รับรู้ว่าไป๋เยวี่ยหูชอบเขามากกว่าที่คิด เพราะเพื่อนสนิทได้บอกไว้ก่อนกลับบ้านว่า เผ่าพนธ์ของคนๆนี้จะกลืนสิ่งที่ชอบลงท้อง ลู่ชิงจิ่วมองแววตาขอไป๋เยวี่ยหูแล้วดูเหมือนจะชอบเขาในฐานะของกินไม่น้อยเลยทีเดียว
สุดท้ายเขาก็ต่อต้ายความเพลียไม่ไหว ก่อนจะนอนได้ถามตรงๆจะว่าโดนกินไหมอีกฝ่ายตอบว่าจะพยายามเต็มที่ วินาทีที่ปิดตาลงเขาคิดว่าตัวเองจะโดนกินแล้วซะอีก แต่อีกฝ่ายกัดเขาจนตื่น ดูแล้วไม่มีเจตนาจะกินให้ตายในคำเดียว เขาทำเหมือนชิมอย่างพิถีพิถัน เฝ้าดูแลของมีค่า ก่อนจะโดนถามว่ากลัวไหม แน่นอนว่าเขาไม่กลัว อย่างน้อยก็ไม่กลัวมาก
เมื่อตอบไปแล้วมองชายหนุ่ม เขาถึงรู้ว่าคำตอบเมื่อกี้สำคัญแค่ไหน ไป๋เยวี่ยหูไม่ต้องการให้คนกลัวเขา และไม่ต้องการอยู่ร่วมกับคนที่กลัวเขา
หลังหายป่วย คืนที่ไม่มีอะไรทำ พวกเขา3คนมาเล่าเรื่องสยองแข็งกัน หลังมนุษย์กับเทพภูเขาเล่าเสร็จ ไป๋เยวี่ยหูเล่าเรื่องไม่เป็นจึงพาไปดูของจริง ที่นั้นมีมังกรถูกขังอยู่ สภาพของมันน่าอนาถเกินบรรยาย ไป๋เยวี่ยหูเล่าว่ามันทำความผิดต้องถูกขังอยู่ในนี้ ไม่มีอาหารกินเมื่อหิวจัดก็ได้แต่กัดกินเนื้อของตัวเอง พวกเขากลับบ้านมาด้วยบรรยากาศหนักอึ้ง
เพราะแบบนี้วันต่อมาลู่ชิงจิ่วจึงทำเค้กให้เขากิน
หลังหิมะตกหนักจนหมู่บ้านขาวโพลน ลู่ชิงจิ่วถูกนกเก้าหัวลักพาตัวมาที่เกาะในมิติพิเศษ เขาถูกวานให้ทำอาหารที่อร่อยให้อีกฝ่าย ระหว่างที่รอดูวัตถุดิบที่จะใช่ทำ เพราะอากาศร้อนจัดเขาจึงต้องถอดเสื้อออก กลายกฏว่าถูกนกยักษ์ตัวนั้นต่อว่า ไป๋เยวี่ยหูที่ตามมาช่วยที่หลังก็ติเขาเหมือนกัน อมนุษย์พวกนี้ทำเหมือนเขาเป็นพวกโรคจิตชอบแก้ผ้าอย่างนั้นแหละ
สุดท้ายแล้วเขาก็ช่วยทำอาหารให้นกตัวนั้น รวมถึงมือเย็นที่เธอมารบกวนด้วย
ในวันที่หิมะหยุดตกไป๋เยวี่ยหู(พระเอก)ออกไปทำธุระข้างนอกหลายวันกลับ ส่วนเด็กๆในบ้านใช่โอกาสก่อนมีพายุหิมะอีกรอบออกมาวิ่งเล่น เสี่ยวเฮย(น้องหมูดำ/ญ)เก็บหุ่นไล่กากลับมา ตอนแรกทุกอย่างปกติดีแต่เช้าวันต่อมาลู่ชิงจิ่ว(นายเอก)พบว่าหมูหมาและเพื่อนขอองตนกลายเป็นหุ่นไล่กาแล้ว เขาตกใจมากและไม่มีวิธีช่วยเหลือ ได้แต่โทรไปหาไป๋เยวี่ยหู อีกฝ่ายบอกว่าไม่มีปัญหาร้ายแรงอะไร ตอนเย็นจะมีแขกไปหา
แล้วลู่ชิงจิ่ว(นายเอก)ก็ได้มีโอกาสรับรองพระสงฆ์รูปหนึ่งจริงๆ ถ้าไม่ได้รู้อยู่ก่อนเขาคงไม่นิมนต์เข้ามาแน่ เพราะสถานการณ์ช่างเหมือนเรื่องผีสุดๆ พวกเขาได้สนทนากันจึงได้รู้ว่าหุ่นไล่กาคือโอกาสให้เลือก เมื่อรู้แล้วว่าสิ่งนั้นคือภูตผีวิญญาณแล้วจะอยู่ร่วมกันต่อไหม ถ้ารับได้อีก3วันพวกเขาจะกลับมาเป็นปกติแต่ถ้าไม่ก็เผผาพวกเขาซะ เพราะมนุษย์บางคนไม่รู้ตัวดูไม่ออกถึงสิ่งโสมมต่างๆต่างจาก
ลู่ชิงจิ่วรู้สึกว่าท่านยังมีจุดประสงค์ตักเตือนบางอย่าง ถึงหิมะยังตกแต่พวกเขาก็ลากันในวันต่อมา ก่อนไปท่านยังพูดถึงกล่องดำของลู่ชิงจิ่วด้วย
ปกติแล้วอิ่นสวิน(เพื่อนสนิท)จะต้องกลับบ้านไปต่อเทียนในฐานะเทพภูเขาทุกวัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นหุ่นไล่กาไปแล้ว ด้วยความกังวลลู่ชิงจิ่วจึงไปที่บ้านเพื่อนสนิท เมื่อเข้าห้องนอนไปเขาก็เจอแท่นบูชาที่วางเรียงรายอยู่ เทียนใกล้ดับแล้ว และมีบางสิ่งอาละวาดอยู่ใต้ฐานบูชา โชคดีที่ไป๋เยวี่ยหู(พระเอก)กลับมาทัน แต่ดีใจอยู่ได้ไม่นาน เขาก็พบว่าคืนนั้นหางทั้ง9ของไป๋เยวี่ยหูหลุดออกมา!
ถึงแม้ไป๋เยวี่ยหูจะบอกว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อพ่อของจิ้งจองน้อยมารับตัวเด็กไปฉลองปีใหม่เขาก็อดสอบถามไม่ได้ ไม่ถามยังไม่เป็นไร แต่พอถามแล้วกลับได้คำตอบว่าถ้าหางหลุดคือกำลังจะตาย! ได้ยินแบบนั้นเขาก็รีบกลับไปคุยกับชายหนุ่มอีกรอบ งานนี้ไป๋เยวี่ยหูอ้างจนสีข้างถลอกเดือดร้อนถึงอิ่นสวินที่อยู่ข้างๆไปด้วย แต่เมื่อคนหล่อก็ดูสบายดีแถมเพื่อนสนิทก็พยักหน้ารับเป็นลูกคู่ ลู่ชิงจิ่วจึงยอมเชื่อในที่สุด จิ้งจองบ้านตัวเองก็แค่พลัดหางได้เหมือนตุ๊กแกเท่านั้นเอง มีอะไรต้องตกใจกันล่ะ
หลังปีใหม่ อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็วพวกเขา3คนเข้าเมืองไปซื้อของก่อนจะได้พบดาราที่กำลังถ่ายทำรายการอยู่ เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ยังเจอว่าทีมงานนี้มีเป้าหมายเป็นหมู่บ้านของเขานั้นเอง เดิมที่คิดจะไม่สนใจแต่คนกลุ่มใหญ่เข้ามาทำเสียงดังในหมู่บ้านที่ไม่ต้อนรับคนนอก ทั้งยังเช่าบ้านผีสิงที่คนตายทั้งครอบครัว ที่สำคัญยังมาเด็ดผักในสวนจนไป๋เยวี่ยหูโกรธมาก
ลู่ชิงจิ่วกับอิ่นสวินคิดว่าคนกลุ่มนี้แปลกพิกล พวกเขาไปเตือนให้รีบย้ายออกไปด้วยความหวังดี เรื่องที่คนในไม่ต้องรับคนนอกนั้นไม่อันตรายเท่าที่อยู่ๆพวกเขามาเช่าบ้านผีสิงแบบนี้หรอก คำเตือนนี้นอกจากดาราดังคนหนึ่งแล้วก็ไม่มีใครใส่ใจ แต่ปรากฏว่าตกดึกพวกเขาฝันประหลาด วันต่อมาจึงถึงจะย้ายออกด้วยความหวาดกลัว
เดิมทีนั้นผู้กำกับไม่ยอม แต่ก็ค้านเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ ขากลับอยู่ๆทุกคนบนรถก็วูบหลับ ดาราดังเจียงปู้ฮ่วนมีพระดีกับตัว วินาทีสำคัญเขาได้สติและเบี่ยงพวงมาลัยรถไว้ได้ รอดจากความตายไปหนึ่งครั้ง ด้วยสัญชาติเขาหันหันกลับมาเจอสีหน้าของผู้กำกับที่ไม่ได้หลับเหมือนคนอื่น ไม่รู้ว่าตอนนั้นเขาเข้าใจผิดไปเองรึเปล่า เพราะคนบนรถต่างสะลึมสะลือขึ้นมาทันที
หลังจากวันนั้นเจียงปู้ฮ่วน(ดาราดัง)ก็รู้เลยว่าความตายขยับเข้ามาเรื่อยๆ เขาเจอเหตุการณ์นานับประการณ์จนในที่สุดก็กระเสือกกระสนมาถึงบ้านของเด็กหนุ่มที่เคยเตือนเขาคนนั้น
ฝั่งลู่ชิงจิ่ว(นายเอก)หลังกองถ่ายย้ายออกไปเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก จนกระทั้งดาราหนุ่มโซซัดโซเซมาหาและเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เดิมทีเขาคิดจะปฏิเสธเพราะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ไป๋เยวี่ยหู(พระเอก)ก็ตอบรับให้อีกฝ่ายอยู่ที่นี่ก่อน ดังนั้นเมื่อจูเหมี่ยวเหมี่ยว(เพื่อนนายเอก)ที่มาเที่ยวเธอจึงแทบกรีดแตกเมื่อเจอดาราดัง
ตกดึกลู่ชิงจิ่วได้ยินเสียงแปลกๆมาจากนอกบ้าน เขารีบออกไปและพบสัตว์ประหลาดสู้กันในหมอกหนา ทั้งๆที่เสียงดังขนาดนี้ กลับไม่มีใครรู้ตัวเลยนอกจากเขาและเจียงปู้ฮ่วน เขาเป็นห่วงไป๋เยวี่ยหูมากเพราะการต่อสู้รุนแรงจนฝนตกลงมาเป็นแอ่งเลือด ทั้งยังมีเกล็ดดำตกอยู่เต็มไปหมด เขาเห็นแล้วชอบก็เก็บไว้อันหนึ่ง เมื่ออีกฝ่ายกลับลงมาก็พบว่าได้แผลใหญ่จริงๆ
ขณะช่วยททำแผลให้ เขาก็โดนถามถึงของที่เก็บมาซึ่งเขาก็ตอบไปตามตรงว่ามันดูดีเลยเก็บไว้ ไม่ทันสงเกตุเลยว่าใบหน้าของอีกฝ่ายขึ้นสีแดงระเรือ
เช้าต่อมาหลังทักทายเจียงปู้ฮ่วนที่สับสน เขาต้อนรับอิ่นสวินที่มาด้วยสีหน้าอ่อนล้า เมื่อคืนเทพภูเขาตกใจกลัวแทบแย่ ก่อนที่อิ่นสวินจะพบว่าเพื่อนของตนเก็บเกล็ดเสีดำอาไว้แถมไป๋เยวี่ยหูก็ยอมให้เก็บไว้ด้วย เดิมทีต้องเป็นคนรักถึงจะเก็บของแบบนี้ไว้ได้ไม่ใช่เหรอ อิ่นสวินไม่รู้จะอธิบายยังไงได้แต่เงียบไว้ด้วยความตกใจ
ลู่ชิงจิ่วทำอาหารจัดเต็มแบบหมดตู้เย็นเพื่อฟื้นฟูกำลังให้ไป๋เยวี่ยหู รวมถึงอยู่เป็นเพื่อนเขา ขณะที่3คนที่เหลือขึ้นเขาไปเดินเล่น เขานอนหลับไปตื่นหนึ่งก่อนพบว่าไป๋เยวี่ยหูกำลังจ้องตัวเองตาเป็นมัน ลู่ชิงจิ่วถามถึงอาการบาดเจ็บก่อนจะถูกดึงเข้าบทสนทนาแปลกๆ ลูบอกกับลูบหางเหมือนกันรึไง แต่เมื่ออีกฝ่ายต้องการเขาก็ลูบอกให้พร้อมยังชมไปในตัว ไป๋เยวี่ยหูถึงได้ยิ้มออกมา
(จบเล่ม2)
Social Plugin