[รีวิว] ซุป’ตาร์ กับงานวิวาห์ปลอมๆ 2 เล่มจบ
เล่มแรก อ่านแล้ว...โคตรเครียดเลยโว้ย! ความสัมพันธ์ของเล่ม1นี่ น่าอึดอัดขั้นสุด
แต่พอมาถึงเล่มสอง เรื่องราวก็เล่าออกมาสวยงามมาก อิ่ม ยิ้ม และรู้สึกได้ถึงรักจริงๆ
ก่อนจะไปพูดถึงเรื่องราวในหนังสือ มาพูดถึงความประทับใจที่มีให้นายเอกก่อนดีกว่า
ด้วยความที่เราอ่านแนวแม่รี่ซูจนเคยชิน ชอบตัวเอกเก่งๆหรือมีความมั่นใจในตัวเอง เฟ่ยเข่อ(นายเอก)จึงเป็นบุคลิกที่เราไม่ชินเอาซะเลย เขาเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง แสดงออกไม่เก่งและพูดก็ไม่เก่งด้วย ดังนั้นตลอดการดำเนินเรื่อง เราจะเห็นเขาอึกอักตลอดเวลา เมื่ออ่านไปเรื่อยๆก็ได้ทำความรู้จักเด็กหนุ่มที่มีความ ‘เรียล’ มากๆ
นายเอกนั้น ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร ปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามกระแส
เพราะลำบากมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงคิดเรื่องของที่บ้านมาก่อนตัวเองเสมอ จนหลายครั้งจังหวะชีวิตนั้นรวดเร็วเสียจนไม่สามารถถามตัวเองให้ดี เขาก็ต้องตัดสินใจเลือกแล้ว และเพราะเป็นที่พึ่งของคนในบ้าน เขาจึงกดความสับสนของตัวเองเพื่อความมั่นคงในใจของคนอื่น ติดเป็นนิสัยที่ไม่พึ่งพาไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร
เมื่อที่บ้านประสบปัญหาการเงินฉุกเฉิน เขาเลยเข้าวงการ เพราะมันได้เงินก้อนใหญ่เร็วที่สุด ขณะที่คนอื่นเสียดายอนาคตต่อป.โท เขากลับไม่ได้รู้สึกอะไร เขาไม่ได้ชอบมัน แค่ทำได้ดีและคิดว่าจบมามีงานมั่นคง ถ้าเข้าวงการบันเทิงแล้วได้เงิน มันก็เหมือนๆกันหมด
นายเอกที่นิสัยละเอียดอ่อนแบบนี้จะต้องมาเจอกับพระเอกที่...(พูดยากจริง..) มองออกยาก..
ทันทีที่ความหวั่นไหวเกิดขึ้น เขาก็จะต้องบอกตัวเองว่ามันเป็นแค่การแสดงเท่านั้น อ่านแล้วมันน่าถอนหายใจจริงๆเลย
จากชื่อเรื่อง เราคงรู้กันอยู่แล้วว่าคู่พระ-นาย แต่งงานกันปลอมๆเพื่อกลบข่าวฉาวที่มีคนใส่ร้ายพระเอก ดังนั้นตลอดเล่ม1 เราจะได้เห็นความน่าอึดอัดในความสัมพันธ์ที่นายเอกจะไม่เคยลืมตัวเลยว่า พวกเขาทั้งคู่ เป็นของปลอม
คงลืมได้หรอก แป๊ปๆก็มีคนมาเตือนว่า นายห้ามหลงพระเอกนะ อีก3ปีต้องหย่ากัน
หรือ เจอพระเอกใจดีเข้าหน่อย ก็ต้องมีคนมาเตือนว่า อยู่ต่อหน้าสื่อหน้ากล้องก็แบบนี้แหละ
หรือ ได้ของขวัญจากพระเอก ก็จะมีคนมาเตือนว่าพระเอกใช่เงินเป็นน้ำ ทุกคนเคยได้ของจากเขากันหมด!
รถอยากจะวิ่ง แต่เจอด่านเยอะเหลือเกิน..คนอ่านโดนเบรกจนจะบ้าแล้ว
พอจะมาเขียนรีวิวฉากหวาน ในเล่ม1กลับไม่รู้จะพูดถึงจุดไหนดี
ทั้งที่จริงๆแล้วมีจุดฟินเยอะมาก ตอนอ่านนี้ยิ้มไม่หุบ เวลาอยู่ด้วยกัน2คน มันน่าลุ้นมากๆนะ บรรยากาศแบบ มาแล้ว ฟิลลิ่งแฟนแรงมาก!
แต่ว่าเราที่เป็นคนอ่านมองไม่ออกและไม่กล้าตัดสินด้วย
ว่าพระเอกจริงใจ หรือกำลังแสดงอยู่
และทันทีที่มีโมเม้นต์ ก็มีคนอื่นมาถือไม้ตีคนอ่าน คอยบอกคู่พระ-นายว่าจำได้ไหมพวกนายแค่แกล้งทำ ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ อีก3ปีพวกนายจะหย่ากันนะ ไม่ใช่คนรักกันจริงๆซักหน่อย ตัวละครอื่นที่รู้ดีว่าพวกเขาเป็นคนรักกันปลอมๆ ก็จะคอยจับพวกเขาแยกกัน เพราะเป็นห่วงว่าทั้งคู่จะถล่ำลึก เมื่อเลิกกันก็จะกลายเป็นความเจ็บปวด
ฟิลของเล่ม1 ก็จะเป็นแบบนี้แหละ
ช่วงครึ่งเล่มแรกคนอ่านมุมมองพระเจ้า จะได้เห็นจริงๆว่า พระเอกก็ไม่มีใจให้จริงๆ ทุกอย่างเป็นแค่การแสดง
แต่ครึ่งเล่มหลังนี่คือยังไงนะ คนอ่านสงสัย ผู้ช่วย(มือจับแยกอันดับ1)ก็สงสัย พระเอกเริ่มออกตัวแรง ช่วยนายเอกตลอด ช่วยโดยไม่ยอมให้เขารู้ การกระทำต่างๆเริ่มน่าสงสัย แต่แน่นอนว่า นายเอกไม่ได้รู้ด้วยเลยว่าพระเอกช่วยเหลือเขาขนาดไหน ตอนจบเล่มหนึ่งยังย้ำกับตัวเองอยู่เลยว่า พวกเขาไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันจริงๆซักหน่อย แม่เจ้า บรรยากาศกำลังดีแท้ๆ เป็นน้ำตาลเคลือบยาพิษเหลือเกิน!
ทุกครั้งที่นายเอกรู้สึกดีๆหรือได้รับการกระทำที่อ่อนโยน พระเอกจะต้องอ้างว่ามีกล้องอยู่ ใช่เป็นข่าวได้ หรือสุดจะหาเรื่องอ้าง ทำเอาจบเล่ม1 เราอยากรู้เลยว่า ตอนที่พระเอกชอบนายเอกแล้ว จะทำยังไงให้อีกฝ่ายเชื่อว่าไม่ได้กำลังแสดง นี่จริงใจจริงๆนะ?
เล่ม2
คนอ่านในมุมมองพระเจ้า เห็นชัดแล้วว่าพระเอกชอบ คิดจะจีบนายเอก แต่!
ช่วงนี้นายเอกกำลังสับสนอย่างหนัก จากการที่โดนตัวประกอบพูดใส่ช่วงที่ไปออกรายการคู่รัก อย่าถล่ำลึก ช่วงแรกมันจะสดใสงดงามแบบนี้แหละ ขอให้เขาคิดดูว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ราชาจอเงินเชี่ยวนะอีกฝ่ายแค่กำลังแสดงเท่านั้นเอง
นายเอกคือ ทุกคนรอบตัวค่อยย้ำซ้ำๆซากๆจนเป๋ไปเลย
แต่พระเอกก็คืออพระเอก เขาเริ่มดำเนินการจีบโดยการถึงเนื้อถึงตัวมากขึ้น ใช่การจูบเป็นเครื่องยืนยันว่าอีกฝ่ายไม่ได้รังเกียจตัวเอง และเมื่อโอกาสมาถึงเขาก็คว้างานดีๆมาให้นายเอก ซึ่งเป็นบทจากภาพยนตร์ที่เขาลงทุนและแสดงเป็นพระเอก
ส่วนนี้เป็นจุดที่เรารอคอยมากๆ นิยายแนววงการบันเทิงจะไม่มีฉาก พระ-นายเข้ากองถ่ายภาพยนตร์เรื่องเดียวกันได้ยังไง!
เมื่อก่อนโดนจับแยกกันตลอด แต่ตอนนี้ต้องออกกองด้วยกัน2เดือน ต่อบทคลุมเครือด้วยความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ ไหนจะการแสดงที่ส่งอารมณ์กันและกันอีก ถึงแม้ราชาจอเงินจะสะดุดหลุมกับดักที่ตัวเองเคยวางไว้(จุดที่เอะอะ ชอบอ้างกล้องกับนักข่าวตลอด) แต่สุดท้ายก็ทำสำเร็จล่อหลอกจนนายเอกหลงรักเขาจนได้
และในช่วงถ่ายภาพยนตร์นายเอกได้เรียนรู้หลายเรื่อง ไม่ใช่แค่ความรู้สึกของตัวเอง แต่ยังมีอดีตของพระเอกด้วย
วัยเด็กของลู่สิ่งเหวิน(พระเอก)ที่ต้องหลบอยู่แต่ในห้องเพราะพ่อแม่ทะเลาะกันก่อนหย่าร้าง เขามีเพียงนิยายและภาพยนตร์อยู่เป็นเพื่อน กับช่วงเวลาก่อนจะเป็นราชาจอเงิน นักแสดงวัยรุ่นที่โดนนายทุนหมายหัวจนเกือบไม่มีงาน
เรื่องเหล่านี้ผลักดันให้นายเอกอยากทำอะไรบางอย่าง จนสุดท้ายเขาก็กลับไปเรียนต่อแล้วเปิดบริษัทบันเทิงมาสนับสนุนพระเอก นี่เป็นครั้งแรกที่นายเอกมีเป้าหมายเป็นของตัวเอง ความต้องการของเขาเองจริงๆ
ครึ่งหลังเล่ม2นี้เรียกกว่ายิ้มแก้มปริเลยทีเดียว เฮ้อ คุ้มค่ากับที่เชียร์จนเหนื่อยจริงๆ!
และทันทีที่มีโมเม้นต์ ก็มีคนอื่นมาถือไม้ตีคนอ่าน คอยบอกคู่พระ-นายว่าจำได้ไหมพวกนายแค่แกล้งทำ ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ อีก3ปีพวกนายจะหย่ากันนะ ไม่ใช่คนรักกันจริงๆซักหน่อย ตัวละครอื่นที่รู้ดีว่าพวกเขาเป็นคนรักกันปลอมๆ ก็จะคอยจับพวกเขาแยกกัน เพราะเป็นห่วงว่าทั้งคู่จะถล่ำลึก เมื่อเลิกกันก็จะกลายเป็นความเจ็บปวด
ฟิลของเล่ม1 ก็จะเป็นแบบนี้แหละ
ช่วงครึ่งเล่มแรกคนอ่านมุมมองพระเจ้า จะได้เห็นจริงๆว่า พระเอกก็ไม่มีใจให้จริงๆ ทุกอย่างเป็นแค่การแสดง
แต่ครึ่งเล่มหลังนี่คือยังไงนะ คนอ่านสงสัย ผู้ช่วย(มือจับแยกอันดับ1)ก็สงสัย พระเอกเริ่มออกตัวแรง ช่วยนายเอกตลอด ช่วยโดยไม่ยอมให้เขารู้ การกระทำต่างๆเริ่มน่าสงสัย แต่แน่นอนว่า นายเอกไม่ได้รู้ด้วยเลยว่าพระเอกช่วยเหลือเขาขนาดไหน ตอนจบเล่มหนึ่งยังย้ำกับตัวเองอยู่เลยว่า พวกเขาไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันจริงๆซักหน่อย แม่เจ้า บรรยากาศกำลังดีแท้ๆ เป็นน้ำตาลเคลือบยาพิษเหลือเกิน!
ทุกครั้งที่นายเอกรู้สึกดีๆหรือได้รับการกระทำที่อ่อนโยน พระเอกจะต้องอ้างว่ามีกล้องอยู่ ใช่เป็นข่าวได้ หรือสุดจะหาเรื่องอ้าง ทำเอาจบเล่ม1 เราอยากรู้เลยว่า ตอนที่พระเอกชอบนายเอกแล้ว จะทำยังไงให้อีกฝ่ายเชื่อว่าไม่ได้กำลังแสดง นี่จริงใจจริงๆนะ?
เล่ม2
คนอ่านในมุมมองพระเจ้า เห็นชัดแล้วว่าพระเอกชอบ คิดจะจีบนายเอก แต่!
ช่วงนี้นายเอกกำลังสับสนอย่างหนัก จากการที่โดนตัวประกอบพูดใส่ช่วงที่ไปออกรายการคู่รัก อย่าถล่ำลึก ช่วงแรกมันจะสดใสงดงามแบบนี้แหละ ขอให้เขาคิดดูว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ราชาจอเงินเชี่ยวนะอีกฝ่ายแค่กำลังแสดงเท่านั้นเอง
นายเอกคือ ทุกคนรอบตัวค่อยย้ำซ้ำๆซากๆจนเป๋ไปเลย
แต่พระเอกก็คืออพระเอก เขาเริ่มดำเนินการจีบโดยการถึงเนื้อถึงตัวมากขึ้น ใช่การจูบเป็นเครื่องยืนยันว่าอีกฝ่ายไม่ได้รังเกียจตัวเอง และเมื่อโอกาสมาถึงเขาก็คว้างานดีๆมาให้นายเอก ซึ่งเป็นบทจากภาพยนตร์ที่เขาลงทุนและแสดงเป็นพระเอก
ส่วนนี้เป็นจุดที่เรารอคอยมากๆ นิยายแนววงการบันเทิงจะไม่มีฉาก พระ-นายเข้ากองถ่ายภาพยนตร์เรื่องเดียวกันได้ยังไง!
เมื่อก่อนโดนจับแยกกันตลอด แต่ตอนนี้ต้องออกกองด้วยกัน2เดือน ต่อบทคลุมเครือด้วยความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ ไหนจะการแสดงที่ส่งอารมณ์กันและกันอีก ถึงแม้ราชาจอเงินจะสะดุดหลุมกับดักที่ตัวเองเคยวางไว้(จุดที่เอะอะ ชอบอ้างกล้องกับนักข่าวตลอด) แต่สุดท้ายก็ทำสำเร็จล่อหลอกจนนายเอกหลงรักเขาจนได้
และในช่วงถ่ายภาพยนตร์นายเอกได้เรียนรู้หลายเรื่อง ไม่ใช่แค่ความรู้สึกของตัวเอง แต่ยังมีอดีตของพระเอกด้วย
วัยเด็กของลู่สิ่งเหวิน(พระเอก)ที่ต้องหลบอยู่แต่ในห้องเพราะพ่อแม่ทะเลาะกันก่อนหย่าร้าง เขามีเพียงนิยายและภาพยนตร์อยู่เป็นเพื่อน กับช่วงเวลาก่อนจะเป็นราชาจอเงิน นักแสดงวัยรุ่นที่โดนนายทุนหมายหัวจนเกือบไม่มีงาน
เรื่องเหล่านี้ผลักดันให้นายเอกอยากทำอะไรบางอย่าง จนสุดท้ายเขาก็กลับไปเรียนต่อแล้วเปิดบริษัทบันเทิงมาสนับสนุนพระเอก นี่เป็นครั้งแรกที่นายเอกมีเป้าหมายเป็นของตัวเอง ความต้องการของเขาเองจริงๆ
ครึ่งหลังเล่ม2นี้เรียกกว่ายิ้มแก้มปริเลยทีเดียว เฮ้อ คุ้มค่ากับที่เชียร์จนเหนื่อยจริงๆ!
เราเองก็ได้รู้จักพระเอกมากขึ้นด้วย เขาชอบแววตาของนายเอกที่มองเขาเพียงคนเดียว สายตาที่ชื่นชมและหลงใหลแต่เขา สอดคล้องกับรสนิยมDomSubความอยากควบคุมทุกอย่างของอีกฝ่าย ซึ่งน้องก็คือตอบโจทพระเอกในทุกด้าน เริ่มตั้งแต่จุดเล็กๆอย่างการตั้งใจฟังพระเอกพูดเรื่องศิลปะการแสดง ไปจนถึงการเชื่อฟังทุกอย่างในความสัมพันธ์ของพวกเขา
อ่อ NC...
อ่อ NC...
นายท่าน x เจ้าตัวเล็ก นะ
นายเอกเรามี 3-4ชื่อไปเลย เจ้าตัวเล็ก เด็กดี เด็กดื่อ แล้วก็เจ้าหมาน้อย เป็นไง น่ารักใช่ไหมเล่า
แต่ว่านะ...
สนพ.บอกมี แต่พอเราอ่านแล้ว...มีแหละ แต่มันตัด ฉับ ฉับ
แค่ให้รู้ว่าเขาจะกินกันแล้ว ...ไอ้เรานึกว่าจะมีให้พอฟินซะอีก ฮือ!!!
Social Plugin