(สปอย์) บทเฮงซวยนี้ ไม่ขอรับไว้ เล่ม1

[คำเตือน]

เนื้อหาโพสนี้คือการ สปอย์  ถ้าต้องการอ่านรีวิว *กด*

ต้องการอ่านสปอย์ เลื่อนลงได้เลย ♥



   

(สปอย์) บทเฮงซวยนี้ ไม่ขอรับไว้ เล่ม1

เจี่ยนหวา(นายเอก)สตั๊นแมนหนุ่มคนหนึ่งไปดูหนังที่ตัวเองเคยแสดง หลังออกจากลิฟต์ก็ต้องพบว่า ตนเองหลุดเข้าไปในสถานการณ์ผิดปกติ เมืองนั้นเหมือนเดิมทุกอย่างสิ่งที่ต่างไปคือไร้ผู้คน เงียบสงบ เขากลับบ้านไปทั้งอย่างนั้น (หลังจากนั้นเขาก็ออกมาสำรวจข้างนอกอยู่บ้าง เมื่อไม่เจอใครหรือเบาะแสอะไรเขาก็กลับบ้านไปอีกรอบ)

ในโลกที่ถูกหยุดเวลานั้นกินอะไรก็ไม่อิ่ม ทำให้ไม่มีแรงเมื่อโลกกลับมาเป็นปกติเขายิ่งไม่มีแรงมากขึ้นไปอีก เขาพยายามพยุงตัวเองไปหาของกิน จากเหตุการณ์นี้ทำให้เขารู้ว่าตนสามารถใช้พลังจิตได้ เขาใช้พลังขยับน้ำเข้ามาดื่ม

ด้านหลี่เฟย(พระเอก)ราชาจอเงินก็เจอกับฝรั่งผมแดงที่ขับรถตัดหน้าเขา ทำให้เขาโชคดีไม่เกิดอุบัติเหตุบนสะพาน

แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำให้เขาพลาดการตื่นของพลังไปด้วย

เดิมทีโลกนี้คือนิยายขายดีเรื่องหนึ่ง ตัวเอกเด็กหนุ่มชาวอเมริกัน กับ ตัวร้ายชาวจีน ก่อนที่เนื้อเรื่องทางการจะเริ่มขึ้น เหล่าผู้ทะลุมิติที่เป็นแฟนนิยายเรื่องนี้ก็ตัดสินใจแทรกแซงเนื้อเรื่อง เพราะหลี่เฟย(พระเอก)เป็นราชาจอเงิน โดงดังเกินไปที่จะลอบฆ่าตอนนี้ พวกเขาจึงขัดขวางไม่ให้อีกฝ่ายได้พลัง(หรือตาย)=ไม่มีตัวร้าย=ช่วยโลก

เจี่ยนหวา(นายเอก)ที่ขาดสารอาหารไปให้น้ำเกลือที่คลินิกแห่งหนึ่ง มิติที่เวลาหยุดชะงักเริ่มขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงระเบิดที่โรงแรมเพิร์ล เขามุ่งหน้าไปดูก่อนจะได้เจอคนเป็นที่อยู่ในมิติ อีกฝ่ายดูเตรียมตัวเป็นอย่างดีต่างจากเขาที่ไม่รู้อะไรสักอย่าง ขณะที่กำลังหลอกถามข้อมูล ลู่จ้าวเพื่อนสมัยเด็กของเขาก็เข้ามาตีคนจนสลบ

เจี่ยนหวา(นายเอก)ไม่เคยรู้สึกสนิทใจกับลู่จ้าวเลยสักนิด ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันอีกฝ่ายไม่เคยจริงใจ ฝืนทำตัวชอบพอสนิทสนมกับเขาทั้งที่แววตาหวาดกลัว เขาสงสัยในจุดประสงค์ที่มาตีสนิท ยิ่งโตขึ้นมาเจี่ยนหวาเป็นสตั๊นแมนมีทักษะการแสดงติดตัวบ้างทำให้เห็นชัดเลยว่าลู่จ้าวน่าคลื่นไส้ขนาดไหน เหลือแค่ยังไม่ได้หักหน้าตรงๆเท่านั้น

เวลานี้ลู่จ้าวตีคนอื่นจนสลบ เห็นได้ชัดว่ากำลังปิดบังบางอย่าง หลังลู่จ้าวพยายามซื้อใจอยู่สักพักก็จากไป

ด้านโรงแรมเพิร์ลที่ระเบิด หลี่เฟย(พระเอก)และบอดี้การ์ด เจอเข้ากับผู้ก่อการร้ายกลุ่มใหญ่(ผู้ทะลุมิติ)

ผู้ทะลุมิติกลุ่มนี้นัดพบกัน หมายจะปลุกพลังพิเศษของตัวเองให้ได้ก่อนตัวละครในเนื้อเรื่องและถ้าเจอตลค.ก็คิดจะจัดการซะ เพราะเมืองนี้จะเป็นที่ตั้งขององค์กรตัวร้ายแบล็กอบิส พวกเขาจึงอยากลดจำนวนสิ่งที่เรียกว่าตัวร้ายโดยไม่คิดว่านั้นคือมนุษย์ คนที่อยู่ในโลกนี้คือตัวละคร ผู้ทะลุมิติอย่างพวกเขาต่างหากคือมนุษย์ พวกเขาจัดการค้นห้องระเบิดตึก ก่อนจะออกไปไล่ล่าผู้มีพลังที่อื่นต่อ

ด้านหลี่เฟย(พระเอก)แม้เขาจะพลาดปลุกพลังจากอุบัติเหตุรถยนต์ระเบิด แต่โชคชะตาก็นำพาให้เขามาเจอเหตุระเบิดตึกที่อันตรายกว่าเดิม มันรุนแรงต่อชีวิตจนพลังตื่นขึ้น การถือกำเนิดของบอส ตัวร้ายผู้มีพลังเพลิงระดับS ทำให้ทุกคนทั่วทั้งมิตินี้รับรู้ได้ และเพราะการสั่นสะเทือนของพลังทำให้โลกกลับมาเป็นปกติ

วันต่อมาหลี่เฟย(พระเอก)กับเจี่ยนหวา(นายเอก) นัดเจอเพื่อเซ็นสัญญาสตั๊นแมน แต่กลับพบว่าอีกฝ่ายมีพลังพิเศษเหมือนตนเอง พลังเนตรมารของหลี่เฟย(พระเอก) จะมองเห็นทุกสิ่งที่ไร้พลังเป็นเงาอันซีดจางไร้สีสัน มีเพียงเจี่ยนหวา(นายเอก)เท่านั้นชัดเจนเป็นประกายอยู่ในสายตาเขา ความสนใจของเขาจุดติดขึ้นมาด้วยเหตุผลนี้เอง ก่อนที่พวกเขาจะแนะนำตัวกัน

"หลี่เฟย เพศชาย ชอบผู้ชาย"

"เจี่ยนหวา เพศชาย ชอบคุณ"

ระดับราชาจอเงิน ตอนแรกอาจตกใจแต่ในพริบตาก็มองออกอย่างรวดเร็ว เจี่ยนหวาไม่ได้ชอบเขาแต่ชอบ แม่ทัพ บทบาทที่เขาเคยแสดงต่างหาก เหตุการณ์นี้แม้ภายนอกจะยิ้มแย้มแต่ข้างในอึดอัดไม่น้อยถึงขนาดโพล่งระบายกับบอดี้การ์ดตอนขากลับเลยทีเดียว

ลู่จ้าว(ผู้ข้ามมิติ)กำลังอารมณ์เสีย โลกที่ถูกทอดทิ้ง(มิติที่พระนายถูกดูดเข้าไป)จบเร็วเกินไป และเขายังเห็นเสาเพลิงที่โรงแรมด้วย มันไม่ควรเป็นแบบนี้ พล็อตเรื่องถูกเปลี่ยนจนเละไปแล้ว เขาได้แต่ด่าผู้ทะลุมิติคนอื่น

เหตุการ์ณโรงแรมระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น วุ่นวายใหญ่โตจนภาครัฐส่งทหารเข้ามาสืบสวน จางเย่าจิน(หัวหน้าหน่วยมังกรแดง)เข้าจับกุมผู้ข้ามมิติได้คนหนึ่งและพบแชตที่พูดคุยว่าโลกนี้คือนิยาย

หลี่เฟย(พระเอก/ปีศาจไฟ-เนตรมาร) เปิดโต๊ะแถลงข่าว เพื่อแสดงตัวว่าเขาสบายดี ไม่ได้บาดเจ็บสาหัสจากข่าวลือโรงแรมระเบิด ร่วมถึงปัดข่าวฉาวที่นักแสดงคนหนึ่งพยายามเกาะกระแสเขา และบอกถึงว่าเขามีคนที่ชอบแล้วถึงแม้คนๆนั้นจะไม่รู้ตัวก็ตาม(เจี่ยนหวา)

แน่นอนว่าการให้สัมภาษณ์แบบนี้ทำโซเซียลแทบระเบิด หลังงานแถลงข่าว เหลียงจวิน (CEO/เจ้านายหลีเฟย/พ่อบุญธรรมพันตรีจางเย่าจิน)กำลังถามข่าวซุบซิบกับหลีเฟย พันตรีจางเย่าจินก็เข้ามาขอความร่วมมือพาตัวหลีเฟยและเกิ่งเถียน(บอดี้การ์ด)ไปกลางความงุนงง

จางเย่าจิน (หัวหน้าหน่วยมังกรแดง)พยายามสอบสวนราชาจอเงินถึงเหตุการณ์ระเบิดตึกของผู้ก่อการณ์ร้าย จางเย่าจินนั้นสมเป็นเป็นหัวหน้า แต่ลูกน้องที่ถืออาวุธคุมเชิงอยู่นั้นยังคุมสีหน้าและอารมณ์อ่อนหัดมาก หลี่เฟย(พระเอก)สังเกตปฏิกิริยาของพวกเขา รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดไม่น้อย หลี่เฟยให้ความร่วมมือ เขาไม่ได้พูดถึงโลกที่เวลาหยุดลงแต่พูดถึงว่าตนเองได้ยินผู้ก่อนการร้าย(ผู้ทะลุมิติ)คุยกันเรื่องแปลกๆอย่าง อเวค

จางเย่าจินพยักหน้ารับ เรื่องนี้เหมือนกับที่เขาเห็นในเชตประหลาดนั้น เขาขอคุมตัวหลีเฟยไว้ก่อน

ฝั่งเจี่ยนหวา(นายเอก) เขาได้ดูสัมภาษณ์นั้นเหมือนกันและไม่ได้เชื่อมโยงกับตนเองแม้แต่น้อย แล้ววันนี้เขาก็นึกได้ โลกที่ถูกทอดทิ้งปรากฏขึ้นครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์ ตอนนี้คนที่เข้าลิฟต์พร้อมเขาตายแล้ว ในฐานะคนร่วมลิฟต์เขาจะไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเหรอ เมื่อคิดได้เขาก็ย้อนกลับไปโรงภาพยนตร์เพื่อลบภาพในกล้องวงจนปิด

เมื่อเขาไปถึงก็เจอผู้หญิงมีพลังพิเศษที่พูดอะไรแปลกๆ เขาฟังเพื่อรวบรวมข้อมูลและไม่ออกไปพบเธอ เจี่ยนหวา(นายเอก)ปวดหัวไปหมด คนพวกนี้มันอะไรกัน มิติประหลาดควรเป็นสิ่งแปลกใหม่ ที่รับมือไม่ทันทำตัวไม่ถูก แต่คนพวกนี้ ทั้งผู้หญิงคนนี้ ลู่จ้าว และคนปั่นจักยานวันนั้น เห็นได้ชัดว่ารู้เรื่องราวเตรียมตัวล่วงหน้ามาอย่างดี

ผู้หญิงคนนี้และลู่จ้าวยังพยายามเป็นพันธมิตรกับเขาอีกด้วย

เจี่ยนหวา(นายเอก)กลับบ้านมาพัก และคืนนั้นเองจางเย่าจิน(หัวหน้าหน่วยมังกรแดง)ก็มาหาเขาถึงบ้าน ขณะที่เจี่ยนหวากำลังคิดว่าเรื่องนี้จะไปทางไหน  จางเย่าจินก็สังเกตรอบตัวด้วยความระวังกึ่งตรึงเครียด ในแชตประหลาดและข้อมูลที่เขาหามาได้ พูดคุยกันว่าเจี่ยนหวานิสัยประหลาด พลังแข็งกล้า นิวเคลียร์ในร่างมนุษย์

ขณะเริ่มคุยจางเย่าจิน(หน่วยพิเศษ)เห็นโอกาสทำให้บอสกับลาสบอสทะเลาะกันแล้ว แต่เมื่อคำนึงถึงว่าพวกเขาตีกันขึ้นมาจริง เมืองอาจวินาศสันตะโร เขาก็เลือกพูดความจริงแทน

เขาพูดถึงผู้มีพลังพิเศษ และข้อมูลของโลกที่ถูกทอดทิ้งและมอบข้อมูลสัตว์ประหลาดให้ เขาไม่ต้องการบีบต้อนลาสบอสในอนาคต จึงยื่นไมตรีให้แทน

หลี่เฟย(พระเอก)ถูกปล่อยตัวออกมา พร้อมเกิ่งเถียน(บอดี้การ์ด) หลังกลับบ้านเขาก็เจอCEOกับผู้จัดการรออยู่ ระหว่างนั่งรถ หลี่เฟยได้รับเอกสารมาเช่นกัน ในนั้นไม่มีข้อมูลที่มีประโยชน์แต่มีรายชื่อบุคคลที่ ผู้ทะลุมิติเชื่อว่าเขามีความสัมพันธ์ด้วย เช่นเขากับCEO-ดีลลับ,เขากับจอห์นสัน บราน์(ตัวเอกของนิยาย) -รักแรกพบที่ต่างจุดยืน,เจี่ยนหวา-ความสัมพันธ์ลึกซึ้งของเจ้านายลูกน้อง และชื่ออื่นๆมากมายที่เขาไม่รู้จัก ระว่างขับรถผู้จัดการเห็นเงาประหลาดจนตกใจ เกิ่งเถียนลงไปตรวจสอบก่อนจะหายตัวไปปริศนา

จางเย่าจิน(หัวหน้าหน่วยมังกรแดง)และลูกน้อง เจอหมอกหนาก่อนจะหลุดเข้าไปในโลกที่ถูกทอดทิ้ง ลูกน้องที่ไร้เดียงสาดีใจที่จะได้รู้ว่าโลกนี้เกิดอะไรขึ้นแต่ก็โดนดับความฝันด้วยคำพูดง่ายๆ มีอาหารมาด้วยรึไง จากนั้นพวกเขาต้องเอาตัวรอดจากสัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวขึ้นเร็วที่ข้อมูลบอก

เจี่ยนหวา(นายเอก)เริ่มเตรียมสเบียงพลังงานสูงไว้กับตัว เขารู้ตัวดีว่ามีคนของหัวหน้าหน่วยมังกรแดงติดตาม เมื่อกลับบ้านหลังชื้อของเสร็จเขาก็เจอจางเย่าจินกับเกิ่งเถียนที่บาดเจ็บ ทั้งคู่ถูกส่งโรงพยาบาลจางเย่าจินมีลูกน้องตัวเองรับผิดชอบแล้ว แต่ค่ารักษาของเกิ่งเถียนทำให้เขาต้องติดต่อผู้จัดการหลี่เฟย

แม้จะติดขัดไปบ้างเพราะผู้จัดการเข้าใจว่าเป็นพวกโรคจิต แต่หลี่เฟยที่มีประสบการณ์เข้าใจทันทีและรีบไปโรงพยาบาลท่ามกลางความไม่เข้าใจของผู้จัดการ

เมื่อได้เจอกัน หลี่เฟย(พระเอก)รีบอธิบายกับเจี่ยนหวาว่าเขาไม่ได้เป็นคนหลุดข้อมูลออกไป ความจริงใจนี้ทำให้เจี่ยนหวาสบายใจขึ้นบ้าง แต่ขณะเดียวกันเพราะอยู่ใกล้กันเจี่ยนหวาจึงคิดถึงแม่ทัพอูจึงเหม่อมองหน้าหลี่เฟย หลี่เฟยไม่พอใจแต่นี้ก็ทำอะไรไม่ได้อีก พวกเขาคิดจะไปกินข้าวกลางวัน แต่ก็ต้องหลุดเข้ามาในโลกที่ถูกทิ้งซะก่อน

พวกเขาเจอกับสัตว์ประหลาด พวกก้อนขนตัวเล็กหรือลิงแขนยาวทำอะไรพวกเขาไม่ได้ ถึงพลังของเจี่ยนหวายังไม่ตื่น แต่ไฟของหลี่เฟยแข็งแกร่งมาก พวกเขาไปขึ้นรถคิดจะไปหลบอยู่ที่บ้านเจี่ยนหวาก่อน แต่เมื่อไปได้ครึ่งทางพวกเขาก็เจอกับปลาหมึกยักษ์ที่การโจมตีไฟของหลี่เฟยไม่ได้ผล

ขณะที่รถโดนทุบจนบุบ หนวดบุกเข้ามาข้างในวินาทีอันตราย เจี่ยนหวาจับหนวดอย่างขัดขืนกลายเป็นว่ามีใยสีขาวออกจากตัวเขา ไหลผ่านเข้าไปในหนวด ป่าหมึกยักษ์ดิ่นพล่านตายไปในที่สุด

พวกเขาไปทำแผลที่คลินิกหมอเฉิงก่อนจะกลับย่านคอนโด เมื่อมาถึงก็ต้องอึ้ง ที่นี่ไม่มีร่องรอยของสัตว์ประหลาด แต่กลับมีเห็ดโตสีขาวเทาขึ้นอยู่อยู่มากมาย ทั้งตัวตึกและตามพื้น หลี่เฟยหวาดระแวงมีสัตว์ประหลาดแล้วอาจจะมีพืชประหลาดบ้างก็ได้ แต่เจี่ยนหวากลับนึกได้ว่าวันที่กลับมาจากลิฟต์ เห็ดในบ้านเขาหายไปกล่องหนึ่ง มันคือเห็ดนางรมซึ่งหน้าตาเหมือนเข้าพวกนี้ไม่ผิด

ด้วยเนตรมารหลี่เฟยรู้ตัวก่อนเจ้าของพลังซะอีก เจ้าพวกนี้คือกลุ่มพลังที่หน้าตาเหมือนเห็ดแต่ไม่ใช่เห็ดจริงๆ เป็นพลังของเจี่ยนหวา เจ้าตัวอึ้งหนัก พลังของเขาคือปลูกเห็ด? ขณะที่อีกฝ่ายเป็นไฟเท่ๆ? แต่หลังปรึกษากันถึงการตายของปลาหมึก เขาก็คิดว่านี้คือพลังดูดกลืนชนิดหนึ่ง

หลังจากนั้นหลี่เฟยก็พักอยู่ในบ้านของคนที่ตัวเองแอบชอบ เขาสามารถมองเห็นนิสัยและการใช้ชีวิตของจี่ยนหวาได้ อีกฝ่ายชอบความเงียบสงบ สะดวกสบาย ไม่ชอบเรื่องยุ่งยาก และไม่ได้จุกจิกกับอะไรเล็กๆน้อยๆ เฟอร์นิเจอร์ที่ควรมีนั้นมีครบ แต่กับของตกแต่งนั้นไม่มีเลย และยิ่งไม่มีของที่แสดงถึงความชอบสักชิ้นเดียว

เป็นบ้านที่เย็นชาและไร้ชีวิตชีวาแบบหนึ่ง

เรียกว่าเป็นคนไม่ซับซ้อน แต่สนิทด้วยยาก ถ้าอยากเป็นที่จดจำและเป็นคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ อาจจะต้องลำบากหน่อย

พวกเขาใช้ชีวิตเหมือนวันหยุดพักผ่อนที่แสนหายาก ผ่านไปสองวันครึ่งโลกก็กลับมาปกติอีกครั้ง และได้เจอจางเย่าจิน (หัวหน้าหน่วยมังกรแดง)อีกครั้งที่ร้านอาหาร ครั้งนี้อีกฝ่ายบอกความลับอันยิ่งใหญ่ออกมา นั้นคือโลกใบนี้คือนิยาย  พวกเขา2คนเป็นบอสและลาสบอส ส่วนตัวเอกเป็นชาวอเมริกันอายุ14คนหนึ่ง

เรื่องนี้น่าตกใจมากเกินไป เจี่ยนหวารับไม่ได้อยู่บ้าง เขาก็ใช่ชีวิตปกติของตัวเองทำไมอยู่ๆถึงกลายเป็นลาสบอสได้ ยังดีที่เขาได้หลี่เฟยที่อยู่ข้างๆ พูดจนสงบใจได้อีกครั้ง “พวกเรายังแยกความแตกต่างระหว่าตัวเองกับนิยายได้ คุณยังเป็นคุณ”

หลี่เฟยกับเจี่ยนหวามาถ่ายหนังด้วยกัน ระหว่างนั้นยังได้คุยถึงโลกใบนี้ ถ้าโลกนี้เป็นนิยายหลี่เฟยกลัวว่าโลกจะหายไปถ้าตัวเอกอย่างจอห์นสันบราน์ตาย แต่เจี่ยนหวานั้นไม่ซีเรียส ตัวเอกจะตายแล้วยังไง โลกนี้จะพังทลายก็ปล่อยไปเถอะ เรียกว่าเป็นมายเซ็ตของลาสบอสโดยแท้จริง

ระหว่างถ่ายทำพวกเขาก็ได้รู้จักอีกฝ่ายมากขึ้น เรียกว่าช่วงจีบเบาๆช่วงหนึ่ง เจี่ยนหวารู้สึกว่าอยู่กับหลี่เฟยแล้วมีความสุขทีเดียว เขายอมเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง และยังแสดงถึงความชอบส่วนตัวครั้งแรกนั้นคือความเลือกกิน น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่พระเอกหยอด10ครั้ง นายเอกก็ไม่เข้าใจทั้ง10ครั้ง ขนาดผู้ช่วยยังเข้าใจผิดคิดว่าหลี่เฟยดีใจที่อีกฝ่ายตั้งใจทำงาน

หลังถ่ายหนังไปได้พักหนึ่ง โลกที่ถูกทอดทิ้งก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่รอบนี้การซ้อนทับไม่เสถียรนัก พวกเขา2คนยังไม่ถูกดึงเข้าไปแต่กลายเป็นว่าไฮฟา(สปอร์เห็ด-พลังของเจี่ยนหวา)ลากคนจากโลกโน้นมาโลกนี้แทน อาการบาดเจ็บนี้ไม่ใช่ฝีมือของไฮฟาเพราะรอยแผลสัตว์ประหลาดชัดเจนมาก แต่ตอนนั้นเองที่เจี่ยนหวากังวลขึ้นอย่างประหลาดกับไฮฟาที่ยังโตไม่หยุด หลีเฟยจะคิดยังไงนะ

กองถ่ายโกลาหลจากศพโผล่กลางอากาศ ขณะรอตำรวจและรถพยาบาลก็มีคนไร้จิตสำนึกถ่ายภาพไปลงเน็ตแล้ว แต่ถึงในภาพจะมีศพแต่คนส่วนใหญ่โฟกัสนักแสดงลำดับ3ที่เป็นลมหน้าซีด ไม่ได้สนอย่างอื่นเลยสักนิด ขณะเดียวกัน กองถ่ายในสายตาหลีเฟยก็เริ่มแกว่งอีกแล้ว

เมื่อนึกถึงประสบการณ์ปลาหมึกยักษ์ น่ากลัวว่าโลกอีกฝั่งจะเป็นสมรภูมิรบอยู่ถ้าปล่อยไว้ สตูดิโอจะเสียหายหนัก คนในกองถ่ายก็อาจจะเจออันตรายด้วย พวกเขาจึงต้องไปโลกที่ถูกทิ้งเพื่อช่วยสตูดิโอ เจี่ยนหวากลัวพลังของตัวเองไม่น้อย ตอนที่มันลากคนออกมามันไม่เปื้อนเลือดแม้แต่น้อย นี่แปลว่ามันดูดเลือดงั้นเหรอ

หลี่เฟยเห็นความหวั่นไหวนั้น เขาปลอบอยู่ข้างๆอย่างจริงจัง ครั้งก่อนจางเย่าจินกับเกิ่งเถียนก็บาดเจ็บอยู่หน้าบ้าน เห็ดก็ไม่ได้ทำอะไรพวกเขา ครั้งนี้มันก็คงทำความสะอาดตัวเอง(กิน)เฉพาะส่วนที่สัมผัส ส่วนที่เลอะพื้นอยู่ไม่เห็นมันสนใจ

ได้ยินแบบนี้ เจี่ยหวาสบายใจขึ้นบ้าง ตั้งแต่ฆ่าหมึกฝนเมื่อคราวก่อนเขาก็กังวลใจมาตลอด ถ้าพลังนี้ตั้งใจโจมตีมนุษย์ กลืนกินพลังชีวิต แล้วแบบนี้ต่างจากการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่กินคนตรงไหนกัน

พวกเขาเข้าสู้โลกที่ถูกทอดทิ้ง ตอนนี้สตูดิโอถูกเห็ดยึดครองไว้หมดแล้ว ไกลออกไปยังมีลิงแขนยาวที่พยายามหนีกับเห็ดที่ไล่ตาม อีกมุมหนึ่งมีคนบาดเจ็บนอนอยู่ รวมถึงยังมีคุกเห็ดที่ขังฟูงลิงไว้ด้วย ทั้งหมดนี้ไฮฟาจัดการโดยที่เจี่ยนหวาไม่รู้เรื่องสักอย่าง

ภาพตรงหน้าทำให้เจี่ยนหวานึกถึงสิ่งที่จางเย่าจินบอก เขาคือลาสบอส เขาอยากยึดครองโลก คำพูดไร้สารที่ย้อนกลับมาพร้อมพลังทำลายมหาศาล ทุกอย่างบีบคั้นจนเจี่ยนหวาหายใจไม่ออกชั่วขณะ

เขามองไปทางหลี่เฟย อีกฝ่ายไม่ได้ยิ้มแบบปกติ แต่ก็ปราศจากความกลัวเช่นกัน หลี่เฟยเห็นความผิดปกติจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นเองที่เจี่ยนหวารู้สึกเหมือนเจอขอนไม้ช่วยชีวิต เขาพลิกมือไปจับกุมความอบอุ่นนั้นไว้ เขาไม่อยากได้พลังแบบนี้

ทันทีที่เขาพูดเหล่าเห็ดก็สงบลง

หลีเฟยเป็นห่วงเจี่ยนหวาเช่นกัน หลังเข้าใจสถาการณ์ที่เห็ดทำตามอำเภอใจ เขาก็ปลอบอีกฝ่าย บางทีโลกแห่งนี้อาจอันตรายเกินไปเห็ดจึงแสดงความพยายามออกมาเป็นแบบนี้ พวกมันไม่โจมตีคนซึ่งเป็นไปตามจิตสำนึกของเจี่ยนหวาเอง อย่าหมดศรัทธาในตัวเองเด็ดขาด

พวกเขาคุยกันเสียงเบา แต่คนที่ฟุบอยู่ก็รู้สึกได้ว่ามีคนอื่นเข้ามาแล้ว เขาเรียกหาความช่วยเหลือ แต่ดูมีพลังกว่าพวกลิงที่ถูกขังซะอีก

พวกเขาช่วยคน เคลียร์พื้นที่ เช็คความปลอดภัยของสตูดิโอ หลีเฟยที่เหนื่อยจากการถ่ายหนังติดต่อกันหลายวันถือโอกาสพัก เจี่ยนหวาถือโอกาสออกไปด้านนอก ทิ้งไฮฟ่าให้ดูแลความปลอดภัยของหลีเฟย

เจี่ยนหวาได้เจอกลุ่มคนในนั้นมีทั้งผู้ทะลุมิติและผู้มีพลังพิเศษ เขาลอบฟังอยู่สักพักก่อนแฝงตัวเข้าไปอยู่ด้วย ถือว่าได้ข้อมูลเล็กน้อย

หลีเฟยฝันร้ายจนตื่น เพราะอารมณ์ผันผวนชั่วครู่พลังจึงไม่เสถียรจนไปกระตุ้นเห็ดเข้า แน่นอนว่าเขาไม่โดนเห็ดกิน แต่พวกมันรีบเรียกเจี่ยนหวาที่อยู่ข้างนอกให้รีบมา ในสายตาเห็ดแล้วหลีเฟยก็เหมือนอาหารสำรองที่ก่อกบฏนั้นแหละ

เจี่ยนหวาเอาเรื่องของกลุ่มคนข้างนอกไปปรึกษา หลีเฟยจึงตั้งข้อสันนิษฐานขึ้นมาได้อย่างหนึ่งซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่นิยายบอกว่าเห็ดจะปรากฏตัวไปทั่วโลก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วไฮฟาเติบโตตามที่เจี่ยนหวาอยู่ และตัวเจี่ยนหวาเองคงไม่สามารถไปเดินทางไปแพร่พันธ์เห็ดได้ทุกประเทศหรอก ดังนั้นเห็ดจึงน่าจะมีความสามารถบางอย่าง

นั้นคือ เวลาของโลกที่ถูกทิ้งนั้นไร้กฎเกณฑ์ เห็ดฉวยโอกาสขณะข้ามกำแพงระหว่าง2โลก กระจายตัวไปตามที่ต่างๆ

เจี่ยนหวาปวดหัว เขาแค้นใจนักเขียนเหลือเกิน ข้างบ้านมีคนชื่อเจี่ยนหวาแล้วไปรบกวนชีวิตรึไงถึงได้แก้แค้นโดยเขียนให้พลังของเขาออกมาเป็นแบบนี้ จากนั้นไม่นานพวกเขาก็กลับสู่โลกความจริง

*ฝั่งจอห์นสัน บราน์ (ตัวเอกของนิยาย) บ้านของเขาอยู่ในสลัม เขาผอมแห้งจากการขาดสารอาหารและเจอกับการกลั่นแกล้งในห้องเรียนมาตลอด มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆแม้แต่ครูที่พยายามช่วยเขายังถูกไล่ออกแทน

วันหนึ่งอากาศมืดครึ่มมีกระกาศให้อพยศด่วน มีผู้ปกครองมารับเด็กและมีรถบัสของโรงเรียน แต่เขาก็แย่งขึ้นรถไม่ได้จึงได้แต่เดินกลับบ้าน แต่แล้วกลุ่มเด็กที่แกล้งเขามาตลอดก็โผล่มาล็อคตัว หลังโดนต่อยจนสลบเขาก็ถูกขังอยู่ในโรงไฟฟ้า

พวกวัยรุ่นที่แกล้งไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงแม้แต่น้อย ยิ่งได้ยินเสียงเตือนภัยพายุเฮอริเคนยิ่งรู้สึกสนุกพากันกลับบ้านอย่างตื่นเต้น แต่เมื่อเห็นพ่อแม่ของตนพากันหนีออกจากเมืองกลัวกระทั้งบ้านพัง ก็เริ่มกลัว แต่ถ้าสารภาพออกไปเรื่องที่เขาเคยแกล้งคนสมัยก่อนก็จะแดงออกมาด้วย สุดท้ายจึงไม่มีใครพูดอะไรออกมา

ฝั่งจอห์นสัน บราน์ (ตัวเอกของนิยาย) ถือว่าเจอความสิ้นหวังของแท้พายุลูกนี้ทำให้บ้านดีๆพังได้นับประสาอะไรกับโรงจ่ายไฟเก่าๆ เพดานปลิวหาย ชั้นสาม ชั้นสอง ที่พังลงมาตามๆกันชั้นหนึ่งที่เขาซ่อนอยู่ก็น้ำท่วมครึ่งตัว ขณะที่พายุกำลังจะมาถึงตัวเขา โลกพลันหยุดนิ่ง แม้แต่ของหลายอย่างที่ถูกลมหอบอยู่บนฟ้าก็ไม่ร่วงลงมา

ฉากวันโลกาวินาศนี้ทำให้เขาคุมตัวเองไม่อยู่ พลังสายฟ้าปะทุออกมาจากตัว อาคารที่เหลืออยู่กลายเป็นซาก โลกที่ถูกทอดทิ้งหายไป พร้อมพลังระดับSที่ถูกปลุกขึ้นมา

จอห์นสันถูกลมพัดขึ้นไปติดที่บ้านหลังหนึ่ง เมื่อพายุสงบลงลงเขาหนีตายออกมาได้จนถึงจุดช่วยเหลือ เขาก็เจอกับทนายความคนรักของคุณครูที่พยายามช่วยเหลือเขา ทั้งคู่ต้องการรับจอห์นสันเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งจอห์นสันก็ตงลง

(จบเล่ม1)


Ad Code

Responsive Advertisement